ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

การจัดการเรียนร่วมให้แก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เข้าเรียนในโรงเรียนปกติเป็นการส่งเสริมโอกาสหรือเ


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,162 ครั้ง
Advertisement

การจัดการเรียนร่วมให้แก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เข้าเรียนในโรงเรียนปกติเป็นการส่งเสริมโอกาสหรือเ

Advertisement

 

  การจัดการเรียนร่วมให้แก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เข้าเรียนในโรงเรียนปกติเป็นการส่งเสริมโอกาสหรือเป็นการสร้างปมด้อย

 

Thesis  :  การจัดการเรียนร่วมเป็นการส่งเสริมโอกาส

การเรียนร่วมหมายถึงการจัดการศึกษาให้แก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษ  ได้แก่ 

เด็กพิการประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กพิการทางด้านร่างกาย  สมอง  หรือการเรียนรู้  ได้เรียนร่วมกับเด็กปกติ  โดยคำนึงถึงความสามารถของแต่ละบุคคลเพื่อส่งเสริมให้เด็กเหล่านี้ได้มีโอกาสเรียนรู้และดำรงอยู่ในสังคมอย่างปกติสุข

ประเด็นสำคัญที่สถานศึกษาได้ดำเนินการจัดการศึกษาให้เด็กที่มีความต้องการ

พิเศษเข้าเรียนในโรงเรียนปกติมี    ประเด็น  คือ

๑.     พระราชบัญญัติประถมศึกษา  พุทธศักราช  ๒๕๒๓  ระบุให้รัฐจัดการศึกษา

ระดับประถมศึกษาเป็นการศึกษาภาคบังคับให้เด็กที่มีอายุย่างเข้าปีที่    ถึงอายุย่างเข้าปีที่  ๑๕  อย่างทั่วถึงทุกคนรวมทั้งเด็กที่มีความต้องการพิเศษด้วยและในปัจจุบันก็กำหนดในนโยบายของรัฐบาล

๒.    วิธีที่ดีที่สุดที่จะพัฒนาเด็กที่มีความต้องการพิเศษคือการให้เด็กเหล่านั้นได้มี

โอกาสอยู่ร่วมในสังคมปกติให้มากที่สุด 

                                จากปรัชญาของการเรียนร่วม  ว่าคนทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม  ต้องอยู่เกี่ยวข้องกัน  ต้องมีเพื่อนเล่น  เพื่อนเรียน  เพื่อนร่วมกิจกรรม  เพื่อนคู่คิด  พึ่งพาอาศัยกัน  คนพิการก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม  เขาก็ควรได้รับการปฏิบัติอย่างคนธรรมดาทั่วไป  คือความเห็นใจ             ความเข้าใจ  ความช่วยเหลือและการพัฒนาโดยเท่าเทียมกับคนปกติ   

ดังนั้นโรงเรียนประถมศึกษาจึงได้รับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษเข้าเรียน

ร่วมกับนักเรียนปกติมาจนถึงปัจจุบันและส่งต่อสู่โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาจำนวนมากขึ้นทุกปี

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช  ๒๕๕๐ ส่วนที่  ๘ ว่าด้วยสิทธิ

และเสรีภาพในการศึกษา  มาตรา  ๔๙ บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่า        สิบสองปีที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ  โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย  ผู้ยากไร้  ผู้พิการ  หรือ

ทุพพลภาพ  หรือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก  ต้องได้รับสิทธิตามวรรคหนึ่ง  และการสนับสนุนจากรัฐเพื่อให้ได้รับการศึกษาโดยทัดเทียมกับบุคลอื่น  การจัดการศึกษาอบรมขององค์กรวิชาชีพหรือ

เอกชน  การศึกษาทางเลือกของประชาชน  การเรียนรู้ด้วยตนเอง  และการเรียนรู้ตลอดชีวิต              ย่อมได้รับความคุ้มครองและส่งเสริมที่เหมาะสมและตามนโยบายการศึกษาของรัฐบาลชุดปัจจุบัน  กล่าวคือ  จัดให้ทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาฟรี  ๑๕  ปี  ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย  พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้เกิดความเสมอภาคและความเป็นธรรมในโอกาสทางการศึกษาแก่ประชากรในกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทั้งผู้ยากไร้  ผู้พิการ  หรือทุพพลภาพ  ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก  ผู้บกพร่องทางร่างกายและสติปัญญา  และชนต่างวัฒนธรรม  รวมทั้งยกระดับการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กชุมชน

                                หากพิจารณาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ  รวมทั้งกรอบนโยบายของ

รัฐบาลแล้ว  ก็แสดงให้เห็นว่า  การจัดการเรียนร่วม  เป็นการจัดการศึกษาให้แก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษ  เป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษในการที่จะอยู่ร่วมกับสังคมปกติ  แม้จะเป็นการยุ่งยาก  ที่โรงเรียนต้องรับผิดชอบทั้งเด็กปกติและเด็กที่มี             ความต้องการพิเศษ

 

Antithesis  : การจัดการเรียนร่วมเป็นการสร้างปมด้อย

                                จากสภาพจริงในการจัดการศึกษาให้แก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษของโรงเรียนสังกัด  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  (สพฐ.)  ซึ่งมีโรงเรียนระดับประถมศึกษา  และระดับมัธยมศึกษา  มีหน้าที่รับผิดชอบจัดการศึกษาให้แก่ประชาชนตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงมัธยมศึกษาปีที่    ตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยเหนือ  ผลของการจัดการศึกษาพบว่า  นักเรียน

ที่เป็นเด็กพิเศษเรียนร่วมที่เข้าเรียนในโรงเรียนบางคนมีปัญหาด้านการเรียน  การเข้ากับเพื่อน                การเข้ากับครู  บางคนมาทำให้ระบบของโรงเรียนเสียก็มี  เช่น  เป็นข้ออ้างของเด็กปกติที่ไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเด็กพิเศษก็ถือโอกาสเกเร  หลบเรียน  หนีเรียน  บางครั้งบางโอกาส  เห็นความพิเศษของครูกับเด็กพิเศษก็เกิดอารมณ์อิจฉา 

                                แต่มีบางส่วนเด็กพิเศษสามารถใช้ชีวิตร่วมกับเด็กปกติได้อย่างมีความสุข                แม้พัฒนาการอื่น ๆ อาจจะไม่ทันเพื่อน ๆ ปกติก็ตาม  แต่จากสถิติที่พบในระดับโรงเรียนพบว่า               ขาดการยอมรับจากครู  จากเพื่อน  แทนที่จะมีปมเด่น  หรือไม่มีปมด้อยก็กลับมีมากขึ้นเพราะถูกเพื่อนล้อเลียน  หรือดูถูก  หรืออิจฉา  เป็นต้น

                            เด็กพิเศษบางคนถึงกับเสียคนเพราะรับไม่ได้กับปมด้อยของตนเอง  ทั้ง ๆ ที่ครูและเพื่อนไม่ได้ถือว่าเป็นปมด้อยของเด็กนั้น  เช่นเด็กคนหนึ่งที่โรงเรียนรับเข้าเรียนร่วม  เป็นเด็ก

อ้วนมาก ๆ อ่านหนังสือไม่ออก  เขียนหนังสือไม่ได้  ชอบวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจแต่ภาพที่วาดได้ยังมีฝีมือไม่เท่าเด็กอนุบาลที่เข้าเรียนใหม่ ๆ ด้วยซ้ำ  แต่พอถึงเวลาชั่วโมงเรียนก็ไม่ยอมเข้าเรียน  สอบถามก็จะไม่ยอมพูด  หรือพูดเสียงเบามากจนแทบไม่ได้ยิน  คุณครูที่ดูแลพิเศษเด็กคนนี้แม้จะเอาใจใส่ต่อเขา  ชวนให้เข้าห้องเรียน  หาอุปกรณ์การเรียนให้  ร่วมแก้ไขข้อบกพร่องการเรียนรู้ให้  แต่ก็ขาดความสนใจจากเด็ก  เขากลับบอกง่าย ๆ ว่า  เบื่อ  บางครั้งครูต้องยอมให้เขาเล่นอยู่ข้างล่างที่สนามกับเพื่อน ๆ เกเรคนอื่น ๆ ที่ไม่ยอมเข้าเรียนนั่นเอง     

 

Synthesis  :  คนพิการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยมีจำนวนไม่น้อย 

หากเราสามารถจัดการศึกษาแบบเรียนร่วมให้แก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้ก็เป็นการให้               การช่วยเหลือให้เขาได้รับการพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัย  และความบกพร่องของเขา

จุดมุ่งหมายเพื่อให้เด็กพิการได้อยู่ร่วมกับพ่อแม่ของตนโดยเข้าเรียนร่วมกับ

นักเรียนปกติในโรงเรียนใกล้บ้าน  และจะได้เป็นแม่แบบในการพัฒนาตนเองทุกด้าน  รวมทั้ง           การยอมรับของสังคม  และเข้าใจคนพิการจนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข  ทั้งในโรงเรียนและในโอกาสต่อ ๆ ไปมากยิ่งขึ้น  โดยมีแนวทางในการจัดการเรียนร่วม    ดังนี้

๑.     ควรเรียนเมื่ออายุยังน้อย

๒.    ต้องให้โอกาส  และเตรียมความพร้อมครูผู้สอน

๓.    โรงเรียนที่เปิดรับการเรียนร่วมต้องมีความพร้อมด้านบุคลากร  เครื่องมือ  เครื่องใช้  ตลอดจนอุปกรณ์อันจำเป็นในการสอนอย่างเหมาะสม

๔.    ควรชี้แจงให้เข้าใจร่วมกันทุกฝ่าย

๕.    เน้นวิธีสอนรายบุคคล

๖.     ศึกษาข้อบกพร่องและปรับปรุงการจัดการเรียนร่วมให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ

 

                                หากบุคลากรทุกฝ่ายรู้ปัญหา  หาแนวทางในการแก้ไข  ให้การช่วยเหลือ                       เปิดโอกาส  และให้โอกาส  เอาใจใส่มากขึ้นเป็นพิเศษ  ก็จะทำให้สังคม  ประเทศชาติ  และโลกใบเล็กนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น  และคนที่มีความต้องการพิเศษเหล่านี้ก็จะอยู่ในโลกใบเล็กนี้อย่างมีความสุข  ไม่เป็นภาระของครอบครัว  พ่อแม่ผู้ปกครอง  ชุมชน  หรือประเทศชาติ

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3792 วันที่ 18 ธ.ค. 2552


การจัดการเรียนร่วมให้แก่เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เข้าเรียนในโรงเรียนปกติเป็นการส่งเสริมโอกาสหรือเ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

กรุณาclickดู

กรุณาclickดู


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
ทำนายลายมือ....เส้นสมอง

ทำนายลายมือ....เส้นสมอง


เปิดอ่าน 7,234 ครั้ง
ครูคุมสอบคือ..???

ครูคุมสอบคือ..???


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
จากยอดดอยสู่ลู่ยาง

จากยอดดอยสู่ลู่ยาง


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ใครดูแล้ว...ไม่น่าจะร้องไห้นะ

ใครดูแล้ว...ไม่น่าจะร้องไห้นะ

เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
Positive thinking ...ฝันร้ายเป็นแค่ความฝัน     อุปสรรคทำให้ชีวิตมีสีสัน
Positive thinking ...ฝันร้ายเป็นแค่ความฝัน อุปสรรคทำให้ชีวิตมีสีสัน
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

นี่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
นี่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

เรื่องเล่า....เมล็ดพืชเม็ดหนึ่ง
เรื่องเล่า....เมล็ดพืชเม็ดหนึ่ง
เปิดอ่าน 7,166 ☕ คลิกอ่านเลย

Hot!อัลบั้มดาราสาวถ่ายแบบรับซัมเมอร์
Hot!อัลบั้มดาราสาวถ่ายแบบรับซัมเมอร์
เปิดอ่าน 7,147 ☕ คลิกอ่านเลย

ไม่อยากให้ร่างกายขาดน้ำ...แต่ไม่อยากดื่มน้ำเปล่า
ไม่อยากให้ร่างกายขาดน้ำ...แต่ไม่อยากดื่มน้ำเปล่า
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย

เวลา  นาฬิกา  แตกต่าง  แต่เติมเต็ม
เวลา นาฬิกา แตกต่าง แต่เติมเต็ม
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา
เปิดอ่าน 15,925 ครั้ง

วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา
เปิดอ่าน 11,246 ครั้ง

ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)
ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)
เปิดอ่าน 29,779 ครั้ง

ต้นสัตบรรณ - ต้นตีนเป็ด
ต้นสัตบรรณ - ต้นตีนเป็ด
เปิดอ่าน 36,898 ครั้ง

เพลง "วันแม่"
เพลง "วันแม่"
เปิดอ่าน 60,279 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ