ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ชีวิตแสนสั้นเรามารักกันดีกว่าไหม


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,151 ครั้ง
Advertisement

ชีวิตแสนสั้นเรามารักกันดีกว่าไหม

Advertisement

 เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ชีวิตก่อรูปเป็นความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะถูกตีตราว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ หรือถูกตราหน้าว่าเป็นคนที่ไร้เกียรติในสังคม 
  
          ...แต่สุดท้ายทุกชีวิตก็จะกลับคืนสู่ดิน หรือกลายเป็นธาตุธุลีเล็กๆ ที่วันหนึ่งก็จะถูกลืม โดยมีความตายเป็นจุดจบของชีวิตทางร่างกายที่ได้มา

          ท่ามกลางการเกิด แก่ เจ็บ ตายที่กำลังหมุนไปอยู่ทุกขณะ  มีสิ่งหนึ่งที่น่าตกใจในชีวิตของเรา คือความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน ซึ่งนับวันจะลุกลามเป็นเชื้อโรคร้ายที่ยากจะเยียวยา 

          สิ่งที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตร่วมกันก็คือ เราไม่สามารถสัมผัสกับความสุขที่มอบให้แก่กันได้เลย  หน้ากากที่ไม่ต้องการจะสวมใส่ จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่คนเราเริ่มถามหา เราจึงเรียกคนเดี๋ยวนี้ว่า "ชอบสวมหน้ากากเข้าหากัน" ซึ่งอยู่ที่ว่าใครจะมีหน้ากากที่มีรูปลักษณ์อย่างไร   

          บางคนมีใบหน้าที่สวยงาม เราก็ยอมรับว่าเขาดูดีในขณะที่สวมบทบาทนั้น แต่บางคนก็ปรากฏกายในรูปของปีศาจร้าย จึงทำให้เกิดภาพที่ติดอยู่ในความรู้สึกว่าเขาเป็นคนไม่ดี 

          แต่เมื่อสรุปที่ความเป็นหน้ากากแล้ว ก็มีคำตอบอยู่ที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากที่สวยงามหรือคล้ายปีศาจร้าย  แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาก็ไม่ใช่รูปลักษณ์ที่แท้จริงของคนเราอยู่ดี   

          เมื่อความจริงไม่ถูกเปิดเผย สิ่งที่ได้รับจากบุคคลรอบข้างก็จัดว่าเป็นความหลอกลวงเช่นเคย ซึ่งเป็นภาพของเชื้อโรคร้ายที่นับวันจะแผ่ขยาย หากเราไม่ช่วยกันทำลายให้หมดไป

        
  อย่างไรก็ดี ถ้ารู้จักมองในมุมที่ก่อให้เกิดคุณค่าร่วมกัน  รู้จักมองความจริงแล้วทำให้ความหยิ่งในใจลดลง   สัจธรรมของชีวิตฟ้องให้รู้ว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใครก็ตาม หนึ่งชีวิตที่ได้มานั้นช่างสั้นนัก เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของสรรพสิ่งที่หมุนเวียนมาเจอกัน   

          แต่ไฉนเล่า เราจึงชอบมองคนอื่นด้วยสายตาที่เหยียดหยามหมิ่นแคลน  โดยไม่รู้จักมองด้วยความเมตตาอารีที่มีต่อกัน เพราะชีวิตช่างสั้นเกินกว่าที่จะตะโกนบอกใครว่า "เรานี่แหละจะอยู่ค้ำฟ้าได้"

          เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ชีวิตก่อรูปเป็นความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะถูกตีตราว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ หรือถูกตราหน้าว่าเป็นคนที่ไร้เกียรติในสังคม แต่สุดท้ายทุกชีวิตก็จะกลับคืนสู่ดิน หรือกลายเป็นธาตุธุลีเล็กๆที่วันหนึ่งก็จะถูกลืม โดยมีความตายเป็นจุดจบของชีวิตทางร่างกายที่ได้มา 

          ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องกลับมาทบทวนชีวิตครั้งใหม่ของเราทุกคนว่า โลกที่อยู่อาศัยร่วมกันนี้ เราจะอยู่แบบญาติดีหรือจะข่มเหงบีฑาต่อกันอย่างไม่มีวันจบ  ?  

          เราควรถามตัวเองให้มากขึ้นว่า เบียดเบียนกันแล้วได้อะไรขึ้นมา หรือเป็นเพียงต้องการเอาชนะกันเท่านั้น ? 
แต่สุดท้ายไม่ว่าใครจะเป็นผู้แพ้หรือชนะ ทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้  ล้วนชื่อว่าเป็นผู้แพ้ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนกระทบถึงกัน   

          แต่ถ้าทำความเข้าใจชีวิตให้รอบด้าน เราจะเริ่มเข้าใจว่าระหว่างการทะเลาะเบาะแว้งแล้วก่อให้เกิดความขัดแย้ง และการรักษามิตรภาพที่ได้มานี้ สิ่งไหนมนุษย์ตัวน้อยๆ เช่นเราควรทำมากกว่ากัน ? เป็นการสร้างคำถาม เพื่อตอบให้กระจ่างอย่างคนที่มีเยื่อใยในชีวิตบ้าง  ก่อนที่จะต้องโบกมือลาโลกนี้ไป แม้อาจจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม 

          โปรดถามตัวเองให้มากว่า ทะเลาะกันแล้วเราได้อะไรเพิ่มขึ้นบ้าง นอกจากความโหดร้ายที่กลายเป็นเครื่องมือประหัตประหารพวกเราเอง ?    

          และสุดท้ายเราเหลืออะไรที่สามารถเก็บไว้เป็นที่ระลึก แล้วทำให้ชีวิตภูมิใจในการเกิดมาบ้าง ? คำตอบอยู่ที่ใจของเราทุกคน 

          มีชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ชอบนำดอกไม้มาบูชาพระที่วัดเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่เขากำลังหอบหิ้วดอกไม้และผลไม้ เพื่อมาถวายพระเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา   

          ทันทีที่เขาเดินมาถึงประตูวิหาร ก็มีชายคนหนึ่งวิ่งมาชนเข้าอย่างจัง ทำให้ดอกไม้และผลไม้ร่วงกระจัดกระจายไปทั่วพื้น เขาจึงพูดโต้ตอบไปด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวว่า

         "ทำไมไม่ดูตาม้าตาเรือซะมั้ง  เห็นไหมดอกไม้และผลไม้ร่วงหมดแล้ว"
          "ฉันขอโทษที่ไม่ทันระวัง" ชายผู้วิ่งมาชนกล่าวคำขอโทษ
          "ขอโทษแล้วมันได้อะไรขึ้นมา"
          "ก็ฉันไม่ทันระวัง และก็ขอโทษแล้ว ถ้าไม่ให้อภัยแล้วท่านจะทำอย่างไรล่ะ"

          พอชายคนที่วิ่งมาชนพูดไม่ให้เกียรติแก่ตน ยิ่งทำให้ชายผู้ถือดอกไม้และผลไม้โมโหยิ่งขึ้น ทั้งสองจึงเกิดการต่อปากต่อคำกันด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวมากกว่าเดิม

          ในขณะที่ทั้งสองกำลังเถียงกันอยู่นั้น หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็เดินผ่านมา เห็นต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมที่จะให้อภัยหรือยอมความ จึงถามถึงเหตุที่ทำให้ทั้งสองทะเลาะกัน  พอทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว จึงกล่าวเตือนสติว่า

          "การวิ่งไปชนคนอื่นนั้น เป็นเรื่องไม่สมควร ส่วนการที่คนอื่นขอโทษแล้วไม่รู้จักให้อภัย ก็เป็นเรื่องไม่สมควรเช่นเดียวกัน  การแสดงออกทั้งสองลักษณะนี้  เป็นนิสัยของคนที่ไร้สติ แต่การรู้จักยอมรับความผิดด้วยความจริงใจ   และการรู้จักให้อภัยที่มาจากใจ ทั้งสองอย่างนี้เป็นนิสัยของผู้มีปัญญา"

          เมื่อคนทั้งสองได้ฟังคำเตือนของหลวงพ่อ จึงได้ยุติการทะเลาะกัน และก้มหน้ารับฟังคำสอนจากท่าน ด้วยความรู้สึกสำนึกผิดต่อการกระทำที่ตัวเองแสดงออกไป เมื่อหลวงพ่อเห็นว่าทั้งคู่สงบสติอารมณ์ได้แล้ว จึงกล่าวให้ข้อคิดว่า

          "คนเราเกิดมาชีวิตหนึ่งนี้ มีหลายอย่างที่ต้องทำอีกเยอะ เช่นการรู้จักปฏิบัติต่อครูบาอาจารย์ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง  และมิตรสหายผู้เป็นที่รักของเรา แม้ในด้านเศรษฐกิจ ก็ควรรู้จักระมัดระวังในการจับจ่าย  ในด้านครอบครัว   ก็ต้องรู้จักรักษาน้ำใจต่อบุคคลที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ในด้านจิตใจ ก็ควรรู้จักอบรมจิตใจของตนให้สูงยิ่งขึ้น ต้องรู้จักสร้างอุดมการณ์ที่มีความดีเป็นเครื่องประดับชีวิต ถ้าทำได้เช่นนี้ ชีวิตที่เกิดมาจึงชื่อว่ามีคุณค่าในตัวเอง เพราะถ้าคิดดูให้ดี การที่เรามาทะเลาะกันเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อย กลับทำลายความดีที่มีอยู่ในจิตใจของตนเองแล้ว มันเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าเลย รังแต่จะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้นเอง"

          แล้วเราล่ะ... เรียนรู้ที่จะให้ชีวิตหนึ่งที่ได้มาเพียงน้อยนิดนี้อย่างคนที่เห็นคุณค่าของตัวเองหรือยัง ? ทุกอย่างเริ่มต้นได้  หากเรารู้จักทบทวนความผิดพลาดที่แล้วมา และรู้จักแก้ไขอย่างคนที่รักตัวเองมากกว่าเดิม

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 2278 วันที่ 21 ธ.ค. 2552


ชีวิตแสนสั้นเรามารักกันดีกว่าไหม

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ทายนิสัย....จากโต๊ะทำงาน

ทายนิสัย....จากโต๊ะทำงาน


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
แหล่งท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยว


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
ทำงานบนเตียง ..

ทำงานบนเตียง ..


เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง
คลิป...โรคนิ่วในถุงน้ำดี

คลิป...โรคนิ่วในถุงน้ำดี


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
ทำนาธรรม

ทำนาธรรม


เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง
คิดอย่างไรไม่ให้เครียด

คิดอย่างไรไม่ให้เครียด


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

54:2..หญิง:ชาย

54:2..หญิง:ชาย

เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ฟังเพลงร่วมสมัย...
ฟังเพลงร่วมสมัย...
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

น่ารู้....รถติดแก๊สกับการประกันภัย
น่ารู้....รถติดแก๊สกับการประกันภัย
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

นวดศีรษะเพื่อผมสวย
นวดศีรษะเพื่อผมสวย
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

เรื่อง เทคโนโลยีภูมิทัศน์กับ ขอบเขตของงานภูมิทัศน์
เรื่อง เทคโนโลยีภูมิทัศน์กับ ขอบเขตของงานภูมิทัศน์
เปิดอ่าน 7,147 ☕ คลิกอ่านเลย

....ปรับฮวงจุ้ยหน้าฝน....
....ปรับฮวงจุ้ยหน้าฝน....
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

70 เรื่องที่บางคน(ยัง)ไม่รู้
70 เรื่องที่บางคน(ยัง)ไม่รู้
เปิดอ่าน 7,463 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล
เปิดอ่าน 10,930 ครั้ง

ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง
เปิดอ่าน 9,064 ครั้ง

ลำดับขั้นในการวิจัย
ลำดับขั้นในการวิจัย
เปิดอ่าน 202,920 ครั้ง

ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้
เปิดอ่าน 55,588 ครั้ง

คลอด ‘เกณฑ์ย้ายเฉพาะกิจ’ แก้ปม..ร้างผู้บริหาร 7 พันตำแหน่ง ทางออกสุดท้าย..ของ ก.ค.ศ.?
คลอด ‘เกณฑ์ย้ายเฉพาะกิจ’ แก้ปม..ร้างผู้บริหาร 7 พันตำแหน่ง ทางออกสุดท้าย..ของ ก.ค.ศ.?
เปิดอ่าน 17,418 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ