Advertisement
ที่ประเทศเดนมาร์ค มีการยอมรับให้หัวเราะบำบัด เป็นยารักษาโรคตามวิถีแพทย์ทางเลือก และเพื่อให้หัวเราะบำบัดเป็นศาสตร์ของคนไทยอย่างเต็มภาคภูมิ จึงได้มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม โดยเมื่อราว 4 ปีที่ผ่านมา ได้นำหัวเราะบำบัดแบบสากลมาผสมผสานกับภูมิปัญญาของประเทศ เกิดเป็นเอกลักษณ์ใหม่ในชื่อ "สยามหัวเราะ" หรือ Laughter Siam
"สยามหัวเราะ" หัวเราะบำบัดแบบไทย
"สยามหัวเราะ" ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ 4 ทาง คือ ทางร่างกาย เมื่อทุกเซลล์ในร่างกายถูกกระตุ้นให้ตื่นตัว การทำงานทุกระบบภายในร่างกายจะดีขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาสมองซีกขวาที่ควบคุมเรื่องสุขภาพและสุนทรียภาพทางอารมณ์ เช่น ดนตรีหรือศิลปะ ทำให้สมองโล่ง ไม่เครียดหรือยึดติดกับเรื่องเก่าๆ พร้อมรับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ทางอารมณ์ ทำให้มีอารมณ์ที่หนักแน่นมั่นคงและปล่อยวางได้มากขึ้น ทางสังคม ช่วยให้ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย ยิ้มแย้มแจ่มใส บรรยากาศในสังคมดีขึ้น และทางจิตวิญญาณ เป็นการสร้างพลังชีวิต ให้ชีวิตมีชีวา โดย "สยามหัวเราะ" มีท่าพื้นฐาน 4 ท่า คือ
ท้องหัวเราะ หัวเราะออกเสียง "โอ" เอาสองมือวางทาบที่ท้อง พร้อมขยับท้องขึ้นลง เวลาขยับตัวขึ้นมือก็จะขึ้นตาม ช่วยนวดบริเวณท้อง เป็นการกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ผู้ที่มีอาการท้องผูกและกรดไหลย้อนหากทำท่านี้ประจำอาการจะดีขึ้น
อกหัวเราะ หัวเราะออกเสียง "อา" พร้อมขยับอกขึ้นลง ช่วยคลายกล้ามเนื้อช่วงอก ลดอาการกล้ามเนื้อเครียด เป็นการกระตุ้นหัวใจ ช่วยยืดหลังให้ตรง และที่สำคัญเป็นการป้องกันโรคหัวใจ มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านมได้ด้วย เพราะการขยับช่วงอก จะทำให้ปอดและหน้าอกหรือเต้านมได้เคลื่อนไหว ไม่เป็นพังผืดและตึงกระชับ
คอหัวเราะ หัวเราะออกเสียง "อู" พร้อมใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง ดันช่วงคอออกไปข้างหน้า ให้แขนแนบขนานลำตัว รักแร้และกล้ามเนื้อข้างลำตัวจะถูกแขนถูจนเกิดความร้อน เป็นการขับสารเคมีที่ผิดปกติออกจากผนังปอดได้อีกทางหนึ่ง
และสุดท้าย หน้าหัวเราะ หัวเราะออกเสียง "เอ" ใช้นิ้วทั้งสิบขยับสลับกันไปมานวดไปบนหน้า เป็นการฝึกประสาทสมอง และผ่อนคลายทั่วใบหน้า
นอกจากนี้ยังมีท่า มือหัวเราะ สะโพกหัวเราะ ไหล่หัวเราะ ตาหัวเราะ จมูกหัวเราะ และหูหัวเราะ เพื่อให้ร่างกายได้ออกกำลังกายทุกส่วนพร้อมเสียงหัวเราะอีกด้วย
จุดเด่นของสยามหัวเราะที่หัวเราะบำบัดทั่วโลกไม่มี คือ หลังจากทำท่าหัวเราะต่างๆ ไปแล้วจนรู้สึกผ่อนคลายและหัวเราะได้อย่างอิสระ หรือเรียกว่าถึงจุดพีค ผู้บำบัดจะถูกให้หยุดหัวเราะทันที เพื่อไม่ให้เกิดการหัวเราะจนเตลิด ให้เกิดการสำรวจร่างกาย ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น มีสติในการดูแลรักษาร่างกาย เกิดการรู้ทันตนเอง (Self awareness) ที่ผู้บำบัดจะรู้สึกได้ด้วยตัวเอง
เพราะสยามหัวเราะ เป็นการหัวเราะพร้อมออกกำลังกายในระดับเซลล์ จึงมีรายงานว่าช่วยรักษาอาการโรคฮิตคนเมืองอย่างกรดไหลย้อน ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม ลดความอ้วน ช่วยเรื่องระบบทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหาร ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบเจริญพันธุ์ เรียกได้ว่า เมื่อร่างกายทุกส่วนตื่นตัว กลไกการทำงานของร่างกายก็จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ โรคภัยไข้เจ็บจึงไม่เกิดนั่นเอง
หัวเราะต้านหวัด 2009
เนื่องจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม จึงได้คิดค้นท่าออกกำลังกายเพื่อช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน พร้อมกระตุ้นสมองได้ 2 ซีกพร้อมกัน เป็นการต่อยอดจากสยามหัวเราะ ท่าออกกำลังกายนี้ ทำเพียงวันละครั้ง ครั้งละ 1 นาที ภายใต้สโลแกนที่ว่า "ออกกำลังสมองวันละ 1 นาที สุขภาพดี ชีวีมีขำ"
ก่อนทำท่านี้ให้นึกถึงภาพของหนุมาน จากนั้นเริ่มด้วยการยืนแยกขาออกจากกันพอประมาณ ย่อตัวลงเล็กน้อย ชูมือขึ้นระดับศีรษะ ขยับขาขึ้นลงซ้ายขวาสลับกับมือและแขน พร้อมกันนั้นต้องกำมือแล้วคลายออกสลับไปด้วย และต้องไม่ลืมโยกย้ายร่างกายและขยับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆบนใบหน้าอย่างเบิกบานด้วย เพียงวันละ 1 นาที ท่าทางที่ตลกนี้จะทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สนุก ได้ออกกำลังร่างกายทุกส่วน เป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันและการขยับมือเท้าสลับกันยังช่วยกระตุ้นสมองทั้งสองซีกด้วย ที่สำคัญท่านี้ไม่ต้องเปล่งเสียงหัวเราะ ไม่ต้องใช้เวลานาน ไม่ใช้อุปกรณ์หรือสถานที่ เป็นการออกกำลังกายแบบลงทุนน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก
จากการใช้ท่าออกกำลังกายนี้บำบัดเด็กติดเกมใน 15 โรงเรียน พบว่าเด็กกว่าครึ่งหนึ่งหายจากอาการติดเกม และตั้งใจเรียนหนังสือมากขึ้น ที่สำคัญ เด็กไม่เบื่อเพราะใช้เวลาน้อยและสนุก
เสียงหัวเราะกับน้ำในร่างกาย
หัวเราะบำบัดหรือสยามหัวเราะเป็นวิธีหนึ่งที่จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายทุกๆ ส่วนตั้งแต่ระดับเซลล์ และกระตุ้นให้น้ำในเซลล์เกิดสมดุลและทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนการทำน้ำเสียให้เป็นน้ำสะอาด เพราะเมื่อเราเครียดหรือมีความทุกข์ สมองจะหลั่งสารเศร้าออกมาผ่านทางของเหลวในร่างกาย อาทิ อะดรีนาลีน หรือเรียกง่ายๆ ว่าสารกดดัน และคอร์ติซอล ที่จำง่ายๆ ว่าสารเศร้าหรือสารเครียด และวิธีการเดียวที่จะขจัดความเครียดและซึมเศร้าออกจากร่างกายได้คือ "การหัวเราะ" เพราะเมื่อเราหัวเราะร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ไม่ว่าจะเป็น เอนดอร์ฟิน หรือมอร์ฟีนเพิ่มความสุขตามธรรมชาติ เซโรโทนิน หรือสารปราศจากเครียด และโดปามีน หรือสารหรรษา เป็นกลไกการฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่นิดเดียว
จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของการหัวเราะนั้นมีมากมายอย่างที่คาดไม่ถึง รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมให้ความสำคัญกับการหัวเราะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายจากภายในด้วยหัวเราะบำบัดหรือสยามหัวเราะ ที่นอกจากจะได้ความสุข รอยยิ้มและเสียงหัวเราะแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายและจิตใจ แข็งแรงสมบูรณ์อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.healthandcuisine.com/
วันที่ 16 ธ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,165 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,343 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,133 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,147 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,175 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 22,563 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,792 ครั้ง |
เปิดอ่าน 2,218 ครั้ง |
เปิดอ่าน 25,953 ครั้ง |
เปิดอ่าน 52,783 ครั้ง |
|
|