สุดยอดภริยาผู้นำโลก ปี 2009รับประกันความสวย..แซบ..ซ่าส์ ท้าทายทุกสายตา!!
ตลอดปี 2009 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะไม่มีแวดวงไหนโดดเด่นโดนใจเท่ากับแวดวงภริยาผู้นำโลก ซึ่งเปี่ยมด้วยสีสันคึกคักน่าจับ ตามอง ไม่แพ้มาดเข้มๆของบรรดาท่านผู้นำ...
คาร์ลา บรูนี
ย้อนกลับไปช่วงประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่กรุงลอนดอน ภริยานายกรัฐมนตรีอังกฤษ "ซาราห์ บราวน์" ได้มีโอกาสแจ้งเกิดสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก เพราะเป็นเจ้าภาพ ทำให้ได้ร่วมเฟรมถ่ายรูป และทำกิจกรรมใกล้ชิดกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา แม้จะถูกวิจารณ์เรื่องการแต่งตัวเฉิ่มเชยไร้รสนิยม แต่ก็ได้เสียงชมอื้อซ่าส์ ที่ทำตัวเป็นแบบอย่างในเรื่องความประหยัด โดยเลือกใช้แต่เสื้อผ้าแบรนด์ท้องตลาด ราคาไม่เกินตัวละ 500 ปอนด์ เข้ากับยุคสมัยเศรษฐกิจฝืดเคือง จุดยืนเรื่องนี้ สอดคล้องตรงกับ "มิสซิสโอบามา" ที่ไม่นิยมทำตัวฟู่ฟ่าให้ถูกหมั่นไส้ จึงเลือกใช้เสื้อผ้าแบรนด์ธรรมดาๆเช่น J Crew ราคาตัวละไม่กี่ร้อยดอลลาร์- สหรัฐฯ ผสมผสาน กับผลงานออกแบบของดีไซเนอร์อเมริกัน ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ สร้างสรรค์จนกลายเป็นสไตล์ส่วนตัวๆ ซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่าการโปะแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจดเท้า
เรื่องบ้าแบรนด์เนมจนเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของสังคม ต้องยกให้ "คาร์ลา บรูนี" หลังบ้านประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่ถูก จวกว่าใช้ชีวิตหรูหราฟุ้งเฟ้อเกินงาม ราวกับเป็นพระนางมารีอังตัวเนตต์กลับชาติมาเกิด อะไรๆก็ต้องแบรนด์เนมไปซะหมด
******ภริยานายกฯไทย-----------หลังบ้านนายกฯญี่ปุ่น
ทั้งๆที่อุตส่าห์ทุ่มทุนสร้างจนได้ชื่อว่าเป็นเฟิร์สต์ เลดี้ ที่แต่งตัวดี มีรสนิยมอันดับท็อปๆของโลก แต่ก็ต้องเพลี่ยงพล้ำจนได้ เมื่อสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศสมาเจอกับ เจ้าหญิงเลติเซีย พระชนม์ 36 ชันษา อดีตผู้ประกาศข่าวดาวเด่นของสเปน ซึ่งวาสนาดีได้อภิเษกสมรสกับมกุฎราชกุมารเฟลิเป ตั้งแต่รู้ตัวว่าต้องติดตามสามีเดินทางเยือนกรุงมาดริด ประเทศสเปน ช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เมียผู้นำแดนน้ำหอมก็เร่งตระเตรียมเสื้อผ้าหน้าผมเพื่อให้พร้อมประชันกับเจ้าหญิงสเปน
เจ้าหญิงเลติเซีย
กระนั้น ชัยชนะของการดวลครั้งนี้ กลับตกเป็นของเจ้าหญิงเลติเซีย ซึ่งเลือกสวมชุดเดรสเข้ารูปสีม่วงเปลือกมังคุดต่อระบายเป็นชั้นๆ แมตช์กับรองเท้าส้นสูงในโทนสีเดียวกัน ตอนเปิดวัง ต้อนรับอาคันตุกะจากฝรั่งเศส ทำให้ได้รับคำชมอื้อซ่าส์ว่าดูงาม สง่าทันสมัย สมกับเป็นราชนิกูลยุคใหม่ โดยชุดปราบเซียนชุดนี้ เป็นฝีมือออกแบบของดีไซเนอร์ท้องถิ่น "เฟลิเป วาเรลา"สามารถกลบรัศมีความโดดเด่นของ "คาร์ลา บรูนี" ที่มาในชุดเดรสสั้นทรงคลาสสิก ในโทนสีอิเล็กทริก บลู ของดิออร์ ราคา 1,500 ปอนด์ กับรองเท้าส้นเตี้ยของคริสเตียน ลูโบแตง คู่ละ 320 ปอนด์
ศึกอีกนัดที่ทำให้เฟิร์สต์ เลดี้ ฝรั่งเศส ต้องถอยทัพยอมรับความพ่ายแพ้ก็คือ ตอนประชันกันในงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์สุดหรู ที่วังซาร์ซูเอลา โดยมีพระราชวงศ์สเปนเป็นเจ้าภาพ งานนี้เจ้าหญิงเลติเซียเลือกชุดราตรียาวแบบเจ้าหญิงในโทนสีเมตทาลิก
ดูโก้หรูภูมิฐานสมฐานะ ฝ่าย "คาร์ลา" ยังคงเก็งผิด เพราะเลือกชุดราตรีกำมะหยี่สีดำขลับของดิออร์ ในสไตล์คอนเซอร์เวทีฟ แถมยังเกล้าผมซะเรียบร้อยจนไม่เหลือแววเซ็กซี่ ...บทเรียนจากงานนี้ทำให้รู้ว่า สู้กับใครไม่สู้ ดันสู้กับเจ้าหญิง ที่มีมงกุฎเพชรเป็นอาวุธลับ ก็มีแต่แพ้ลูกเดียว
อย่างไรก็ดี ต้องขอชมเจ้าหญิงเลติเซียที่ทำการบ้าน มาดี เพราะเวลาปกติไม่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง เจ้าหญิงก็ทรงเป็นตัวของตัวเอง โปรดแต่งตัวในแนวสปอร์ตและเวิร์กกิงวูแมน ดูทะมัดทะแมง โดยมักจะทรงชุดสูทกางเกง หรือไม่ก็เสื้อโปโลกับกางเกงสีขาวเข้ารูป เผย ให้เห็นรูปร่างที่สมส่วนไม่แพ้สาวๆ ถึงแม้จะเป็นคุณแม่ลูกสองแล้วก็ตาม
ควีนราเนีย
สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส เคยบ่นว่ารู้สึกรำคาญใจอยู่ เหมือนกัน ที่ถูกจับท้าชนกับเฟิร์สต์ เลดี้ และพระราชวงศ์ชั้นนำของประเทศ ต่างๆมาแล้วทั่วโลก ไม่เว้นแม้ กระทั่งตอนช่วยสามีทำหน้าที่เจ้าภาพ ต้อนรับการมาเยือนฝรั่งเศสของเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ก็ไม่วายต้องโดนท้าดวลความสวยกับพระชายาผู้งดงาม "เจ้าหญิงโมซาห์" แต่ก็ไม่ถึงกับเอาเป็นเอาตายเหมือนที่ผ่านมา ส่วนตอนที่ไปเจอกับ พระราชินีราเนียแห่งจอร์แดน ที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงปกป้องแม่และเด็กทั่วโลก ให้ห่างไกลจากโรคเอดส์ ก็ชิลๆไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะ "คาร์ลา" เริ่มรู้ตัวแล้วว่า ถ้าไม่อยากให้สามีเดือดร้อน ก็ไม่ควรแต่งตัว สวยข่มเมียผู้นำโลก
เรื่องนี้ต้องไปถามภริยานายกฯเมืองไทยกับเมียนายกฯญี่ปุ่นว่า ทำตัวยังไงให้โลว์โพรไฟล์...ไม่ขโมยซีนสามี!!
ตลอดปี 2009 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะไม่มีแวดวงไหนโดดเด่นโดนใจเท่ากับแวดวงภริยาผู้นำโลก ซึ่งเปี่ยมด้วยสีสันคึกคักน่าจับ ตามอง ไม่แพ้มาดเข้มๆและฝีมือบริหารประเทศของบรรดาท่านผู้นำ ที่บอกว่าคึกคักๆ ก็เพราะเวลาเจอกันแต่ละที ต้องมีเรื่องให้เม้าท์สนั่นเมือง โดยเฉพาะเรื่องสไตล์การแต่งตัว ที่ไม่มีใครยอมใครให้เสียเหลี่ยมสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
และคงจะจริงดังสุภาษิตที่ว่า นางสิงห์สองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ "มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งผิวสีคนแรกของอเมริกา โคจรมาป๊ะกับเฟิร์สต์ เลดี้ สุดเซ็กซี่แห่งฝรั่งเศส "คาร์ลา บรูนี" วัย 41 ปี เป็นต้องฮือฮาแซบซ่าส์ เพราะมักจะถูกจับประชันกันตั้งแต่หัวจดเท้า พร้อมกับให้คะแนนโหวตว่าใครดูดีมีรสนิยมเรื่องแฟชั่นมากกว่ากัน
มิเชล โอบามา
อันที่จริงแล้ว คู่นี้ต้องเจอกันมาตั้งแต่ตอนประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสื่อทั่วโลก ต่างตีข่าวและขุดคุ้ยสไตล์การแต่งตัวของ 2 เฟิร์สต์ เลดี้ ละเอียดยิบทุกแง่ทุกมุม เพื่อประชันกันว่านางสิงห์บ้านไหนคือแฟชั่นไอคอนอันดับหนึ่ง ตัวจริงเสียงจริง
อย่างไรก็ดี น่าเสียดายที่ศึกยกแรกต้องมีอันฟาวล์ เพราะจู่ๆภริยา ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส ก็ขอบายหน้าตาเฉย โดยอ้างว่าติดภารกิจส่วนตัว ไม่สะดวกติดตามสามีไปร่วมประชุมกับผู้นำโลก และครั้งนี้ก็ไม่ใช่หมายสเตท วิซิต คงไม่เป็นปัญหาถ้าจะขาดหล่อนไปสักคนเจาะลึกจริงๆแล้ว แหล่งข่าววงในแฉว่า เมียผู้นำแดนน้ำหอมไม่ได้ล้มป่วยหรือติดงานสำคัญ แต่สาเหตุที่เบี้ยวนัดกะทันหัน เป็นเพราะกลัวเสียเซลฟ์ โดนเมียผู้นำมะกันช่วงชิงความเด่นไปครอง เพราะตอนนั้นกระแสคลั่งไคล้โอบามากำลังมาแรงทั่วโลก อีกอย่างก็เสี่ยงเกินไปที่จะประชันโฉมกับเมียผู้นำโลกคราวเดียวถึง 16 คนหนีไปตั้งหลักรอดูสถานการณ์จนมั่นใจได้ว่ารับมือไหว จึงตกปาก รับคำทำหน้าที่เจ้าบ้าน ช่วยสามีต้อนรับประธานาธิบดี บารัค โอบามา กับศรีภริยา ที่เดินสายต่อจากอังกฤษมาเยือนเมืองสตาร์สบูร์ก ทางตะวันออกของฝรั่งเศส (ติดกับเยอรมนี) เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางไปสมทบกับผู้นำจากทั่วโลก เพื่อร่วมประชุมสุดยอดผู้นำนาโต ซึ่งฝรั่งเศส และเยอรมนีเป็นเจ้าภาพร่วม ตั้งแต่มีข่าวว่าสองนางสิงห์จะเจอกัน สื่อทั่วโลกก็พร้อมใจประโคมข่าวว่า ในที่สุด "มิเชล โอบามา" กับ "คาร์ลา บรูนี" ก็ได้ประชันกัน
ฉากแรกที่พบกัน ต่างฝ่ายต่างเลือกเสื้อผ้าฝีมือออกแบบของดีไซเนอร์ คนโปรด โดยเฟิร์สต์ เลดี้ มะกัน ปรากฏโฉมในชุดโค้ตลายพรินต์ดอกป๊อปปี้ ของแบรนด์ Thakoon (ดีไซเนอร์ไทย ที่ไปโด่งดังในนิวยอร์ก) สวมทับกับชุดเดรสสีชมพูและรองเท้าคัตชูส้นเตี้ย สีดำ ขณะที่เฟิร์สต์ เลดี้ ฝรั่งเศส เลือกสวมเสื้อคลุมเทรนช์ โค้ตสีเทาอ่อน คาดเข็มขัดของดิออร์ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่โบว์ใหญ่เบิ้มตรงปกเสื้อ แมตช์กับรองเท้าบัลเลต์ ของห้องเสื้อดิออร์ โดยผลการประชันครั้งนี้ ปรากฏว่าเสมอกัน หนึ่งต่อหนึ่ง
ที่มา
วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2552