Advertisement
❝ ประวัติกลองทอง(มโหระทึก) อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร
มโหระทึก ชาวบ้านเรียกว่า ?กลองทอง? ขณะที่พบในจังหวัดมุกดาหาร มีอยู่ 2 ใบ เป็นกลองใหญ่และที่อยู่ที่อำเภอคำชะอี อีก 1 ใบ เป็นกลองขนาดรองลงมา กลองที่อยู่ในอำเภอดอนตาล มโหระทึกหรือกลองทองที่อยู่ในอำเภอดอนตาลมีประวัติความเป็นมาว่าเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม 2481 มีชาวบ้าน 3 ท่าน คือ
1. นายเหล็ก ปริปุรณะ
2. นายแปง ศรีลาศักดิ์
3. นายลับ ศรีลาศักดิ์
ทั้ง 3 ท่านเป็น ผู้ที่มีความชำนาญในการหาปลาในลำแม่น้ำโขงเป็นอย่างมากใน
วันดังกล่าว ได้พายเรือหาปลาตามลำแม่น้ำโขงตามปกติ ขณะที่ผ่าน วัดเวินชัยมงคล อำเภอดอนตาล ซึ่งตรงกับบ้านนาพาน ประเทศลาวสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และบริเวณริมตลิ่งน้ำโขงที่ถูกเซาะพังลงมานั้น ก็ได้พบวัตถุชิ้นหนึ่ง ซึ่งดูคล้ายโลหะโผล่พ้นจากพื้นดินเพียงเล็กน้อยทั้ง 3 คนจึงตัดสินใจขุดขึ้นมาดู เพื่อที่จะได้รู้ว่าเป็นอะไร และนำไปชะล้างให้สะอาด
ลักษณะของกลองทอง(มโหระทึก)
กลองมโหระทึกมีขนาดกว้าง 86 เซนติเมตร ท้ายกลองมีเส้นผ่าศูนย์กลาง
90 เซนติเมตร ความยาวของกลองจากหัวจรดท้าย 66 เซนติเมตรซึ่งนับว่าเป็นกลองขนาดใหญ่ ที่สุดในประเทศไทย
ลักษณะสำคัญ
คือ มีลักษณะคล้ายกลองที่ทำด้วยโลหะผสมกันอย่างน้อย 3 ชนิด ได้แก่ ทองแดง ดีบุก และตะกั่ว ซึ่งรวมเรียกว่า สำริด หน้ากลองจะมีรูปกบเวียนซ้ายอยู่ 4 ตัว และมีรูปคล้ายดวงอาทิตย์ 14 แฉก ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี โทเวเม่ ชาวเวียดนาม ได้กล่าวว่าเป็นรูปเรือส่งวิญญาณเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ของดองซองเป็นแหล่งที่อยู่ในเวียดนามตอนเหนือ และได้ให้ข้อสัญนิษฐาน เอาไว้ว่าดูตามลวดลายน่าจะมีอายุประมาณ 3, 000 ปี
ประโยชน์ของกลองทอง
พวกหลี พวกเหลียวหล่อสำริดกลองทองเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำสงครามประกอบพิธีเซ่นบวงสรวงบูชาขับไล่สัตว์ร้ายหรือกระทั่งเพื่อใช้ในการบันเทิง เป็นต้น
การเก็บรักษา
หลังจากชาวบ้านได้นำกลองทองมาเก็บรักษาใน วัดมัชฌิมาวาส (วัดกลาง) เป็นหน้าที่ของเจ้าอาวาสเก็บไว้เพื่อให้ผู้คนไปมาหาสู่ได้มาดูมาชม
คนไทยในอีสานในสมัยก่อน เมื่อเกิดจันทรุปราคาจะเรียก (กบกินเดือน)เมื่อเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นชาวบ้านจะช่วยกันตีเกาะเคาะไม้ จุดประทัดยิงปืนให้เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมขึ้นให้กบกินเดือนตกใจและคลายเดือน ฟ้าฝนไม่ตกตามฤดูกาล ชาวบ้านพร้อมพระสงฆ์
จะประกอบพิธีขอฝนโดยขุดสระเล็กๆใส่น้ำจอกแหนลงไปแล้วนำเอากบ ปลาข่อน คางคกมาลงไว้ที่สระน้ำ ระยะ 3 วัน 3 คืน ถ้ามีความแห้งแล้งมากจะสวดถึง 7 วัน 7 คืน ขณะประกอบพิธีอยู่นั้นหากกบ หรือ คางคกอย่างใดอย่างหนึ่งร้องขึ้นฝนจะตกลงมาในไม่ช้านั่นเอง
อ้างอิง
-หนังสืออนุสรณ์ เปิดหอกลองทอง (มโหระทึก) วัดมัชฌิมาวาส (วัดกลาง)
อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร วันที่ 13 พฤษภาคม 2549
-ผู้ให้ข้อมูล อาจารย์ ใส จันทพันธ์ อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ที่ 7
บ้านตาลรุ่ง ต. ดอนตาล อ. ดอนตาล จ .มุกดาหาร
-ผู้ให้ข้อมูล เจ้าอาวาส วัดมัชฌิมาวาส (วัดกลาง) อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร
-ผู้ให้ข้อมูล อาจารย์พิกุล ศรีวะโสภา
❞
วันที่ 29 ธ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,151 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,155 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,155 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 11,059 ครั้ง |
เปิดอ่าน 25,742 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,898 ครั้ง |
เปิดอ่าน 2,565 ครั้ง |
เปิดอ่าน 18,812 ครั้ง |
|
|