ไม่รู้เป็นไงชอบมีคนมาปรึกษา อยู่เรื่อยว่าจีบสาวไม่เป็น ควรทำไงดี?
จึงอยากสนับสนุนให้รู้จัก "จีบให้เป็น" กันสักที ถ้ามีแฟนแล้ว จะได้ไม่มาบ่นกระปอด กระแปดให้ได้ยินกันอีก
ว่าแล้วถ้าคิดจะจีบใคร คุณก็ควรมีความรู้เกี่ยวกับ ภาษาท่าทางของเพศตรงข้าม ไว้มั่ง ไม่ใช่คิด อยากจีบก็เดินดุ่ยๆเข้าไปแบบคนซื่อบื้อ ขืนเป็นงี้คงไม่มีใครกล้าเสวนาวิสาสะด้วยหรอก เพราะนึกว่าจะมาหาเรื่องมากกว่าจะบอกว่าชอบ ส่วนพวกวางมาดวางฟอร์มม้าก มากแต่ก็อยากมีแฟนนี่ ก็ไม่ดีอีก เพราะมัวแต่เล็งอยู่นั่น แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้จักมักจี่กันสักทีละเนี่ย
ใน มาเรียนรู้วิธีอ่านภาษากายของสาวๆกันเถอะ (Learn To Read a Woman's Body Language) อาจช่วยให้ท่านที่ประสงค์อยากมีแฟน เข้าใจถึงปฏิกิริยาของผู้หญิงที่มีต่อเพศตรงข้ามในยามที่เธอเป็นฝ่ายถูกจีบได้นะเอ้า เช่น เธอเขิน, เธอเฉยๆหรือเธอลำบากใจบ้างไหม? เมื่อรู้ว่ามีคนมาชอบเข้าให้ เจ้าปฏิกิริยาตอบสนองทางกายของสาวๆนี่แหละจะช่วยคุณ ประเมินสถานการณ์ได้ว่าควรเดินหน้าจีบต่อไป หรือหยุดซะเถอะ เธอไม่มีวันสนข้าหรอก...ได้ล่วงหน้าไง
เท่าที่สังเกต ผู้ชายส่วนใหญ่มักล้มเหลวที่จะทำความเข้าใจต่อความสำคัญของภาษากายนะ เพราะมุ่งให้ ความสำคัญไปที่การอ่านใจผู้หญิงมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น ผู้ชายมักยืนถือแก้วเครื่องดื่มนานๆพร้อมกับครุ่นคิดว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงฟากโน้น เธอสนหรือไม่สนเราไหมเน้อ ตรงนี้แหละที่น้อยคนนักจะรู้ว่าคำตอบนั้นดูได้จากท่าทางที่เธอแสดงออกนั่นเองแหละ ไม่ต้องไปคิดให้มันสลับซับซ้อนอะไรหรอก
อย่าพยายามไปอ่านใจเธอเลย เพราะใจคนน่ะยากแท้หยั่งถึงด้วยกันทั้งนั้น ควรหันมาดูพฤติกรรมที่ "ตัวเธอ" ดีกว่า แต่คำว่าตัวเธอในที่นี้ ไม่ได้ให้ไปเพ่งดูหน้าอกหน้าใจหรือบั้นท้าย, ขาอ่อนของเธอนะ แบบนี้ไม่ได้ตั้งใจจีบหรอก แต่อยากชวนขึ้นเตียงเลยมากกว่า ตรงข้ามให้พิจารณาที่ตัวเธอหมายถึงให้ดูปฏิกิริยาท่าทีที่เธอมีต่อการเกี้ยวพาราสีต่างหาก เช่น ดูจากสีหน้าและลักษณะการวางตัวอะไรเงี้ย
ซึ่ง วิธีอ่านภาษากายของสาวๆ ก็ไม่ยากเย็นอะไร จะประกอบด้วยบันได 3 ขั้น ดังนี้
1. ก่อนอื่นเลย ต้องรู้ให้ได้ว่า เธอสนใจคุณหรือเปล่า? ซึ่งจะช่วยให้ตัดสินใจได้ไงล่ะว่า คุณควรจีบเธอไหม? ถือเป็นการประเมินสถานการณ์ก่อนเดินหน้าเต็มตัวว่างั้นเถอะ
2. ควรรู้ว่า เธอรู้สึกดีที่ถูกจีบหรือว่าเธอเริ่มอึดอัดกับคุณกันแน่? ของพรรค์นี้ต้องอาศัยการสังเกตให้มากๆ ว่าฝ่ายถูกจีบน่ะเค้ารู้สึกอย่างไรและสนใจคุณแค่ไหน แล้วค่อยนำสิ่งที่สังเกตมาปรับใช้เพื่อให้การจีบสัมฤทธิผลสูงสุดนั่นแหละจ้ะ
3. ถึงขั้นนี้ก็ควรรู้แล้วว่า "จีบเถิดจะเกิดผล" หรือเธอไม่สนเราหรอกไปดีก่า เพื่อไม่ให้เสียเวลาไง ถ้าคิดว่าเธอชอบคุยกับคุณก็ขอเบอร์โทรศัพท์กันซะ ไม่งั้นก็ชวนออกไปจิบกาแฟวันหลังก็ได้ หรือชวนเธอไปบ้านคุณซะดื้อๆเลย ก็ว่ากันไป แต่เอ่อจะจีบใครทั้งทีก็ดูตาม้าตาเรือด้วยนะว่าเธอไม่มีแฟนมาด้วย ไม่งั้นถ้าเจอรุมกระทืบ เดี๋ยวได้เจ็บตัวฟรีแถมยังเสียโฉมก็เฉากันพอดี
ต่อไปนี้เป็นปฏิกิริยาสนองตอบของฝ่ายหญิงที่มีต่อการกะลิ้มกะเหลี่ยจากคนแปลกหน้าในขั้นที่ 1. เช่น
ท่าทีที่แสดงว่าผู้หญิงสนใจ
ชำเลืองมองคุณข้างๆ
มองคุณสัก 2-3 นาที
โน้มศีรษะมาทางคุณ
ยืดอก
ท่าทีที่บอกว่าเธอไม่สน
ไม่เคยชำเลืองสายตามาหาคุณเลย
หลบการจ้องตา
เชิดศีรษะ ทำเป็นไม่สน
ห่อไหล่ (อกไม่ตั้ง)
ถ้าคุณประสบความสำเร็จในการแนะนำตัว กับเธอแล้ว คือใครคนนั้นเค้ายอมคุยด้วยว่างั้นเถอะ ก็มาถึงขั้นที่ 2.
จงสนทนาต่อไปถ้า
เธอกระตือรือร้นกระฉับกระเฉง
เธอมีท่าทีเปิดเผย
เธอถือแก้วเครื่องดื่มต่ำ
เธอสบายๆกับทุกสิ่งทุกอย่าง
จงเดินจากไปซะเถอะ ถ้า....
เธอดูเครียดและกระสับกระส่าย
เธอไม่เปิดรับ
เธอถือแก้วเครื่องดื่มไว้ระดับอก
เธอเกร็งกับทุกอย่าง
และท้ายสุด ถ้าคุณไม่อยากเป็น 1 ในล้านของบรรดาชายหนุ่มที่ริจีบสาวแต่ไม่เอาอ่าว (แปลว่าไม่ได้เรื่อง) ละก็ อย่าลืมสานตอนจบด้วยการดูว่าสาวคนนั้นมีท่าทางแสดงออกว่าเธออยากไปกับคุณแน่นะ ฮันแน่ แต่จะไปไหนกันล่ะ? เอ๊ะหรือเธออยากให้เบอร์โทรศัพท์เพื่อให้คุณโทร.หาในอนาคตรึเปล่า? ไม่งั้นเธอมีท่าจะอ่อยเหยื่อให้คุณได้ผูกสัมพันธ์เพื่อดูใจไปก่อนใช่ไหม? ก็สังเกตดังนี้...
ถ้าเธออยากไปกับคุณด้วย......
เธอจะจ้องมาที่คุณ
เธอยิ้มจนเห็นฟัน
เธอจับโน่นจับนี่เข้าปาก (เขินน่ะซี)
เธอโน้มตัวมาหาคุณ เ
ขณะดื่ม เธอจะชำเลืองมายังคุณ
เธอแตะต้องตัวคุณ
เธอไม่เห็นอยากวิสาสะกับคุณเลยถ้า...
เธอมองไปที่อื่น
เธอยิ้มนิดๆ
เธอไม่จับอะไรเข้าปากเลย(ไม่เขินเพราะไม่สน)
เธอเมินหน้าไปทางอื่น
เธอดื่มแล้วมองไปทางอื่น
เธอไม่แตะต้องคุณเลย
อุตส่าห์บอกถึงสัญญาณจากภาษากายของสาวๆให้ทราบกันแล้ว ก็ตรองดูละกันว่าจะเดินหน้า สร้างสัมพันธไมตรีกับคุณเธอดีไหม ใครที่รู้เคล็ดเหล่านี้ย่อมมีสาวๆเข้ามาให้เลือกตลอดแหละ
แถมคนที่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำขณะแจกขนมจีบก็ย่อมได้เปรียบ คนที่ไม่รู้อะไรซะเลยจริงมะ เพราะผู้หญิงน่ะจะประทับใจผู้ชายในสิ่งแรกก็ตรงความสุภาพ และมารยาทในการเข้าสังคมของเขานั่นเอง อ้อ อีกอย่างที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ การถูกชะตากันแต่แรกพบ นั่นไง
ลองใครถูกชะตากับคุณตั้งแต่แรกพบล่ะก็ ต่อให้มีมารมาขวางก็เถอะ แต่เชื่อไหมว่าคุณทั้งสองจะผ่าทางตันเหล่านั้นไปได้ ฮัทโธ่ถ้าเป็นคู่แล้ว ย่อมไม่แคล้วกันเชื่อดี้.