ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เรื่องจริงเกี่ยวกับการศึกษาไทย:ย้ายครูจนโรงเรียนพัง


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,145 ครั้ง
Advertisement

เรื่องจริงเกี่ยวกับการศึกษาไทย:ย้ายครูจนโรงเรียนพัง

Advertisement

❝ ย้ายครูจนโรงเรียนพัง! ฉลอง ปิ่นทอง เรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงที่น่าจะเตือนสติ และกระตุ้นจิตสำนึกที่ดีของผู้รับผิดชอบการจัดการศึกษาของบ้านเมือง ตั้งแต่ระดับชาติมาจนถึง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ได้ว่า การทำงานของท่านได้ทำให้การศึกษาของชาติหายนะลงทุกวัน ๆ ทำลายโรงเรียน ทำลายครู และทำลายเด็กอย่างเลือดเย็น คงจะจำกันได้ว่า ในการประเมินคุณภาพการศึกษารอบแรก สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ได้รายงานว่า ในจำนวนโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 30,000 โรงเรียน มีโรงเรียนกว่า 20,000 โรงเรียนไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำ และอีกกว่า 15,000 โรงเรียน อยู่ในขั้นไอซียูหรือโคม่า หลายโรงเรียนไม่ผ่านการประเมินภายนอกจนต้องเข้าร่วมโครงการไอซียูของหนังสือพิมพ์มติชน แปลเอาความว่า การศึกษาขั้นพื้นฐานของไทยกำลังดำดิ่งสู่หายนะ และการปฏิรูปการศึกษาที่ทำกันมา 9 ปี ได้ล้มเหลวลงแล้วอย่างไม่เป็นท่า เพราะอะไร? เพราะโรงเรียนที่จัดการศึกษาไม่มีคุณภาพส่วนมากเป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก ขาดความอิสระคล่องตัว ขาดแคลนครูอย่างหนักทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ขาดแคลนงบประมาณจนไม่สามารถพัฒนาโรงเรียนเป็นชิ้นเป็นอันได้ นักเรียนไม่ฉลาด ผู้บริหารโรงเรียนไม่มีความสามารถในการบริหารงานวิชาการ ขาดความรู้และทักษะในการบริหารและขาดภาวะผู้นำ นอกจากสาเหตุข้างต้นที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว สพท. และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาบางแห่ง ที่ขาดความรู้ ขาดวิสัยทัศน์ ทำตัวเป็นมาเฟียทางการศึกษา ก็มีส่วนซ้ำเติมโรงเรียนขนาดเล็กให้ด้อยคุณภาพลงไปอีก ด้วยการย้ายครูแบบเล่นพรรคเล่นพวก เลือกที่รักมักที่ชัง และไม่ฟังความเห็นจากผู้บริหารจนโรงเรียนพัง! ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ผู้เขียนเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ระหว่างปี 2539 ? 2549 ผู้เขียนดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ โรงเรียนสตรีอ่างทอง ทำงานร่วมกับคณะผู้บริหารและคณะครูพัฒนาโรงเรียนจนเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับและได้รับรางวัลโรงเรียนรางวัลพระราชทานในปี 2545 มีนักเรียนเพิ่มมากขึ้นเป็น 3,000 คนในปี 2549 จากโรงเรียนที่มีนักเรียนเพียง 1,460 คนในปี 2539 ต้นปี 2549 ผู้เขียนสอบเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนได้อันดับที่ 1 ได้เลือกไปดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนนี้ เห็นความขาดแคลนของโรงเรียน สภาพการทำงานของครู และสภาพของเด็ก ๆที่น่าสงสารแล้ว ผู้เขียนคิดว่า จะต้องทุ่มเทพัฒนาโรงเรียนแห่งนี้ให้พ้นจากสภาพเหมือนถูกทอดทิ้งให้ได้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโรงเรียน คณะครูและนักเรียนด้วยใจเต็มร้อย ผู้เขียนได้ขอให้เพื่อน ๆ และท่านที่เคารพนับถือบริจาคทุนการศึกษา บริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์ และสร้างห้องคอมพิวเตอร์ จัดหาอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนอีเล็คทรอนิกส์ จัดหาโปรแกรม e- learning เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียน พัฒนานักเรียนให้มีความรู้ทางด้านวิชาการและฝึกนักเรียนให้มีระเบียบวินัยและมีกิริยามารยาทที่ดีงาม ส่งนักเรียนเข้าแข่งทักษะทางวิชาการระดับต่าง ๆ ในต้นปีการศึกษา 2549 นั้นเอง โรงเรียนได้ผ่านการประเมินภายนอก ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษา จาก สมศ. ชุมชนเริ่มศรัทธาในโรงเรียน มีความหวังที่จะได้เห็นโรงเรียนดีใกล้บ้าน จะได้ไม่ต้องส่งลูกหลานไปเรียนไกลบ้าน แต่แล้วความหวังของชาวบ้านก็พังทลายลง ความมุ่งมั่นในการพัฒนาโรงเรียนของผู้บริหารโรงเรียน คณะครูและชุมชนได้รับการตอบแทนจาก สพท. และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ด้วยการย้ายครูออกจากโรงเรียนถึง 3 คน (โดยมีผู้บริหาร ที่คงไม่ได้รับการอบรมด้านจริยธรรมกระซิบกับครูที่ขอย้ายว่า อยู่กับ ผอ.คนนี้ทำงานหนัก ย้ายมาอยู่กับพี่สบายกว่า พอครูเขียนย้าย ที่ภาษาฟุตบอลเรียกว่า ลูกเข้าเท้า จึงให้ย้ายดังใจโดยไม่ฟังความเห็นจากผู้บริหารโรงเรียนที่ขอให้พิจารณาระงับย้ายไว้ก่อนเพื่อสร้างศรัทธาให้ชุมชน) มีครูย้ายมาแทน 1 คน จากครู 9 คน เหลือครูเพียง 7 คน ผู้ปกครองเริ่มขาดความมั่นใจในโรงเรียน ย้ายลูกหลานหนีไปเรียนในตัวอำเภอ คอมพิวเตอร์ที่จัดหาไว้ก็ใช้ประโยชน์ได้น้อยลง อังกะลุงไม่มีคนเล่น กีฬาก็เล่นไม่ได้เพราะนักเรียนน้อย สื่อและอุปกรณ์การสอนที่ขอบริจาคมาก็ไม่มีคนใช้ เกิดคำถามขึ้นว่า สพท.และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาย้ายครูแบบนี้ ผู้บริหาร ครูและชุมชนจะพัฒนาโรงเรียนได้อย่างไรและพัฒนาไปทำไม? เพราะอยู่เฉย ๆ แบบ ?มึงอยู่ได้ กูอยู่ได้? รอวิ่งเต้น อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาหรือวิ่งเต้นนักการเมืองย้ายไปโรงเรียนใหญ่เบาแรงกว่ากันเยอะ! มีอุปกรณ์การสอนตลอดจนสื่อไอทีเพียบพร้อม ถ้าไม่มีครู สิ่งเหล่านี้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ปีนี้มีครูเออร์ลี่ รีไทร์ 1 คน ขอย้ายอีก 2 คน ถ้าย้ายกันแบบตัดตีนสินมือเหมือนปีที่แล้ว ครูก็จะเหลือ 4 คน สอนนักเรียน 8 ห้อง 8 วิชา ประเมินภายนอกครั้งต่อไป โรงเรียนนี้เข้าไอซียูแน่! การศึกษาของชาติหายนะ โรงเรียนพัง ชุมชนและเด็กยากจนขาดที่พึ่ง!! ย้ายครูแบบนี้ใช่ไหมที่ทำให้การศึกษามีคุณภาพในสายตาของ สพท. และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา!!! ❞

    



โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1479 วันที่ 26 ก.ย. 2551

เรื่องจริงเกี่ยวกับการศึกษาไทย:ย้ายครูจนโรงเรียนพัง

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

วรรณคดี....เรื่องไซอิ๋ว

วรรณคดี....เรื่องไซอิ๋ว


เปิดอ่าน 7,238 ครั้ง
เพลงครูบ้านนอกบอกรัก

เพลงครูบ้านนอกบอกรัก


เปิดอ่าน 7,151 ครั้ง
ฮวงจุ้ย ความรัก ...

ฮวงจุ้ย ความรัก ...


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
ห่างไกล..สิว..ผิวก็สวย

ห่างไกล..สิว..ผิวก็สวย


เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

พิธีกรงานสัมมนา

พิธีกรงานสัมมนา

เปิดอ่าน 7,470 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ยิ้ม....มหานิยม
ยิ้ม....มหานิยม
เปิดอ่าน 7,416 ☕ คลิกอ่านเลย

ผู้หญิงแชมป์พูดโทรศัพท์
ผู้หญิงแชมป์พูดโทรศัพท์
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

ตำรายา ริดซี่-ดวง (อีกครั้ง)
ตำรายา ริดซี่-ดวง (อีกครั้ง)
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

หนูอ่านแล้ว  ขอบอกต่อ........
หนูอ่านแล้ว ขอบอกต่อ........
เปิดอ่าน 7,154 ☕ คลิกอ่านเลย

ไมเนอร์ฟู้ดฝันปีหน้าโตพรวดเท่าตัว เล็งฮุบร้านอาหารต่างชาติเพิ่ม
ไมเนอร์ฟู้ดฝันปีหน้าโตพรวดเท่าตัว เล็งฮุบร้านอาหารต่างชาติเพิ่ม
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

ว่านหางจระเข้.....ขจัดรังแคได้
ว่านหางจระเข้.....ขจัดรังแคได้
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม
เปิดอ่าน 8,441 ครั้ง

13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
เปิดอ่าน 12,076 ครั้ง

เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?
เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?
เปิดอ่าน 26,950 ครั้ง

7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา
7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา
เปิดอ่าน 14,579 ครั้ง

แค่ถ่ายภาพเอกสารให้ตรง แล้วส่งเข้าไลน์ ก็ถอดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ ไม่ต้องพิมพ์
แค่ถ่ายภาพเอกสารให้ตรง แล้วส่งเข้าไลน์ ก็ถอดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ ไม่ต้องพิมพ์
เปิดอ่าน 63,015 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ