Advertisement
“มะรุม” พืชสมุนไพร แต่ไม่ใช่ “ยาวิเศษ” |
กระแสรักสุขภาพยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสังคมไทยและสังคมโลก ประชากรไม่น้อยหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และยังคงมีวี่แววว่าจะสนใจไปอย่างนี้เรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงไหน "ฮิต" อะไร แต่ที่แน่ๆ และยังคงยืนพื้นในความนิยมของคนส่วนใหญ่ ยังคงเป็น "สมุนไพร" โดยในขณะนี้ "เทรนด์" ได้มาหยุดอยู่ที่ผักพื้นบ้าน เจ้าของนาม "มะรุม"
"มะรุม" เป็นพืชพื้นบ้านที่มีทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทำให้มีการเรียกชื่อมะรุมแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น คำว่ามะรุมนี้ เป็นคำเรียกขานของคนภาคกลาง ในขณะที่ฝั่งอีสานบ้านเฮาเอิ้นว่า "ผักอีฮุม หรือ บักฮุ้ม" ส่วนหมู่เฮาจาวเหนืออู้ว่า "บะค้อนก้อม" ส่วนชาวกะเหรี่ยงแถบกาญจนบุรีเรียก "กาแน้งเดิง" ด้านชายขอบจังหวัดแม่ฮ่องสอนกลับให้ชื่อแก่มันอย่างชวนให้ลิ้มรสว่า "ผักเนื้อไก่"
ครัวไทยแต่โบราณนำมะรุมมาปรุงเป็นอาหารหลากรสหลายตำรับ ในขณะที่ภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทยก็นำแทบทุกส่วนของมะรุม ไม่ว่าจะเป็นใบ ดอก ฝัก เมล็ด เปลือก ราก ฝัก ฯลฯ โดยสรรพคุณทางสมุนไพรในแต่ละส่วนก็มีต่างๆ กันไป
ปัจจุบันขณะนี้ ได้มีการโฆษณาสรรพคุณของมะรุมอย่างแพร่หลาย บ้างก็ว่าช่วยต้านมะเร็ง ช่วยรักษาเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสุขภาพ และสรรพคุณอื่นๆ อีกร้อยแปดพันประการ ทำให้แวดวงผู้รักสุขภาพทั้งหลายตื่นตัวและตื่นเต้นอีกครั้งกับสมุนไพรที่ดูเหมือนว่าจะ "มหัศจรรย์" ชนิดนี้ ไม่ต่างกับปรากฏการณ์กระชายดำและยอ ที่บูมเปรี้ยงปร้างช่วงก่อนหน้านี้ และก็เลือนหายไปกับสายลมแล้ว
![](http://images.thaiza.com/26/26_200905281017232..jpg)
และล่าสุด "กระแสมะรุมฟีเวอร์" ได้แพร่ระบาดจนกระทั่งบริษัทเอกชนหลายแห่งได้ผลิต "แคปซูลมะรุม" ออกมาขายกันเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ที่ไม่ชอบรับประทานผัก แต่อยากได้คุณประโยชน์ด้านสมุนไพร รวมถึงผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาบำรุงสุขภาพ แต่อยากได้อาหารเสริมเพื่อเป็นการบำรุงทางลัด
ภญ.สุภาพร ปิติพร แห่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรงพยาบาลที่ใช้แนวการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยเป็นหลัก กล่าวถึงคุณสมบัติของมะรุม ว่า มะรุมเป็นผักที่มีสารอาหารเกือบครบ วิตามินเอสูง มีโปรตีนสูง ซึ่งเป็นอาหารที่เหมาะกับเยาวชนที่ขาดอาหารในพื้นที่กันดาร โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี เช่น เยาวชนในประเทศเอธิโอเปีย รวมถึงในพื้นที่ที่เกิดวิกฤติขาดแคลนอาหารอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การบริโภคมะรุม ประชาชนต้องเข้าใจก่อนว่ามะรุมไม่ได้รักษาโรคได้สารพัดโรค ไม่ใช่ยามหัศจรรย์ หากคือผักพื้นบ้านที่คนไทยใช้เป็นวัตถุดิบทำอาหารมาหลายรุ่นแล้ว ไม่ใช่ยาวิเศษอย่างที่กระแสสังคมเข้าใจ
"มะรุมมีฤทธิ์ร้อน ก็พอจะช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต แล้วก็มีความเชื่อว่ามันช่วยเรื่องเบาหวานกับความดันโลหิตสูง ในส่วนตรงนี้ต้องพิสูจน์วิจัยกันต่อไป แต่ที่ห่วงก็คือ หากคนเข้าใจว่ามันเป็นยา ไม่ใช่พืชผัก และรับประทานมันในฐานะยารักษาโรค คนจะไม่รับประทานยาแผนปัจจุบันที่ผลิตออกมาเพื่อรักษาโรคนั้นๆ โดยตรง"
ภญ.สุภาพร กล่าวต่อไปอีกว่า การบริโภคมะรุมนั้น อยากให้ประชาชนเข้าใจว่ามันคือผักพื้นบ้าน อยากให้บริโภคอย่างเข้าใจ เพราะจริงๆ แล้วมะรุมก็ไม่ได้ปลอดภัยไปเสียทั้งหมด เพราะในตัวมันก็เป็นพิษด้วยเหมือนกัน
"อย่างที่บอกมะรุมเป็นพืชร้อน หากสตรีมีครรภ์รับประทานอาจจะทำให้แท้งได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคเลือดก็ไม่ควรรับประทาน เนื่องจากจะทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย รวมถึงคนเป็นโรคเกาต์ ก็ไม่ควรรับประทาน เนื่องจากมะรุมมีโปรตีนสูง"
อย่างไรก็ตาม เภสัชกรแห่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ย้ำว่า ไม่ใช่การบริโภคมะรุมเป็นของไม่ปลอดภัย เพราะคนไทยแต่โบร่ำโบราณก็นำมะรุมมาประกอบอาหารในฐานะพืชผักท้องถิ่น แต่สำหรับผู้ที่คิดเสริมสุขภาพทางลัดด้วยการไปซื้อมะรุมสกัดเป็นเม็ดแคปซูลมารับประทานนั้น อยากให้ระมัดระวังสักนิด เพราะมะรุมสกัดยังไม่ได้การรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
"มะรุมรับประทานได้ในบริบทของอาหาร ปลอดภัย ไม่อันตราย และมีประโยชน์ตามสมควรในฤทธิ์ของสมุนไพร ที่ไม่อันตรายเพราะเราไม่ได้รับประทานทุกวัน และรับประทานในปริมาณไม่มากนัก แต่อยากจะฝากเตือนไปยังผู้ที่รักสุขภาพว่า สำหรับมะรุมสกัดที่มีอยู่มากในตลาดขณะนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง และหากจะเลือกรับประทานคงจะต้องดูกันดีๆ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาสกัดจากส่วนไหน แต่ละส่วนมีฤทธิ์และออกฤทธิ์ต่อกลไกอวัยวะในระบบต่างๆ กัน และไม่รู้ด้วยว่าที่สกัดมาจะมีสารอะไรบ้าง และมีมากน้อยแค่ไหน และใส่อะไรลงไปเพิ่มอีกบ้าง ที่สำคัญคือตอนนี้อย.ยังไม่รับรองผลิตภัณฑ์สกัดจากมะรุม และก่อนหน้านี้ก็เคยปรากฏเช่นกันในกรณีของขี้เหล็ก ที่ออกฤทธิ์ทางเภสัชรักษาโรคได้ผล จึงมีการผลิตเป็นขี้เหล็กสกัดบรรจุแคปซูล ซึ่งพอคนไข้รับประทานเข้าไป ปรากฏว่า มีหลายรายมีอาการผิดปกติที่ตับ"
![](http://images.thaiza.com/45/45_20081124205425..gif)
เภสัชกรแห่งโรงพยาบาลใหญ่ในจังหวัดปราจีนบุรี ยังให้รายละเอียดถึงประสบการณ์ด้านเภสัชรักษาของมะรุมจากที่เธอได้ทำงานกับหมอพื้นบ้านต่อไปอีกด้วยว่า เนื่องจากมะรุมมีฤทธิ์ร้อน จึงมีการนำมาใช้เพื่อแก้อาการปวดเมื่อย เหน็บชา ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดี ในบริบทของหมอพื้นบ้านก็ใช้มะรุมในการควบคุมอาการความดันโลหิตสูง โดยนำยอดมะรุมสด นำมาโขลกคั้นน้ำผสมน้ำผึ้ง ดื่มวันละครั้ง แก้ความดันขึ้น ซึ่งหมอพื้นบ้านทางแถบไทยใหญ่ก็ใช้มะรุมคุมความดันเช่นเดียวกัน
"ส่วนคนที่มีอาการเหน็บชา กินมะรุมก็ช่วยแก้ได้เหมือนกัน เพราะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี แต่คุณสมบัติก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก นอกจากนี้ ดอกอ่อนของมะรุมยังช่วยป้องกันหวัด และมีวิตามินซีสูงอีกด้วย ดีที่สุดคือมองมะรุมเป็นอาหาร ต้องรับประทานอย่างเข้าใจ คนเราต้องรับประทานหลากหลาย รับประทานให้ครบทุกรส เพราะอาหารที่หลากหลายจะเข้าไปบำรุงหลายกลไกในร่างกายในทุกๆ ระบบ เราต้องการอาหารหลายอย่าง ไม่ใช่จากมะรุมอย่างเดียว ขออย่าให้เข้าใจผิด อย่ามองมะรุมเป็นยาวิเศษ"
ในขณะที่ รศ.ดร.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรอย่างหาตัวจับยากคนหนึ่งในประเทศไทย คาดคะเนที่มาของกระแสนิยมมะรุมว่า น่าจะมาจากต่างประเทศ ที่มีคนไข้ทดลองรับประทานแล้วปรากฏว่าร่างกายดีขึ้น จากนั้นก็มีคนนำมาทำเป็นฟอร์เวิร์ดเมลบ้าง เป็นข้อมูลลงในอินเทอร์เน็ตบ้าง ทำให้กระแสสุขภาพของมะรุมแพร่ไปในวงกว้าง จนกระทั่งเข้ามาสู่ประเทศไทยในที่สุด
"จริงๆ แล้วข้อมูลมันยังไม่คอนเฟิร์มนะ เป็นกระแสนิยมแบบไฟไหม้ฟาง พอฝรั่งในอเมริกากินแล้วดี ก็มีการส่งเมล์บอกต่อๆ กัน จนเข้ามาประเทศไทย น่าจะเข้ามาทางชุมชนอโศกซึ่งนิยมบริโภคผักและอาหารออร์แกนิกอยู่แล้ว"
รศ.ดร.นพมาศ กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ทราบงานวิจัยด้านมะรุมทางวิทยาศาสตร์มีค่อนข้างน้อย หากเทียบกับสมุนไพรที่อยู่ในกระแสนิยมตัวก่อนๆ นี้ และแม้ว่าจะมีบ้าง ก็อยู่ในระดับของการทดลองกับหนู และมีข้อมูลด้านลบแจ้งไว้เช่นกัน เช่น มะรุมมีโปรตีนสูง และเป็นโปรตีนที่เกาะกันเป็นก้อน จะไม่เหมาะกับผู้ป่วยบางโรค รวมถึงต่อผู้ป่วยด้วยโรคเลือดบางชนิด ก็ไม่ควรรับประทาน เนื่องจากในมะรุมมีสารบางชนิดที่เป็นพิษต่อผู้ป่วยโรคดังกล่าว
"อย่างไรก็ตาม ในมะรุมก็มีวิตามินสูง มีสรรพคุณบำรุงสายตา มีวิตามินเอ มีเบตาแคโรทีน และอาจจะมีฤทธิ์ทางเภสัชที่ช่วยด้านลดน้ำตาลได้บ้าง การเลือกใช้ต้องระมัดระวัง แต่การนำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารนั้น ถือเป็นปริมาณที่ปลอดภัย แต่ในส่วนของการเลือกจะดูแลสุขภาพแบบรวดเร็วโดยการไปซื้อมะรุมที่สกัดเป็นเม็ดเหมือนยาหรืออาหารเสริมนั้น ต้องดูให้ดีว่าใช้ส่วนใหญ่ ออกฤทธิ์อย่างไร ทางที่ดีรับประทานสดเป็นอาหารจะปลอดภัยที่สุด" ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรรายนี้ทิ้งท้าย
![](http://images.thaiza.com/45/45_20080618120255..gif)
ข้อมูล ผู้จัดการออนไลน์ / ที่มา women.thaiza.com
|
วันที่ 10 ธ.ค. 2552
Advertisement
![จิตว่างไม่มีในพระไตรปิฏกจริงหรือ? จิตว่างไม่มีในพระไตรปิฏกจริงหรือ?](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,412 ครั้ง ![ปณิธานปีใหม่ที่จะทำให้คุณมีความสุข ปณิธานปีใหม่ที่จะทำให้คุณมีความสุข](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,406 ครั้ง ![บทกรวดน้ำด้านล่าง ชอบมากกกกกกก !!! :)] บทกรวดน้ำด้านล่าง ชอบมากกกกกกก !!! :)]](news_pic/p42524221420.jpg) เปิดอ่าน 6,411 ครั้ง ![ศึกษาดูงาน..มาเลเซียและสิงคโปร์ ศึกษาดูงาน..มาเลเซียและสิงคโปร์](news_pic/p24952622158.jpg) เปิดอ่าน 6,439 ครั้ง ![ข่าวล่ามาเร็ว...แจ้งเกิดเทคนิคใหม่....ตรวจหวัดใหญ่ 2009 ข่าวล่ามาเร็ว...แจ้งเกิดเทคนิคใหม่....ตรวจหวัดใหญ่ 2009](news_pic/p64127630611.jpg) เปิดอ่าน 6,405 ครั้ง ![ปลอมบัตรเครดิต ปลอมบัตรเครดิต](news_pic/p81755470030.jpg) เปิดอ่าน 6,402 ครั้ง ![ยินดีที่ได้ให้ จึงภูมิใจเอามาฝาก ยินดีที่ได้ให้ จึงภูมิใจเอามาฝาก](news_pic/p52070430757.jpg) เปิดอ่าน 6,414 ครั้ง ![แบบบ้านไทยช่วยไทย บ้านแบบประหยัด Download แบบบ้านฟรี แบบบ้านไทยช่วยไทย บ้านแบบประหยัด Download แบบบ้านฟรี](news_pic/p51931032207.jpg) เปิดอ่าน 6,458 ครั้ง ![เปลือกไข่กินได้... เปลือกไข่กินได้...](news_pic/p94555282109.jpg) เปิดอ่าน 6,413 ครั้ง ![พิธีทำบุญปลูกป่า พิธีทำบุญปลูกป่า](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,411 ครั้ง ![5 วิธีใช้ธนบัตร...ยืดอายุใช้งาน 5 วิธีใช้ธนบัตร...ยืดอายุใช้งาน](news_pic/p96699560856.jpg) เปิดอ่าน 6,436 ครั้ง ![พักสายตา......ชวนชมสวนสวยในบ้านน้อยใหญ่ พักสายตา......ชวนชมสวนสวยในบ้านน้อยใหญ่](news_pic/p43136781511.jpg) เปิดอ่าน 6,422 ครั้ง ![สีสันบอกอะไรบ้าง สีสันบอกอะไรบ้าง](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,398 ครั้ง ![ทางสายกลางในศาสนาอิสลามคืออะไร ? ทางสายกลางในศาสนาอิสลามคืออะไร ?](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,408 ครั้ง ![การเขียนรายงานผลงานทางวิชาการ การเขียนรายงานผลงานทางวิชาการ](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,443 ครั้ง ![วิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต วิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,419 ครั้ง
|
![เรื่อง คนไทย..หัวใส..สร้างมนุษย์...ดัดแปรง!!!!!!! เรื่อง คนไทย..หัวใส..สร้างมนุษย์...ดัดแปรง!!!!!!!](news_pic/arrow.jpg)
เปิดอ่าน 6,409 ☕ คลิกอ่านเลย |
![ลองทำภาพแบบ little planet ครับ ลองทำภาพแบบ little planet ครับ](news_pic/arrow.jpg)
เปิดอ่าน 6,403 ☕ คลิกอ่านเลย | ![สวยด้วยตัวคุณเอง สวยด้วยตัวคุณเอง](news_pic/p56793890006.jpg)
เปิดอ่าน 6,400 ☕ คลิกอ่านเลย | ![อาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ](news_pic/p75257940606.jpg)
เปิดอ่าน 6,403 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ไปดูโรงเรียนดีที่ปักกิ่ง ไปดูโรงเรียนดีที่ปักกิ่ง](news_pic/arrow.jpg)
เปิดอ่าน 6,421 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ทุกอย่างใสสวยด้วยมือครู ทุกอย่างใสสวยด้วยมือครู](news_pic/arrow.jpg)
เปิดอ่าน 6,414 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ความมหัศจรรย์ของนักเรียน LD ตอน เด็กก้าวร้าว ความมหัศจรรย์ของนักเรียน LD ตอน เด็กก้าวร้าว](news_pic/p28196232119.jpg)
เปิดอ่าน 6,413 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ !["นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.? "นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.?](news_pic/p35383821428.jpg)
เปิดอ่าน 27,840 ครั้ง | ![ประเทศไทยได้อะไร... จากการรอใช้ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ ประเทศไทยได้อะไร... จากการรอใช้ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์](news_pic/p65340000955.jpg)
เปิดอ่าน 8,672 ครั้ง | ![แบบออกกำลังพื้นฐาน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 10 แบบออกกำลังพื้นฐาน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 10](news_pic/p36202090059.jpg)
เปิดอ่าน 15,633 ครั้ง | ![การเขียนกราฟ การเขียนกราฟ](news_pic/p92226731459.jpg)
เปิดอ่าน 23,720 ครั้ง | ![ประโยชน์ของขมิ้นชัน ประโยชน์ของขมิ้นชัน](news_pic/p73864221717.jpg)
เปิดอ่าน 3,181 ครั้ง |
|
|