ภูเก็ต 26 ธ.ค.- ชาวไทยและต่างชาติร่วมพิธีรำลึก 5 ปี โศกนาฏกรรมสึนามิ บางคนสะเทือนใจถึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ด้านญาติของผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติเผยความประทับใจได้รับการช่วยเหลืออย่างดีจากคนไทย
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานรำลึกครบรอบ 5 ปี เหตุการณ์สึนามิถล่มเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547 ในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน ที่สวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง อ.กะทู้ วันนี้ (26 ธ.ค) พร้อมอ่านสารจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาส "วันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2552" โดยมีญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมบุญตักบาตร เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งบางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวเข้าชมนิทรรศการของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้นเนื่องใน "วันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ" เพื่อให้ความรู้และแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการเกิดเหตุสึนามิ รวมถึงการป้องกัน และการอพยพหลบไปไปอยู่ในที่ปลอดภัยเพื่อลดการสูญเสีย
ขณะที่สวนสาธารณะหาดกมลา อ.กะทู้ พิธีทางศาสนารำลึกถึงผู้เสียชีวิตเช่นกัน รวมถึงสุสานบ้านไม้ขาว อ.ถลาง สถานที่เก็บศพชาวต่างชาติเพื่อรอส่งมอบให้กับญาติ หลังจากตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอแล้ว นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานร่วมกันพวงมาลัยและช่อดอกไม้เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตบริเวณกำแพงรำลึกสึนามิ 46 ชาติ
นาง Tirsha Broadbridge อายุ 29 ปี ชาวออสเตรเลีย ทำงานในองค์กรเกี่ยวกับเด็ก ซึ่งมาร่วมงานครั้งนี้ เนื่องจากสามีเสียชีวิตจากสึนามิที่เกาะพีพี จ.กระบี่ ขณะมาฮันนีมูน กล่าวว่า ไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งปีนี้นอกจากมาร่วมพิธีรำลึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังได้ร่วมกับทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 10 ออสเตรเลียมาถ่ายทำภาพยนตร์สั้น เพื่อนำกลับไปเผยแพร่ให้ทราบความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยว เพราะส่วนตัวยังมีความประทับใจประเทศไทยและคนไทยอย่างมาก ส่วนของการฟื้นฟูและจัดระบบการรักษาความปลอดภัยหลังเกิดเหตุที่หน่วยราชการของประเทศดำเนินการนับว่าสามารถทำได้ดีมาก
ด้านนาย GIORGIO CA
RICCIOLI ชาวอิตาลี อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต เล่าว่า มาเปิดร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ อยู่บริเวณใกล้กับชายหาดป่าตอง วันเกิดเหตุมีรถอยู่ 11 คัน ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งสูญเสียเพื่อน 3 คน เหลือเงินติดกระเป๋ารวมกับของภรรยา 8,000 บาท ถือเป็นช่วงที่เลวร้ายมาก แต่ที่ประทับใจมากที่สุดคือ ได้รับความช่วยเหลือจากคนไทยอย่างดี.-สำนักข่าวไทยอัพเดตเมื่อ 2009-12-26 15:47:20