ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ผู้บริหารมืออาชีพ


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,170 ครั้ง
Advertisement

ผู้บริหารมืออาชีพ

Advertisement

❝ เป้นเพียงแนวคิดที่เห็นว่าน่าจะเป็นแนวทางหนึ่งในการนำไปสู่ความสำเร็จในการบริหารงาน ❞

ลักษณะผู้บริหารมืออาชีพ

         ผู้บริหารจำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถหรือคุณลักษณะหลายประการ กล่าวคือ ผู้บริหารต้องมีลักษณะ หรือคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐานผู้บริหารการศึกษาของคุรุสภา 12 ข้อ ดังนี้
1) ปฏิบัติกิจกรรมทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษา
2) ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ โดยคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับการพัฒนาของบุคลากร ผู้เรียนและชุมชน
3) มุ่งมั่นพัฒนาผู้ร่วมงานให้สามารถปฏิบัติตามได้เต็มศักยภาพ
4) พัฒนาแผนงานขององค์กรให้สามารถปฏิบัติให้เกิดผลจริง
5) พัฒนาและใช้นวัตกรรมการบริหารจนเกิดผลงานที่มีคุณภาพสูงขึ้นเป็นลำดับ
6) ปฏิบัติงานขององค์กรโดยเน้นผลถาวร
7) รายงานผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้อย่างเป็นระบบ
8) ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
9) ร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานอื่นอย่างสร้างสรรค์
10) แสวงหาและใช้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา
11) เป็นผู้นำและสร้างผู้นำ
12) สร้างโอกาสในการพัฒนาได้ทุกสถานการณ์
ลักษณะการบริหารแบบมืออาชีพ
1) ยึดคุณภาพนักเรียนเป็นเป้าหมายสูงสุด
- มีการประกันคุณภาพ
2) ใช้กระบวนการบริหารครบถ้วนอย่างมี
- ระบบประสิทธิภาพ
3) บริหารโดยยึดหลักธรรมาภิบาล
4) มีกระบวนการกลุ่มในการทำงานและแก้ปัญหา
- คณะกรรมการสถานศึกษา
- ครู
- ผู้ปกครอง
5) ยินยอม ยอมรับให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
- คิดเชิงบวก
6) มีกัลยาณมิตรในการทำงาน
7) ทำให้โรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
- ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน
- ริเริ่มสร้างสรรค์

ลักษณะผู้บริหารมืออาชีพ

1) มีความถนัดในการเป็นผู้นำ และลักษณะนิสัยในการทำงานร่วมกับคนอื่นเป็นทุน
2) มีความรู้ความเข้าใจ ในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพ
3) มีบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ
4) มีคุณธรรม จริยธรรมเป็นที่ยอมรับของสังคมและมีจรรยาบรรณ
5) มีทักษะความสามารถในการปฏิบัติงานในศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
6) บริหารโดยเน้นสภาพปัญหาความต้องการที่เป็นที่ตั้ง
- ปัญหามีไว้แก้
7) บริหารงานเชิงรุก
8) พัฒนาหน่วยงานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
9) มุ่งผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นที่ตั้ง
ถวิล  อรัญเวศ  เสนอคุณลักษณะของผู้บริหารมืออาชีพ ไว้ 10  ประการ  ดังนี้
1) กล้าตัดสินใจ ผู้บริหารมืออาชีพต้องมีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจ  เป็นคนสุขุม  รอบคอบ มีเหตุผล 
โดยยึดภาษิต ที่ว่า “ ก่อนจะเชื่อสิ่งใดให้พิสูจน์ ก่อนจะพูดให้ยั้งคิดวินิจฉัย ก่อนจะทำกิจการงานใด ๆ จงคิดให้ถ้วนถี่จะดีเอย”
2) ไวต่อข้อมูล  ผู้บริหารมืออาชีพต้องเป็นคนทันสมัย ไวต่อข้อมูล   หรือการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ต้องติดตามข่าวสารต่าง ๆ อยู่เสมอ
3) เพิ่มพูนวิสัยทัศน์  ผู้บริหารมืออาชีพจะต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล  สามารถมองเห็นภาพฝันในอนาคต  และแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี
4) ซื่อสัตย์และสร้างสรรค์ผลงาน  ผู้บริหารมืออาชีพจะต้องเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต  และมีการสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่ปรากฏอยู่เสมอ
5) ประสานสิบทิศ  ผู้บริหารมืออาชีพ ต้องเป็นผู้ที่สามารถประสานงานกับหน่วยงานหรือบุคคลต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี  สามารถไกล่เกลี่ยข้อกรณีพิพาท และสามารถขจัดปัญหาต่าง ๆในหน่วยงานได้
6) คิดสร้างสรรค์วิธีการใหม่ ๆ  ผู้บริหารมืออาชีพต้องคิดหาวิธีการทำงานแบบใหม่ ๆอยู่เสมอ  เช่น
- ต้องรู้ว่า “จะทำอะไร” และมี “เป้าหมายอย่างไร”   ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน
- ต้องรู้ว่า “จะทำอย่างไร” โดยเลือกวิธีการหลาย ๆวิธี แล้วตัดสินใจนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน
- ต้องตั่งใจมุ่งมั่น และมีความจริงใจ ในการทำงานนั้น ๆ ให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
-เต็มใจทำงาน ทำงานให้สนุก และมีความสุขในการทำงา
-มีความสุขุมรอบคอบในการทำงาน
-มีใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ในการทำงาน ไม่โลเลที่จะดำเนินงานตามที่ได้วางแนวทางไว้
-ประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรด้วยใจเป็นกลาง ยุติธรรม และเปิดเผย
 7)      จูงใจเพื่อนร่วมงาน  ผู้บริหารมืออาชีพต้องมีความสามารถโน้มน้าว หรือจูงใจเพื่อนงานให้ 
       เกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน  และมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำ
 8)     ทนทานต่อปัญหาและอุปสรรค   ผู้บริหารมืออาชีพ ต้องมีความอดทนต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคที่กำลังเชิญ  และพร้อมที่จะหาทางแก้ไขปัญหา ไม่หนีปัญหา
 9)    รู้จักยืดหยุ่นตามสถานการณ์  ผู้บริหารมืออาชีพต้องรู้จักยึดหยุ่น  ไม่ตึงเกินไป  หรือไม่หย่อนเกินไป บางครั้งก็ต้องดำเนินการในสายกลาง  แต่บางครั้งต้องมีความเด็ดขาด เพื่อจะแก้ไขปัญหาให้สงบเรียบร้อย
 10)    บริหารงานแบบมีส่วนร่วม  ผู้บริหารมืออาชีพ จะต้องบริหารงานเป็นทีม โดยให้ทุกคนมีส่วนร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมทำ และร่วมประเมิน

บทบาทของผู้บริหารมืออาชีพ

         ผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพ  จะต้องมีบทบาทที่เป็นเอกลักษณ์เด่นกว่าผู้บริหารมือสมัครเล่น นั่นคือ  ผู้บริหารมืออาชีพจะต้องประกอบไปด้วยเกณฑ์ต่อไปนี้
1) การเป็นผู้นำทางวิชาการ  ผู้บริหารมืออาชีพควรปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างของผู้นำการเปลี่ยนแปลง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำทางวิชาการ โดยให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และมีการวางแผน นโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปการเรียนรู้ของสถานศึกษาอย่างชัดเจน  และสะดวกต่อการนำไปปฏิบัติให้คำปรึกษาแนะนำ และสร้างความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิรูปการเรียนรู้  ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษา
2) การบริหารแบบมีส่วนร่วม   ผู้บริหารมืออาชีพมีการบริหารอย่างอิสระ  เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารและบริหารในรูปแบบของคณะกรรมการสถานศึกษา โดยเน้นการมีส่วนร่วมทั้งครู บุคลากรภายในโรงเรียน บุคคลและหน่วยงานภายนอกโรงเรียน  ทั้งหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน อาทิ ครู  บุคลากร พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน  และองค์กรต่าง ๆ
3) การเป็นผู้อำนวยความสะดวก  ผู้บริหารมืออาชีพเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้แก่บุคลากรในโรงเรียนและผู้เกี่ยวข้องทั้งทางด้านวิชาการ อาทิ การจัดสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือ ตำรา เกม เทคโนโลยีช่วยการเรียนกาสอนและอุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ต่าง ๆ ตลอดจนการให้บริการและการจัดสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ เช่น แหล่งเรียนรู้และศูนย์การเรียนที่ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง  และจัดบรรยากาศของโรงเรียนให้อบอุ่นเพื่อให้ผู้เรียนมีความรักที่จะเรียนรู้และรู้จักแสวงหาความรู้
4) การประสานความสัมพันธ์  ผู้บริหารมืออาชีพมีการประสานงานและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในโรงเรียน และนอกโรงเรียน  เพื่อสร้างเครือข่ายผู้สนับสนุนทรัพยากรต่าง ๆ ได้แก่ ทรัพยากรงบประมาณ  ทรัพยากรบุคคล อาทิ ผู้เชี่ยวชาญผู้มีความรู้และประสบการณ์พิเศษที่โรงเรียนต้องการให้มาช่วยพัฒนาโรงเรียน ทรัพยากรด้านการเรียนการสอนและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น  อุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์การกีฬา  สื่อ เกม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
5) การส่งเสริมการพัฒนาครูและบุคลากร  ผู้บริหารมืออาชีพมีการพัฒนาครูและบุคลากรในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง  โดยการส่งเสริมให้ครูเข้ารับการอบรมเข้าร่วมประชุมสัมมนาและไปทัศนศึกษา  เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้ทันต่อสถานการณ์ความเจริญก้าวหน้าและความเปลี่ยนแปลงของโลก  และเพื่อสามารถนำมาประยุกต์และปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนให้ดีขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรในสถานศึกษาแห่งอื่น ๆ ตามความเหมาะสม
6) การสร้างแรงจูงใจ  ผู้บริหารมืออาชีพเป็นผู้มีทัศนคติในเชิงบวกกับผู้ร่วมงาน มีความยึดหยุ่นในการทำงาน สร้างความเชื่อมั่น และเข้าใจในความต้องการของฝ่ายต่าง ๆ ให้ความสำคัญในความพยายามของทีมงานและสร้างแรงจูงใจในการทำงานด้วยวิธีการต่าง ๆ อาทิ การแสดงความขอบคุณ การเผยแพร่ผลงานของทีมงานและการยกย่องให้รางวัล
7) การประเมินผล  ผู้บริหารมืออาชีพจำเป็นต้องจัดให้มีการประเมินผล  โดยส่งเสริมการประเมินผลภายในสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติเพื่อรองรับการประเมินภายนอก  มีการนำผลการประเมินผู้เรียนมาใช้กำหนดนโยบายของสถานศึกษา เพื่อให้เป็นกระบวนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและครบวงจร
8) การส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา  ผู้บริหารมืออาชีพให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาโดยส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ในโรงเรียนของครูและทีมงาน รวมทั้งผู้บริหารอาจเข้ามามีส่วนร่วมในการวิจัยด้วย
9) การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์  ผู้บริหารมืออาชีพให้ความสำคัญกับงานด้านเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของโรงเรียนให้ชุมชนและสาธารณชนทราบ โดยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันและสร้างการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น

คุณสมบัติของผู้บริหารมืออาชีพ

         ธีระ  รุญเจริญ  ได้เสนอลักษณะของผู้บริหารมืออาชีพ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการบริหารจัดการศึกษาตามแนวทางที่กำหนดไว้  ลักษณะดังกล่าวประกอบด้วย
1) ลักษณะพื้นฐานธรรมชาติเดิมเป็นทุน (ผู้นำตามธรรมชาติ)
(1) ความถนัด (Aptitude) ในการเป็นผุ้นำ
(2) ลักษณะนิสัยในการร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น
-ร่วมทำงาน
-เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์
 2)  การศึกษา ซ ปริญญาตรีทางการบริหารการศึกษาขึ้นไป ครอบคลุมเนื้อหาสาระ
  (1) การบริหารและการจัดการศึกษา
  (2) จิตวิทยาการทำงานร่วมกับผู้อื่น
  (3) พื้นฐานการศึกษาค้นคว้า วิจัย
  (4) บริบททางการบริหารการศึกษา
    -ระเบียบกฎหมาย
   -สังคมวิทยา
   -ปรัชญา
   -เศรษฐกิจ
   -การปกครอง
 3) บุคลิกภาพน่าเชื่อถือ
  (1) น้ำเสียงการพูดน่าฟัง เข้าใจง่าย
  (2) อารมณ์มั่นคง (Emotional Quotient : EQ)
  (3) เข้มแข็งแต่ถ่อมตน
  (4) กิริยามารยาทเป็นที่ยอมรับของสังคม
  (5) การแต่งกายสอดคล้องกับกาลเทศะ
 4) คุณธรรมจริยธรรม
  (1) มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้าทันการเปลี่ยนแปลง
  (2) ยึดระบบคุณธรรมเป็นที่ตั้ง
   -โปร่งใส
   -ยุติธรรม
  (3) ซื่อสัตย์ ไม่คอร์รัปชั่น
  (4) อดทน อดกลั้น
  (5) รับทั้งผิดและชอบ
  (6) เสียสละ
  (7) เป็นคนดีของสังคม
 5) ความสามารถ/ชำนาญในการ
  (1) บริหารและจัดการศึกษาตามหลักวิชาและการปฏิบัติ
  (2) นำองค์กรสู่เป้าหมาย โดยยึดองค์คณะบุคคลมีส่วนร่วม
  (3) ส่งเสริมการทำงานเป็นกลุ่มเป็นทีม
  (4) ประสานงานเพื่อผลงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบ
  (5) ปรับเปลี่ยนเทคนิคเพื่อสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง
 6) ความรู้ลึกและรู้รอบ
  (1) การบริหาร/จัดการ
  (2) การจัดการศึกษา
  (3) ระเบียบกฎหมาย
  (4) บริบททางสังคม
  (5) การวิจัย
  (6) จิตวิทยาการบริหาร
 7) การมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพบริหารการศึกษา
  (1) เป็นหลักประกันการบริหารที่มีประสิทธิภาพ/ประสิทธิผล
  (2) จัดการศึกษาที่มีประสิทธิภพ
  (3) เป็นหลักประกันคุณภพ
  (4) ยกระดับ มาตรบานวิชาชีพ
  (5) นำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่อง
  (6) มุ่งมั่นปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ

ยุทธศาสตร์ของผู้บริหารมืออาชีพ

1) การใช้การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์
2) การใช้กระบวนการกลุ่มแบบ CEO
3) การใช้ธรรมาภิบาลในการบริหาร
4) การพึ่งตนเอง
5) การมีผู้นำการเปลี่ยนแปลง
6) การสร้างการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
7) การยึดประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นหลัก
8) ประสิทธิภาพการใช้บริการ
9) การใช้เกณฑ์มาตรฐานในการบริหาร

กระบวนการทางปัญญา

         ประเวศ  วะสี   ได้อธิบายถึงกระบวนการทางปัญญา ประกอบด้วย 10  ขั้นตอน   ดังนี้
1) การฝึกสังเกต   ในการเรียนรู้ หรือการบริหาร หากมีการฝึกสังเกตก็จะเกิดปัญญา  โลกทัศน์และวิธีคิด สติ-สมาธิ จะเข้าไปมีผลต่อการสังเกตและสิ่งที่สังเกต
2) ฝึกบันทึก  เมื่อสังเกตอะไรแล้ว ควรฝึกบันทึก โดยจะวาดรูปหรือบันทึกข้อความ ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ละเอียดมากน้อยตามสถานการณ์การบันทึก
3) ฝึกกานำเสนอต่อที่ประชุมกลุ่ม การนำเสนอได้ดีเป็นการพัฒนาปัญญาทั้งของผู้นำเสนอ และของกลุ่ม
4) ฝึกการฟัง  การฟังที่ดีเกิดปัญญา โบราณเรียกว่าพหูสูต บางคนไม่ได้ยินคนอื่นพูดเพราะหมกมุ่นอยู่ในความคิดของตัวเอง หรือมีความฝังใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนเรื่องอื่นเข้าไม่ได้ ฉันทะ สติ สมาธิ จะช่วยให้ฟังได้ดีขึ้น
5) ฝึกปุจฉา-วิสัชนา  เมื่อมีการนำเสนอและการฟังแล้ว ฝึกปุจฉา-วิสัชนา ซึ่งเป็นการฝึกใช้เหตุผล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ทำให้เกิดความแจ่มแจ้งในเรื่องนั้น ๆ
6) ฝึกตั้งสมมุติฐานและตั้งคำถาม  เมื่อปุจฉา วิสัชนากันจนแจ่มแจ้งแล้ว  ควรจะมีการตั้งสมมติฐาน เช่นว่าอะไรเป็นอะไร  อะไรเกิดจากอะไร อะไรดีสำหรับอะไร มรรควิธีที่จะทำให้สำเร็จประโยชน์และมีการฝึกการตั้งคำถาม กลุ่มช่วยกันคิดคำถามที่มีคุณค่าและมีความสำคัญ

7)  ฝึกการค้นหาคำตอบ   เมื่อมีคำถามแล้วก็ควรไปค้นหาคำตอบจากหนังสือ จากตำรา จากอินเตอร์เน็ต หรือไปคุยกับคนเฒ่าคนแก่  แล้วแต่ธรรมชาติของคำถาม การค้นหาคำตอบ ต่อคำถามที่สำคัญจะสนุกและทำให้ได้ความรู้มาก  ต่างจากการท่องหนังสือโดยไม่มีคำถาม บางคำถามเมื่อค้นหาคำตอบทุกวิถีทางจนหมดแล้วก็ไม่พบ แต่คำถามยังอยู่ และมีความสำคัญ ต้องหาคำตอบต่อไปด้วยการวิจัย
8) การวิจัย  การวิจัยเพื่อหาคำตอบเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ทุกระดับ การวิจัยจะทำให้ค้นพบความรู้ใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดความภูมิใจ สนุกและมีประโยชน์มาก
9) เชื่อมโยงบูรณาการให้เห็นความเป็นทั้งหมดและเห็นตัวเอง  ธรรมชาติของสรรพสิ่งล้วนเชื่อมโยง เมื่อเรียนรู้อะไรมาอย่าให้ความรู้นั้นแยกเป็นส่วน ๆ แต่ควรจะเชื่อมโยงบูรณาการให้เห็นความเป็นทั้งหมด ในความเป็นทั้งหมดจะมีความงาม และมีมิติอันผุดบังเกิด (emerge) ออกมาเหนือความเป็นส่วน ๆ และในความเป็นทั้งหมดนั้นมองให้เห็นตัวเอง
เกิดการรู้ตัวเองตามความเป็นจริงว่าสัมพันธ์กับความเป็นทั้งหมดอย่างไร  ดังนั้นไม่ว่าการเรียนรู้อะไร ๆ ก็มีมิติทางจริยธรรมอยู่ในนั้นเสนอ มิติทางจริยธรรมอยู่ในความเป็นทั้งหมดนั่นเอง ต่างจากการเอาจริยธรรมไปเป็นวิชา ๆ หนึ่งแบบแยกส่วน แล้วก็ไม่ค่อยได้ผล
10) ฝึกการเขียนเรียบเรียงทางวิชาการ  ถึงกระบวนการเรียนรู้และความรู้ใหม่ที่ได้มา การเรียบเรียงทางวิชาการเป็นการเรียบเรียงความคิดให้ประณีตขึ้น ทำให้ค้นคว้าหาหลักฐานที่มาที่อ้างอิงของความรู้ให้ถี่ถ้วนแม่นยำขึ้น การเรียบเรียงทางวิชาการจึงเป็นการพัฒนาปัญญาของตนเองอย่างสำคัญและเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ของผู้อื่นในวงกว่างออกไป

คุณธรรมของผู้บริหาร

         ผู้บริหารที่มีความเป็นมืออาชีพ  จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องน้อมนำเอา  ทศพิธราชธรรม  ซึ่งเป็นคุณธรรมของผู้ปกครอง หรือธรรมของประจ่าแผ่นดิน 10 ประการ  มาสู่การปฏิบัติให้ได้  ซึ่งพระราชวรมุณี (ประยุทธ ปยุตโต) ได้กล่าวไว้ดังนี้
1) ทาน  ให้ปันช่วยประชา  คือ บำเพ็ญตนเป็นผู้ให้โดยมุ่งปกครองหรือทำงานเพื่อให้เขาได้ มิใช่เพื่อจะเอาจากเขา  เอาใจใส่อำนวยบริการ จัดสรรความสงเคราะห์ อนุเคราะห์ให้ประชาราษฎร์ได้รับประโยชน์สุข  ความสะดวกปลอดภัย ตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เดือดร้อน ประสบทุกข์ และให้ความสนับสนุนแก่คนทำความดี
2) ศีล   รักษาความสุจริต คือ ประพฤติดีงาม สำรวมกายและวจีทวาร ประกอบแต่การสุจริต รักษากิตติคุณ ประพฤติให้ควรเป็นแบบอย่าง  และเป็นที่เคารพนับถือของประชาราษฎร์ มิให้มีข้อที่ผู้ใดจะดูแคลน
3) ปริจจาคะ  บำเพ็ญกิจด้วยเสียสละ  คือ สามารถเสียสละความสุขสำราญ  เป็นต้น  ตลอดจนชีวิตของตนได้  เพื่อประโยชน์ของประชาชน และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

4) อาชชวะ  ปฏิบัติภาวะโดยซื่อตรง คือ ซื่อตรงทรงสัตย์ ปฏิบัติภารกิจโดยสุจริต มีความจริงใจ ไม่หลอกลวงประชาชน
5) มัททวะ  ทรงความอ่อนโยนเข้าถึงคน  คือ มีอัธยาศัยไม่เย่อหยิ่งหยาบคาย กระด้าง ถือองค์  มีความสง่างามเกิดแต่ท่วงทีกิริยาสุภาพนุ่มนวลละมุนละไม ควรให้ความรักภักดี แต่มิขาดยำเกรง
6) ตปะ  พ้นมัวเมาด้วยเผากิเลส คือ แผดเผากิเลส  ตัณหามิให้เข้ามาครอบงำจิต ระงับยับยั้งข่มใจได้  ไม่หลงใหลหมกมุ่นในความสุขสำราญ และการปรนเปรอ  มีความเป็นอยู่สม่ำเสมอหรืออยู่อย่างง่าย ๆ สามัญ  มุ่งมั่น แต่จะบำเพ็ญเพียรทำกิจในหน้าที่ให้บริบูรณ์
7) อักโกธะ  ถือเหตุผลไม่โกรธา  คือ ไม่เกรี้ยวกราด  ไม่วินิจฉัยความ และกระทำการด้วยอำนาจความโกรธ  มีเมตตาประจำใจไว้  ระงับความเคืองขุ่น  วินิจฉัยความและกระทำด้วยจิตอันสุขุมราบรื่นตามธรรมเนียม
8) อวิหิงสา  มีอหิงสานำร่มเย็น  คือไม่หลงระเริงอำนาจ  ไม่บีบคั้นกดขี่  มีความกรุณาไม่หาเหตุเบียดเบียนลงโทษอาญาแก่ประชาราษฎร์ผู้ใด  ด้วยอาศัยความอาฆาตเกลียดชัง
9) ขันติ  ชำนะเข็ญด้วยขันติ  คืออดทนต่องานที่ตรากตรำ  อดทนต่อความเหนื่อยยาก ถึงจะลำบากกายน่าเหนื่อยหน่ายเพียงไรก็ไม่ท้อถอย  ถึงจะถูกยั่วถูกหยันด้วยถ้อยคำเสียดสีถากถางอย่างใดก็ไม่หมดกำลังใจ ไม่ยอมละทิ้งกิจกรณีย์ที่บำเพ็ญโดยชอบธรรม
10) อวิโรธนะ  มิปฏิบัติคลาดจากธรรม  คือ ประพฤติมิให้ผิดจากประศานธรรม  อันถือประโยชน์สุขความดีงามของรัฐและราษฎร์เป็นที่ตั้ง อันใดประชาราษฎร์ปรารถนาโดยชอบธรรมก็ไม่ขัดขืน การใดจะเป็นไปโดยชอบธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนก็ไม่ขัดขวาง  วางองค์เป็นหลัก หนักแน่นในธรรม คงที่  ไม่มีความเอนเอียงหวั่นไหวเพราะถ้อยคำดีร้าย ลาภสักการะ หรืออิฏฐารมณ์อินิฏฐารมณ์ใด ๆ  สติมั่นในธรรม ทั้งส่วนยุติธรรม คือ ความเที่ยงธรรม ก็ดี นิติธรรม  คือระเบียบแบบแผนหลักการปกครองตลอดจนขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงาม ก็ดี  ไม่ประพฤติให้เคลื่อนคลาดวิบัติไป
       ผู้เขียนมีความเชื่อว่า กระบวนการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน  (School-Based Management Process)
น่าจะนำมาใช้ในการวางแผนร่วมกันได้ดี  คือ
 1.วิเคราะห์ศักยภาพของโรงเรียน
          องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับสถานศึกษาวิเคราะห์ศักยภาพของโรงเรียน เพื่อหาแนวทางในการทำงานร่วมกัน
 2.กำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้
          การกำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรฐาน และตัวบ่งชี้ร่วมกับระหว่างองค์กร ทำให้เห็นแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการร่วมกัน
 3.กำหนดกลยุทธ์ วางแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติการ
          การกำหนดกลยุทธ์ วางแผนพัฒนา และแผนปฏิบัติร่วมกัน สามารถทำให้ความไม่กระจ่างในสิ่งที่จะทำเป็นรูปธรรม มองเห็นในงานที่จะต้องทำร่วมกัน
 4.ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ
  การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ ควรให้เอกภาพในการดำเนินงานโดยหน่วยงานทางการศึกษาเป็นการเฉพาะ
 5.ประเมินตนเอง ประเมินภายใน
         การประเมินตนเอง ประเมินภายใน สามารถดำเนินร่วมกันได้
 6.รายงานประจำปี รายงานการประเมินตนเอง
          หน่วยงานทางการศึกษา ต้องรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี หรือรายงานการประเมินตนเองให้กับองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นให้ทราบ ทราบในความก้าวหน้าของการจัดการศึกษา  เพื่อใช้ในการวางแผนต่อไป
เมื่อองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นให้โอกาสหน่วยงานทางการศึกษา บริหารการศึกษาได้อย่างเต็มที่  มีเอกภาพในการบริหารจัดการแล้ว  กลัวทำไมที่จะโอนมาสู่องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น
       ผู้เขียนขอเสนอบทกลอน เพื่อการเสริมสร้างอุดมการณ์ร่วมกับระหว่างองค์กร ดังนี้

การบริหารการศึกษา 
คือหน้าตาของท้องถิ่น
ร่วมพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 
ผลลัพธ์ทั้งสิ้นเพื่อเด็กไทย

จงร่วมกันเพื่อสรรค์สร้าง 
งานทุกอย่างต้องโปร่งใส
ทุกองค์การร่วมขับเคลื่อนไป
การศึกษาไทยย่อมพัฒนา

(บัวกันต์  วิลามาศ-ประพันธ์)

แหล่งอ้างอิงข้อมูลและภาพประกอบ

คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ,สำนักงาน, ปฏิรูปการเรียนรู้ ผู้เรียนสำคัญที่สุด, สกายบุ๊กส์,
             กรุงเทพมหานคร,พิมพ์ครั้งที่ 2, 2544
คำหมาน  คนไค, 199 กระบวนท่าของครูมืออาชีพ,สำนักพิมพ์สายธาร,กรุงเทพมหานคร,2544
ธีระ  รุญเจริญ,ศาสตราจารย์ ดร. ความเป็นผู้บริหารสถานศึกษามืออาชีพ,สำนักพิมพ์ข้าวฟ่าง,
            กรุงเทพมหานคร  ,2548
ประเวศ  วะสี, การพัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบพุทธ, มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์,
            กรุงเทพมหานคร,2546
ผกา  มีสัตย์ธรรม, คุณธรรมของครู,สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
 กรุงเทพมหานคร, 2544
วรภัทร์  ภูเจริญ, ดร.,การบริหารการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ,สำนักพิมพ์ ส.ส.ก.
             กรุงเทพมหานคร,พิมพ์ครั้งที่ 2, 2543
สุวิทย์ มูลคำ,อรทัย  มูลคำ, เรียนรู้สู่ครูมืออาชีพ,ดวงกมลสมัย จำกัด,กรุงเทพมหานคร,
 พิมพ์ครั้งที่ 5, 2544
อนันต์ชัย  พงษ์สุวรรณ,ผศ.,การบริหารการศึกษาในคลื่นความเปลี่ยนแปลง,
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์,   บุรีรัมย์,  พิมพ์ครั้งที่ 2 ,2547
อุดมศึกษา,สำนักงาน,ความเป็นนักบริหารมืออาชีพ,กลุ่มการผลิตและพัฒนาครู,
               กระทรวงศึกษาธิการ, กรุงเทพมหานคร, 2547
 

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 35 วันที่ 9 ธ.ค. 2552


ผู้บริหารมืออาชีพ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ประโยชน์จากอาหารเห็ด....

ประโยชน์จากอาหารเห็ด....


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
วิทยาธรรมเป็นทาน

วิทยาธรรมเป็นทาน


เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง
ทำไมต้องแต่งงาน?  "Why we wed?

ทำไมต้องแต่งงาน? "Why we wed?


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
..เขย่า..ต่อมฮา..ขำขำ..

..เขย่า..ต่อมฮา..ขำขำ..


เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง
เพื่อพ่อของแผ่นดิน

เพื่อพ่อของแผ่นดิน


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
นิทานเวตาล ....เรื่องที่ 15

นิทานเวตาล ....เรื่องที่ 15


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
ภาพปริศนา : ข้อสอบ

ภาพปริศนา : ข้อสอบ


เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง
นวดศีรษะเพื่อผมสวย

นวดศีรษะเพื่อผมสวย


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

กินแล้ว สาวเสมอ ..ก็น่ากินนะ..>>>>

กินแล้ว สาวเสมอ ..ก็น่ากินนะ..>>>>

เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ลองทายใจคุณเอง ..แม่นมาก(อีกแล้ว)
ลองทายใจคุณเอง ..แม่นมาก(อีกแล้ว)
เปิดอ่าน 7,151 ☕ คลิกอ่านเลย

กบแปลงกาย.....คลายเครียดค่ะ
กบแปลงกาย.....คลายเครียดค่ะ
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

กล้วยไม้...
กล้วยไม้...
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

คุณค่าประโยชน์ของกล้วย
คุณค่าประโยชน์ของกล้วย
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

4 วิธีง่ายๆ..ต่อสู้กับมะเร็ง
4 วิธีง่ายๆ..ต่อสู้กับมะเร็ง
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

สุดสยองเมื่อ ของ(กิน)ปลอม ระบาด
สุดสยองเมื่อ ของ(กิน)ปลอม ระบาด
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เปิดอ่าน 3,409 ครั้ง

คอร์รัปชันในระบบการศึกษา...ความท้าทายที่ต้องเดินหน้าสู้
คอร์รัปชันในระบบการศึกษา...ความท้าทายที่ต้องเดินหน้าสู้
เปิดอ่าน 35,897 ครั้ง

แบบคำขอวิทยฐานะ ก.ค.ศ 1 ก.ค.ศ 1/1 ก.ค.ศ 2 และ 3 ฉบับ word
แบบคำขอวิทยฐานะ ก.ค.ศ 1 ก.ค.ศ 1/1 ก.ค.ศ 2 และ 3 ฉบับ word
เปิดอ่าน 305,638 ครั้ง

รู้แล้วจะตกใจ! เครื่องดื่มดับกระหาย มีน้ำตาลตัวร้ายผสมเพียบ
รู้แล้วจะตกใจ! เครื่องดื่มดับกระหาย มีน้ำตาลตัวร้ายผสมเพียบ
เปิดอ่าน 26,319 ครั้ง

ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท
เปิดอ่าน 9,750 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ