ความมหัศจรรย์ของนักเรียน LD ตอน แก้ปัญหาสมาธิสั้นด้วยผ้ามัดย้อม
สมาธิสั้น-ไฮเปอร์
กลุ่มอาการเด็กสมาธิสั้น Attention Deficit Hyperactivity Disordes (ADHD)
โดย น.พ. จอม ชุ่มช่วย ร.พ.ยุวประสาทไวทโยปถัมภ์
กลุ่มอาการสมาธิสั้น เกิดจากความผิดปกติของสมองโดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนว่า
อะไรที่ทำให้สมองมีความผิดปกติแต่จากวิทยาการและวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันมีผลพอ
พิสูจน์ได้ว่าน่าจะเป็นผลมาจากพันธุกรรมแต่ว่าพันธุกรรมจะมีส่วนอย่างใดและมีการถ่าย
ทอดอย่างไรยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนแต่มีผลต่อสมองทำให้การทำงานของสมองบาง
ส่วนเกิดการบกพร่องโดยเฉพาะสมองส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสมาธิของคนเราทำให้เกิด
การทำงานที่ไม่สัมพันธ์กันต่อระบบสั่งงานอื่นๆอาการนี้อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
ในอดีตมีชื่อเรียกเกี่ยวกับกลุ่มอาการเหล่านี้ได้ในหลายชื่อเช่น
Hyper Kinetic Disorders / Minimal Brain Abnormality / Minimal Brain Disfunction
แต่จากการศึกษาในปัจจุบันเรารวมเรียกกลุ่มอาการต่างรวมมาเป็น
Attention Defecit Hyperactivity Disorders (ADHD) หรือใน
บ้านเรานิยมเรียกว่า โรคเด็กไฮเปอร์
จากการทำการวิจัยสำรวจเด็กไทยในเขตกรุงเทพมหานครพบว่ามีเด็กในกลุ่มสมาธิสั้นประมาณ
ร้อยละ 5-10 ของเด็กวัยเรียนหรือประมาณ 2-3 คนในห้องเรียนขนาด 50 คนสำหรับในต่างประเทศ
พบได้ประมาณร้อยละ 3-15 ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและระบบการศึกษา
อาการที่สำคัญของเด็กกลุ่มสมาธิสั้นแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญุ่ๆคือ
1. อาการซนมากกว่าปกติ (Hyper Activity) ลักษณะความซนจะมากกว่าเด็กทั่วๆไป ซนแบบ
ไม่อยู่นิ่ง อยู่ไม่เป็นสุขลุกลี่ลุกร้น ตลอดเวลา
2. อาการสมาธิสั้นสามารถสังเกตได้โดยเด็กจะมีความวอกแวกง่ายแม้แต่สิ่งเร้าเล็กๆน้อยก็สามารถ
ทำให้เด็กเสียสมาธิได้แล้ว เข่นในขณะที่เด็กกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ พอมีเสียงดังเบาๆเช่นเสียงของตก
พื้นหรือกิ่งไม้หล่นบนพื้น กลุ่มเด็กพวกนี้จะหันไปหาแหล่งต้นเสียงทันทีหรือขณะนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียน
พอมีคนเดินผ่านก็จะหันไปดูโดยทันทีเป็นลักษณะเป็นความไวต่อสิ่งเร้าภายนอกโดยผ่านทาง ตา /หู
นอกจากนั้นยังอาจเกิดจากสิ่งเร้าภายในตัวของเด็กเองในกรณีนี้จะแสดงออกในลักษณะอาการเหม่อ
ลอย นั่งนิ่งๆ เป็นระยะเวลานานๆเหม่อบ่อยเป็นต้น
กลุ่มอาการสมาธิสั้นนี้ยังแสดงออกในรูปของการทำงานไม่ค่อยสำเร็จเพราะในขณะที่กำลังทำงาน
อย่างหนึ่งอยู่นั้นใจก็จะคิดวอกแวกไปคิดถึงเรื่องอื่นๆต่อไป ทำให้งานกว่าจะเสร็จได้ต้องใช้เวลานาน
ต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไชงานถึงจะสำเร็จลุล่วงไปได้
3. อาการหุนหันพลันแล่น (Impulsive) เด็กมักจะแสดงออกในลักษณะที่รอคอยไม่เป็น ยกตัวอย่าง
เช่นในขณะที่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่กำลังคุยกันอยู่เมื่ออยากจะพูดเด็กก็จะพูดแทรกขึ้นมาในทันทีโดยไม่คำนึง
ถึงความเหมาะสมโดยเด็กจะไม่สามารถอดใจทนรอให้การสนทนานั้นเสร็จเสียก่อน
หรืออีกตัวอย่างเช่นผู้ปกครองเด็กบอกให้ช่วยหยิบน้ำให้แก้วหนึ่งลุกจะรีบว่างไปหยิบเอาแต่แก้วมายื่น
ให้เหมือนกับยังไม่ทันฟังคำร้องขอให้เสร็จก่อนก็รีบวิ่งไปก่อนเสียแล้วจะแสดงออกในลักษณะรีบเร่ง
หุนหันพลันแล่น รอคอยไม่เป็นมักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อกับตัวเด็กได้ง่าย
ซึ่งลักษณะอาการสำคัญทั้ง 3 ของกลุ่มเด็กสมาธิสั้นข้างต้น เด็กอาจมีลักษณะครบทั่ง 3 กลุ่มได้ หรือ
โดยอาจมีลักษณะใดลักษณะหนึ่งที่เด่นหรืออาจมีลักษณะเด่นร่วมกัน1-2 อาการเลยก็ได้
สรุปลักษณะที่สำคัญของเด็กสมาธิสั้นคือ วอกแวกง่ายทำงานไม่ค่อยเสร็จ
ซนไม่อยู่นิ่ง หุนหันพลันแล่น
ดังนั้นการวินิจฉัยจึงมักต้องเปรียบเทียบกับเด็กธรรมดาทั่วๆไปที่สำคัญคือมักทำงานใดๆไม่ค่อยสำเร็จและชอบรบกวนเด็กอื่นๆมากกว่าปกติทั่วๆไป
แม้แต่การเล่นก็เล่นก็มักเล่นไม่จบเช่นการเล่นต่อตัวต่อเลโก้ โดยเด็กทั่วไปในวัย 7-8 ขวบ
น่าจะนั่งเล่นตัวต่อเลโก้จนได้เป็นรูปเป็นร่างได้แต่ในเด็กกลุ่มสมาธิสั้นอาจทำไม่สำเร็จ
เรามักจะใช้เกณฑ์ของกลุ่มเด็กปกติทั่วไปเป็นเกณฑ์ในการช่วยเปรียบเทียบตัดสินเช่นเด็กวัยประมาณ
7 ขวบจะสามารถนั่งเล่นอยู่กับที่ได้นานประมาณ 15-30 นาทีแต่ถ้าเด็กที่นั่งเล่นอยู่กับที่ไม่ได้ก็ให้ฉุก
คิดไว้ก่อนเป็นต้น
เมื่อกลุ่มเด็กสมาธิสั้นนี้ ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่รักษาอย่างถูกวิธีในวัยเด็กเมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
ก็มีผลผลต่อเนื่องให้เป็นผู้ที่ทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จไม่ค่อยมีความมั่นใจในตนเอง ณ จุดนี้อาจแยกเป็น
2 กลุ่มได้คือ
- กลุ่มหนึ่งจะแปรเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเกเร ก้าวร้าว ต่อต้านสังคม
- อีกกลุ่มจะกลายเป็นคนที่ไม่กล้า กลัว ซึมเศร้า หงอยเหงาคนในกลุ่มนี้จะมองตัวเองไม่ดี ไร้ค่า อาจถึง
- อีกกลุ่มจะกลายเป็นคนที่ไม่กล้ากลัว ซึมเศร้า หงอยเหงา คนในกลุ่มนี้จะมองตัวเองไม่ดี ไร้ค่าอาจถึง
ขั้นฆ่าตัวตายได้
ทั้งสองกลุ่มข้างต้นมักจะพบได้บ่อนในกลุ่มเด็กสมาธิสั้นที่เริ่มโตขึ้นแต่ก็มีบ้างบางส่วนที่อาจจะไปใน
ทิศทางที่ดีสาเหตุเนื่องจากมีพรสวรรค์ด้านอื่นเป็นพิเศษมาช่วยชดเชย
มาช่วยทำให้เด็กมีความภูมิใจหรือมีสภาพแวดล้อมและพ่อแม่มีความเข้าใจลูกเป็นอย่างดีคอยดูแล
ในวัยเรียนกลุ่มเด็กอาการสมาธิสั้นจะมีผลกระทบต่อการเรียนเด็กกลุ่มนี้จะไม่คอยมีช่วงที่มีสมาธิ
สำหรับการตั้งใจเรียนมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวในการเรียนสูงถ้าไม่ได้รับการดูแลและเข้าใจเป็นอย่างดี
เช่นในการเรียนบทเรียนวันนี้ยังไม่ทันจะทำความเข้าใจดีในวันรุ่งขึ้นก็มีบทเรียนใหม่เข้ามาอีกแล้ว ทำ
ให้การเรียนไม่ค่อยทันเพื่อนแปรเปลี่ยนไปเป็นการเบื่อไม่อยากเรียนไป
อาจมีบ้างที่ให้ผลเป็นดีในทางกลับกันคือ เด็กมีพรสวรรค์ทางด้านไอคิวบวกกับอาการสมาธิสั้นทำให้
สามารถฟังการสอนแบบผ่านๆก็สามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดีทั้งๆที่แสดงออกเหมือนไม่ได้ตั้งใจฟังที่
ครูสอนเลยลักษณะอย่างนี้บางครั้งก็กลับกลายไปเป็นผลเสียต่อเพื่อนเรียนข้างเพราะในช่วงไม่มีสมาธิ
ก็จะไปรบกวนสมาธิของเด็กข้างพลอยทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียนไปด้วยอาจดูเหมือนเป็นตัวปัญหา
ของชั้นเรียนทำให้ความสัมพันธ์ต่อคนอื่นไม่ดีไปด้วย
เมื่อเราสังเกตลักษณะอาการของเด็กและสงสัยว่าน่าจะเป็นกลุ่มอาการสมาธิสั่นแล้วผู้ปกครองควรจะ
พาไปพบจิตแพทย์เพื่อให้ผู้ชำนาญทำการทดสอบวินิจฉัยให้ชัดเจนแน่นอนก่อนแล้วค่อยไปสู่การทำการ
รักษาต่อไปในการรักษานอกจากการใช้ยาร่วมด้วยแล้วทางด้านผู้ปกครองต้องมีส่วนช่วยในการรักษา
ในการตระเตรียมสภาพแวดล้อมโดยมีหัวข้อหลักๆ 3 ประการดังนี้
1. ต้องมีการจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมไม่มีสิ่งรบกวนและสิ่งเร้าต่อเด็กมากเกินไปพยายามจัดห้อง
หรือบ้านให้มีระเบียบเช่นไม่มีของเล่นวางเกลื่อนไปหมดไม่มีบรรยากาศวุ่นวายสับสน เสียงตะโกนโหวก
เหวกเปิดเสียงเพลงดังจนเด็กไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้เลยแม้แต่การพาไปเที่ยวนอกสถานทีก็ไม่
ควรพาไปในที่อีกกระทึก วุ่นวายเสียงดังเป็นต้น
2. การช่วยเสริมสร้างวินัยในตัวเด็กเพราะจะเป็นตัวนำไปสู่การรู้จักควบคุมตนเองเป็นการเสริมทาง
อ้อมให้รู้จักรวบรวมสมาธิได้แก่
- การสร้างเสริมวินัยในกิจวัตรประจำวัน โดยการจัดตารางงานให้ทำเป็นเวลาสร้างระเบียบพื้นฐานใน
บ้านแบบกิจวัตรว่าใครจะช่วยจัดการอะไรบ้าง ใครถูพื้นใครกวาดบ้าน ใครล้างจาน เป็นประจำ
- วินัยในการตรงต่อเวลาฝึกให้เด็กมีตารางเวลาในการทำงาน ว่าควรทำอะไร ในเวลาไหนทจะเสร็จ
เมื่อใดเป็นต้น
การสร้างระเบียบต่างๆข้างต้น ควรเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปไม่มีทางสำเร็จถ้าจะให้ทำได้
ทุกอย่างในเวลาสั้นๆทันทีทันใดและที่สำคัญผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างในตอนเริ่มต้น
และค่อยๆลดตนเองลงที่ละน้อย จนเด็กสามารถทำด้วยตนเองทั้งหมด
3. การหากิจกรรมช่วยเสริมทักษะ เช่นการเรียนดนตรี การเรียนศิลปะ การอ่านหนังสือ กีฬาหลีกเลี่ยง
เกมส์ กีฬาหรือกิจกรรมที่มีความรุนแรงเพราะจะกลับกลายไปกระตุ้นอาการสมาธิสั้นเป็นการทำให้
อาการแย่ลงไปอีก
พ่อแม่ต้องมีความเข้าใจ อดทนมีความหนักแน่นในหลักการ และที่สำคัญต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการ
ลงโทษโดยเปลี่ยนเป็นการลงโทษโดยการตกลงกันไว้ก่อนแทน เช่น งดเวลาการดูโทรทัศน์ลงแทนเมื่อ
ทำไม่ตรงตามกติกา เป็นต้น
ผู้ปกครองสามารถพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อการตรวจยืนยันและการรักษาได้ตามโรงพยาบาลใหญ่ของรัฐ
กรณีตัวอย่าง การแก้ปัญหานักเรียนสมาธิสั้นด้วยผ้ามัดย้อม
พฤติกรรม ด.ช.ฟิวส์นักเรียนชั้น ป.5 มีพฤติกรรมซุกชน ไม่อยู่นิ่ง วอกแวกเมื่อมีสิ่งเร้าใดๆ เกเร ก้าวร้าว ทำงานไม่ค่อยเสร็จ
ประวัติส่วนตัว เป็นเด็กที่ครอบครัวสมบูรณ์ เมื่ออยู่บ้านจะเป็นเด็กเรียบร้อยน่ารัก
วิธีที่ใช้แก้ไขพฤติกรรม เมื่อเรียนวิชาชีพท้องถิ่นเรื่องการทำผ้ามัดย้อม สังเกตเห็นว่า ด.ช.ฟิวส์สามารถนั่งมัดลายผ้าได้นานๆ ลวดลายสวยงาม และงานจะสำเร็จทุกครั้ง และอยู่ในเกณฑ์ดี เมื่อมีงานแสดงผลงานที่ใดๆก็จะได้ไปสาธิตผ้ามัดย้อมเสมอ เป็นความภูมิใจและลดความก้าวร้าวลงได้บ้าง