สวัสดีค่ะ ดิฉัน คุณครูกมลชนก สายชนะ โรงเรียนบ้านสะแนน (สามัคคีวิทยา) วันนี้โรงเรียนของเรามีกิจกรรม แรลลี่เยาวชนรักษ์โลก"
โดยการปั่นจักรยานไปตามชุมต่างๆและสถานที่ราชการ เพื่อประชาสัมพันธ์และรับความรู้ตามจุดต่างๆ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน รวมเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร
มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม 106 คน ไปดูกันต่อนะคะว่าเราไปไหนกันบ้าง...
ครูนก กับเด็กชายจิระศักดิ์ แสนสุข และน้องๆนักเรียน...กำลังเตรียมตัวออกเดินทางต่อหลังจากรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ ศูนย์พัฒนา และเพาะพันธ์กล้าไม้ จังหวัดยโสธร
เด็กคงเหนื่อยน่ะค่ะ...อ้าวสู้ๆๆ จะถึงจุดพักแล้วค่ะ
คุณครู และนักเรียน เข้ารับความรู้จากวิทยากรที่ศูนย์ฯเกษตร เกี่ยวกับการเกษตรเบื้องต้นที่เด็กๆควรรู้ และสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ ก่อนที่จะพาเที่ยวชมสวนเกษตรในแบบต่างๆ ตามต่อนะคะ....
พี่วิทยากรคนสวย กำลังพาเด็กๆชมไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่างๆ และแนะนำวิธีการขยายพันธ์ไม้แต่ละชนิดที่ง่ายที่สุด เด็กๆก็ทำได้ค่ะ
หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จเด็กๆนักเรียน ก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อนะคะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายภาพตอนเด็กๆทานอาหารมาให้ดู เพราะครูนกเองก็มัวแต่ทานส้มตำปลาร้าอยู่ค่ะ
นักเรียนทั้งหมดพร้อมแล้วนะคะ.....อ้าว...น้องๆยังใจลอยอยู่ก็มี ท้อล่ะสิท่า สู้ๆๆนะลูกๆ
คุณครูประจำจุดต่างๆก็จะรอนักเรียนนะคะ เพื่อบอกทาง ให้น้ำดื่ม ยาดม นี่ขนาดแยกแผนที่ให้เด็กๆแล้วนะคะ ครูเราก็ยังห่วงแสนห่วงยืนรอ เห็นมั๊ยคุณครูน่ารักแค่ไหน....
คณะครู และวิทยากรถ่ายภาพที่ระลึกด้วยกันเพื่อเป็นหลักฐาน...(เกินไปนะคะ) เพื่อเป็นที่ระลึกค่ะ ขอบคุณพี่วิทยากรที่น่ารัก สุดหล่อ สุดสวย ทุกท่านนะคะ จากใจชาวโรงเรียนบ้านสะแนนทุกคนค่ะ (แล้วจะมาใหม่นะคะพี่ๆที่ศูนย์ฯ)
คุณครูอุไร ประสมศรี กำลังเตรียมนักเรียนเพื่อรับความรู้ที่จุด ธาตุกล่องข้าวน้อย บ้านตาดทอง จังหวัดยโสธร ธาตุที่เห็นด้านข้างนะคะ คือ ธาตุก่องข้าวน้อย (กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่)
เป็นเรื่องราวที่เล่าต่อกันมา พร้อมปรากฎหลักฐานดังกล่าวคือ ธาตุ ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เรื่องเล่ามีอยู่ว่านายทอง ไปไถนาตั้งแต่เช้าและได้แม่ว่าสายๆให้เอาห่อข้าวไปส่งให้ด้วย ซึ่งปกติแม่ก็ไปส่งห่อข้าวให้ทองทุกวันอยู่แล้ว แต่ก่อนไปส่งห่อข้าว แม่จะต้องไปวัดก่อนทุกเช้า เป็นอย่างนี้เรื่อยมา แต่วันที่เลวร้ายก็มาถึง ด้วยความที่แม่อายุมากร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เช้าวันนั้นแม่มีอาการวิงเวียนและเป็นลมล้มลงเพียงลำพัง นายทองที่ไถนาอยู่รู้สึกทั้งเหนื่อยทั้งหิว มองตะวันที่สายโด่ง แดดเริ่มร้อนแรงขึ้นทุกที นายทองเริ่มหงุดหงิด เริ่มโมโห ที่บ้านของนายทองพอแม่ได้สติฟื้นขึ้นมากก็รีบลุกกุลีกุจอเอาห่อข้าวไปส่งลูกชายที่นา ด้วยเห็นว่ามันสายมากแล้วกลัวลูกจะหิว แม่ทั้งวิ่งทางเดินด้วยความรีบร้อนห่วงลูกชาย พอไปถึงแม่ก็เรียกให้ทองรีบมากินข้าวด้วยความเป็นห่วง แม่หยิบข้าวกับอาหารที่เตรียมมาจัดไว้รอทองที่เถียงนา พอทองเดินมาถึงก็บ่นว่าแม่ด้วยความโมโหหิวอย่างรุนแรง ทันทีที่ทองมองไปเห็นกล่องข้าวที่แม่เอามา ความโมโหก็ถึงขีดสุด นายทองคว้าแอกที่วางอยู่ใกล้ๆทุบตีแม่ด้วยความโกรธจนแม่สิ้นลม เมื่อแม่แน่นิ้งไป นายทองก็มานั่งกินข้าวจนอิ่ม แต่ข้าวที่แม่เตรียมมายังเหลือทองกินไม่หมด ทองเริ่มได้สติ หันมาดูแม่ที่นอนอยู่ นายทองก็เริ่มนึกได้เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ นายทองร่ำไห้กอดแม่และมองที่กล่องข้าวน้อยที่แม่อัดข้าวมาอย่าแน่นเพราะกลัวลูกไม่อิ่ม แต่ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว เพราะแม่ตายแล้ว นายทองถูพิพากษาประหารชีวิต แต่ก่อนตายนายทองได้ขอว่าให้ตนได้สร้างธาตุเพื่อเป็นการขอขมา ขอไถ่โทษต่อแม่ก่อน ทางการอนุญาตรอจนนายทองสร้างธาตุเสร็จจึงได้ประหารชีวิตของนายทอง ธาตุกล่องข้าวน้อยก็ยังมีปรากฎมาจนถึงทุกวันนี้ ทุกท่านสามารถแวะไปชมได้ เพราะอยูไม่ห่างจากถนนใหญ่มากนัก ผ่านมาผ่านไปก็ขอเชิญแวะชมพร้อมซื้อของที่ระลึกต่างๆได้นะคะ ที่ชายทุ่งบ้านตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ทางเข้าก็โด่ดเด่นสะดวกค่ะ....(โดย ครูนก)
คุณตาสุวรรณ ขลุ่ยเงิน วิทยาระดับจังหวัด ภูมิปัญญท้องคนสำคัญของยโสธร (บ้านตาดทอง) และเป็นคุณพ่อดีเด่นของจังหวัดยโสธร บรรยายให้ความรู้ถึงประวัติความเป็นมาของธาตุกล่องข้าวน้อยแก่นักเรียน