Advertisement
ประวัติ วะโฮรัมย์ วีลแชร์มือหนึ่งไทย ปั่นสุดเจ๋งพุ่งแตะเส้นชัยคว้าเหรียญทองแรก วีลแชร์ 5,000 ม. ที (54) ภายใน 10.22.38 น. ช่วยทัพไทยขยับรั้งอันดับ 34 ของตาราง มี 1 ทอง 1 เงิน 4 ทองแดง ศึก พาราลิมปิกเกมส์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา
การแข่งขันกีฬา "พาราลิมปิกเกมส์" ครั้งที่ 13 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา มีการชิงชัยกัน 45 เหรียญทอง โดยทัพนักกีฬาไทยมีลุ้นเหรียญจาก วีลแชร์เรซซิ่ง 5,000 เมตร ที (54) จากประวัติ วะโฮรัมย์ และยกน้ำหนัก รุ่น 56 กก. ชาย ทองสา มารศรี, รุ่น 60 กก. ชาย ประสิทธิ์ ทองดี
ประวัติพุ่งแตะเส้นซิวทองแรก วีลแชร์เรซซิ่ง ที่สนามรังนก โดยช่วงเช้าเป็นรอบคัดเลือก นักกีฬาไทยลงแข่งขัน 3 คน 400 ม.ชาย ที (54) อำไพ เสือเหลือง ปั่นเข้าเส้นเป็นที่ 4 ทำเวลา 1.37.54 น. ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้เช่นเดียวกับ ประวัติ วะโฮรัมย์ ในระยะ 800 ม. ที่คัดเลือกผ่านเข้ามาเป็นอันดับที่ 2 ด้วยเวลา 1.38.79 น. ส่วนน้องใหม่ ขจรศักดิ์ ธรรมโสภณ ตามหลังเข้ามาเป็นอันดับที่ 3 เวลา 1.39.68 น. ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เช่นเดียวกัน
จากนั้นเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 5,000 ม. ที (54) ประวัติ วีลแชร์มือหนึ่งของไทยชาวสระแก้ว เจ้าของเหรียญเงิน 10,000 ม. เอเธนส์เกมส์ ปั่นได้อย่างสุดเจ๋ง โดยออกสตาร์ตยังคงเกาะกลุ่มผู้นำ จนเข้าสู่รอบที่ 3 ประวัติ อัดหนีขึ้นนำเป็นที่ 1 ของกลุ่ม และรักษาระดับไว้ได้ตลอด แม้ เคิร์ท เฟิร์นลี่ จากออสเตรเลีย จะบี้ไล่หลัง แต่ ประวัติกันไม่ให้แซง ก่อนที่จะอัดเต็มพิกัดในช่วงเส้นตรงก่อนเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรกด้วยเวลา 10.22.38 นาที คว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาในการแข่งขันครั้งนี้ หลังจากที่ผ่านพ้นมาแล้ว 5 วัน ส่วนเหรียญเงิน เคิร์ท เฟรียนเลย์ (ออสเตรเลีย) 10.22.97 น. ทองแดง เดวิด เวียร์ (สหราชอาณาจักร) 10.23.03 น.
ยกมือไหว้ขอบคุณกองเชียร์ หลังจากที่พุ่งแตะเส้นชัยเป็นคนแรก ประวัติ ถึงกับตะโกนอย่างสุดเสียง พร้อมกับยกมือขวาชูอย่างสะใจที่สามารถปั่นเข้าเส้นชัย และคว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาได้สำเร็จ และก่อนที่จะออกสนามแข่งขัน ประวัติ ได้ยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณกองเชียร์ ก่อนที่จะได้รับเสียงปรบมืออย่างท่วมท้น
เผยสะใจแย่งแชมป์คืนสำเร็จ ประวัติ เปิดเผยหลังออกจากสนามแข่งขันว่า "สะใจมากที่สามารถแย่งแชมป์คืนจาก เคิร์ท ได้หลังจากที่พลาดท่าเสียแชมป์ไปเมื่อ 4 ปี ที่แล้วในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ที่เอเธนส์ และที่สามารถต่อสู้มาจนถึงทุกวันนี้ได้เพราะมีภรรยาและลูกที่คอยเป็นกำลังใจให้เวลาที่รู้สึกเหนื่อยและท้อในการฝึกซ้อม สำหรับตนยังเหลือการแข่งขันอีก 4 รายการ คือ มาราธอน, 1,500 ม., 800 ม. และ 4x400 ม. ซึ่งรายการนี้เราเป็นเจ้าของสถิติ และก็เป็นความหวังอีกรายการ
"จุตินันท์"กั๊กเม็ดเงินอัดฉีด ด้าน จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการทีมนักกีฬา ที่เพิ่งเดินทางมาถึงเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.ย. และได้เข้ามาเชียร์นักกีฬาที่สนาม เปิดเผยว่า "รู้สึกดีใจ ที่มาถึงนักกีฬาก็ได้เหรียญทอง ก่อนหน้าที่จะเดินทางได้โทรศัพท์คุยกับนักกีฬาบ้างแล้ว และเมื่อมาถึงได้ลงไปให้กำลังใจในสนามก่อนเวลาแข่งขัน ส่วนเรื่องเงินโบนัสไม่ต้องเป็นห่วง มีให้แน่นอนผู้สื่อข่าวถามต่อเรื่องเงินอัดฉีดที่จะให้กับนักกีฬา ซึ่งเจ้าตัวตอบว่าได้สรุปเม็ดเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องรอแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง"
ผลัดไทยขยับ10อันดับรั้งที่34 สำหรับ 1 เหรียญทอง ที่ได้จาก ประวัติ วะโฮรัมย์ ส่งผลให้ไทยเก็บเพิ่มเป็น 6 เหรียญ ช่วยให้ตารางเหรียญทองไทยในเวลานี้ขยับขึ้นจากเดิม 10 อันดับ โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา ไทยอยู่อันดับที่ 47 มี 1 เงิน 4 ทองแดง ก่อนทะยานขึ้นมารั้งอยู่ที่อันดับ 34 โดยมี 1 ทอง 1 เงิน 4 ทองแดง
ส่วนอันดับ 1 จีน 32 ทอง 37 เงิน 95 ทองแดง อันดับที่ 2 สหราชอาณาจักร 25 ทอง 13 เงิน 14 ทองแดง อันดับที่ 3 สหรัฐอเมริกา 18 ทอง 12 เงิน 14 ทองแดง อันดับที่ 4 ออสเตรเลีย 11 ทอง 14 เงิน 14 ทองแดง อันดับที่ 5 รัสเซีย 11 ทอง 12 เงิน 11 ทองแดง สรุปล่าสุดเมื่อเวลา 20.30 น. ตามเวลาจีน
แพ้น้ำหนักตัว"ทองสา"ชวดทองแดง ยกน้ำหนัก ที่ เบฮัง ยูนิเวอร์ซิตี้ ยิมเนเซียม รุ่น 56 กก. ชาย ทองสา มารศรี เจ้าของเหรียญเงินรุ่น 48 กก. พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่ขยับขึ้นมาเล่น รุ่น 56 กก. และเป็นความหวังเดียวของนักยกลูกเหล็กไทย ไม่สามารถสานฝันสำเร็จ หลังทำน้ำหนักดีสุดแค่ 180 กก. ในการยกครั้งที่ 2 ซึ่งยกครั้งแรกผ่านสบายที่ 175 กก. แต่การยกครั้งสุดท้ายเรียกเหล็กที่ 180 กก. แต่ทำไม่ได้ โดยจบ 3 ครั้งอยู่ในกลุ่มที่มีลุ้นเหรียญทองแดง ร่วมกับ จุง คึม จอง จากเกาหลี ที่ทำน้ำหนักได้เท่ากัน ต้องดูที่น้ำหนักตัว ปรากฏว่า ทองสา มีน้ำหนักตัวมากกว่าเพียง 0.1 กก. โดย ทองสา มีน้ำหนักตัว 55.12 กก.
ส่วน จุง คึม จอง มีน้ำหนักตัว 51.11 กก. ทำให้ ทองสา ที่น้ำหนักตัวมากกว่าชวดเหรียญทองแดงไปอย่างน่าเสียดาย ทำผลงานดีสุดอันดับที่ 4 จากนักกีฬาทั้งสิ้น 14 คน ส่วนเหรียญทองเป็นของ โอมาน เชอรีฟ จากอียิปต์ ที่ทำลายสถิติโลกของตัวเองทั้ง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกยกได้ 195 กก., ครั้งที่ 2 ยกได้ 200 กก. และครั้งสุดท้าย 202.5 กก. เป็นสถิติโลก และสถิติพาราลิมปิกเกมส์ใหม่ ส่วนเหรียญเงิน ราซูล โมซิน (อิรัก) 185 กก.
"ประสิทธิ์"ยก160กก.ได้แค่ที่7 ขณะที่ ประสิทธิ์ ทองดี รุ่น 60 กก. ชาย ทำผลงานได้ดีที่สุดแค่อันดับที่ 7 โดยยกเหล็กผ่าน 2 ครั้งแรก ที่ 155 กก. และ 160 กก. ส่วนครั้งสุดท้ายเรียกเหล็ก 165 กก. ปรากฏว่ายกไม่ผ่าน ทำได้แค่ 160 กก. ส่วนเหรียญทองเป็นของ ฮาเม็ตห์ โมฮัมเหม็ด (อิหร่าน) 202 กก. เหรียญเงิน ไอราท ซาเกียว (รัสเซีย) 200 กก. และเหรียญทองแดง เยฮิ อิบราฮิม ชาบาน (อียิป) 195 กก.
"สากล"ชนะหวิวลิ่วก่อนรองฯ ยิงธนู ที่ โอลิมปิก กรีน เทนนิส เซ็นเตอร์ รอบ 16 คนสุดท้าย ประเภทยืน สากล อินแก้ว ที่พิการขาขาดหนึ่งข้าง พบกับ คิม มัสสะ โอโนเดระ นักกีฬาจากญี่ปุ่น โรบินฮู้ดหนึ่งเดียวของไทยที่ผ่านเข้ารอบไม่ทำให้ผิดหวัง เล็งเป้าเฉือนชนะคู่แข่งแค่ 4 แต้ม โดยการยิง 4 ชุด สากล ทำได้ 100 คะแนน ส่วนนักกีฬาญี่ปุ่นยิงได้ 96 คะแนน ส่งผลให้ สากล ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยจะพบกับ แฟบบริค มูเนียร์ จากฝรั่งเศส
บ็อคเซียพ่ายโสมเข้าชิงทองแดง บ็อคเซีย ที่ เฟนซิ่งฮอลล์ ประเภทคู่ รอบแรก ใช้ระแบบแข่งขันแบพบกันหมดในสาย นักกีฬาไทย 3 คน ได้แก่ อัครพล ปั้นสนิท, ถนิมพัสตร์ วิสารทนันท์ และ วิลาสินี สุขราช ที่สายบี ร่วมกับ นิวซีแลนด์, กรีซ และ โปรตุเกส ปรากฏว่า หลังจบรอบแรกมีสถิติแข่ง 3 นัด แพ้ 2 ชนะ 1 เท่ากับ นิวซีแลนด์ และ กรีซ ต้องนับคะแนนได้เสีย
ทีมไทย แต้มเสียน้อยกว่า จึงติดเป็นที่ 2 ของกลุ่ม ผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย พบกับ เกาหลี แต่ปรากฏว่า นักกีฬาของไทยสู้ไม่ไหวชวดตั๋วเข้ารอบชิง โดยพ่ายไป 0-15 คะแนน ทำได้แค่เข้าชิงเหรียญทองแดง ซึ่งจะโคจรมาพบกับ โปรตุเกส ที่อยู่สายเดียวกัน
|
ขอบคุณ ภาพและข่าวจาก SIAMSPORT |
Advertisement
เปิดอ่าน 17,105 ครั้ง เปิดอ่าน 11,086 ครั้ง เปิดอ่าน 10,128 ครั้ง เปิดอ่าน 8,899 ครั้ง เปิดอ่าน 10,844 ครั้ง เปิดอ่าน 17,413 ครั้ง เปิดอ่าน 15,894 ครั้ง เปิดอ่าน 10,822 ครั้ง เปิดอ่าน 13,550 ครั้ง เปิดอ่าน 15,355 ครั้ง เปิดอ่าน 29,611 ครั้ง เปิดอ่าน 9,586 ครั้ง เปิดอ่าน 12,686 ครั้ง เปิดอ่าน 18,526 ครั้ง เปิดอ่าน 18,182 ครั้ง เปิดอ่าน 20,388 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 10,644 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 17,738 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 9,414 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 22,732 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 2,767 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 4,711 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 11,179 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 15,371 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,542 ครั้ง |
เปิดอ่าน 17,077 ครั้ง |
เปิดอ่าน 78,925 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,365 ครั้ง |
|
|