ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

หลากวิธีกำจัด จุดอ่อน ที่หัวใจ


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 8,281 ครั้ง
หลากวิธีกำจัด จุดอ่อน ที่หัวใจ

Advertisement

จุดอ่อนที่หัวใจ ที่กล่าวถึงนี้ไม่ใช่เรื่องราวรักๆ แบบในละคร แต่หมายถึงอาการของผู้ป่วย "โรคหัวใจ" ที่ควรหาทางป้องกัน จากสถิติผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจสูงขึ้นเป็นอันดับสองรองจากโรคมะเร็ง และยังมีแนวโน้มพบในคนอายุน้อยลงเรื่อยๆ ล่าสุดพบในผู้ป่วยอายุเพียง 29 ปี


น.พ.เสมชัย เพาะบุญ อายุรแพทย์โรคหัวใจ ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลวิภาวดี กล่าวว่าโรคหัวใจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการกินดีอยู่ดี และความสะดวกสบายมากขึ้น โดยที่ในอดีตมนุษย์ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตจากสงครามและโรคติดเชื้อเท่านั้น แต่ในปัจจุบันโรคที่เป็นปัญหาหลักที่ทำให้เสียชีวิตได้แก่ โรคมะเร็ง และโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยโรคหัวใจและหลอดเลือดจะมีปัจจัยเสี่ยงหลัก 2 ประเภท คือ ปัจจัยที่แก้ไขไม่ได้ เช่น เพศ พบในชายมากกว่าหญิง, อายุ วัยเสี่ยงคือ ผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป ผู้หญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป และกรรมพันธุ์ มีพ่อแม่และญาติที่เป็นสายตรงเป็นโรคหัวใจ


โรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง และโรคที่กำลังมีแนวโน้มพบมากขึ้น ได้แก่ โรคอ้วนลงพุง คือภาวะที่มีรอบเอวเกินมาตรฐาน โดยในผู้ชายมากกว่า 36 นิ้ว และในผู้หญิงมากกว่า 32 นิ้ว และมีความผิดปกติของน้ำตาลในเลือด


แนวทางการป้องกันต้องเน้นไปที่ปัจจัยที่แก้ไขได้เป็นหลัก


อันดับแรก คือในผู้ที่สูบบุหรี่ต้องหยุดสูบบุหรี่ รวมไปถึงผู้ใกล้ชิดที่มีโอกาสได้รับควันบุหรี่ด้วย ทั้งนี้พบว่าผู้ที่สูบบุหรี่จะมีอายุสั้นกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10 ปี


ปัจจัยต่อมา ควรหมั่นตรวจร่างกายว่าเรามีภาวะความดันโลหิตสูง เป็นโรคเบาหวาน หรือมีระดับไขมันในเลือดผิดปกติหรือไม่ ถ้ามีควรรักษาตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น จะช่วยลดโรคแทรกซ้อนในระยะยาวได้ ในระยะแรกที่ยังเป็นไม่มากควรใช้การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายก่อน แต่ถ้าเป็นมากต้องใช้ยารักษา


อันดับสุดท้าย เป็นเรื่องที่สำคัญมาก คือการออกกำลังกายให้เหมาะสมและเพียงพอ จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจได้ การออกกำลังกายที่ดีควรทำแบบต่อเนื่อง คือมีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อตอนเริ่มต้น เพื่อช่วยลดการบาดเจ็บ เริ่มต้นช้าๆ เพื่ออบอุ่นร่างกายและเตรียมพร้อม จากนั้นค่อยๆ เพิ่มความเร็วและเวลามากขึ้น สุดท้ายต้องค่อยๆ ลดความเร็วลงเพื่อให้ร่างกายและหัวใจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ควรออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 20-30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไป


ผู้มีปัจจัยเสี่ยงอย่าวิตกจริตเกินเหตุ เพราะอาการเจ็บแน่นบริเวณหน้าอกไม่ได้หมายความว่าเป็นโรคหัวใจเสมอไป ให้สังเกตตามกลุ่มอาการ เช่น


1. กลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นหนักหน้าอกเหมือนถูกบีบรัด ร้าวไปที่คอ กรามล่าง ไหล่ และแขนซ้าย นอกจากนี้อาจมีเหงื่อแตก หน้ามืด หรือเหนื่อยหอบร่วมด้วย มักเป็นขณะออกแรงหรือออกกำลังมากไป อย่าปล่อยให้เจ็บเกิน 5 นาที ควรรีบพบแพทย์


2. กลุ่มโรคของกล้ามเนื้อหัวใจและลิ้นหัวใจ ผู้ป่วยจะเหนื่อยง่าย หอบหนักผิดปกติแม้เวลากลางคืน นอนราบไม่ได้


3. กลุ่มโรคของระบบไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ผู้ป่วยมักมีอาการใจสั่น เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย บางรายอาจมีวูบเป็นลมหมดสติ ตัวผู้ป่วย ญาติ และผู้ใกล้ชิดควรตระหนักถึงเรื่อง "เวลา" เป็นสำคัญ หากพบผู้ป่วยมีภาวะอาการดังกล่าวต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจให้เร็วที่สุด


สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการติดต่อศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลวิภาวดี โทร. 0-2941-2800 ต่อ 1905




ที่มา ข่าวสด


หลากวิธีกำจัด จุดอ่อน ที่หัวใจหลากวิธีกำจัดจุดอ่อนที่หัวใจ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔

มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔


เปิดอ่าน 285,756 ครั้ง
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร

เฉาก๊วยทำมาจากอะไร


เปิดอ่าน 18,126 ครั้ง
อันดับเมืองน่าอยู่

อันดับเมืองน่าอยู่


เปิดอ่าน 13,632 ครั้ง
มารู้จัก GAT และ PAT กันดีกว่า

มารู้จัก GAT และ PAT กันดีกว่า


เปิดอ่าน 18,106 ครั้ง
ชนชาติแรกที่สูบบุหรี่

ชนชาติแรกที่สูบบุหรี่


เปิดอ่าน 17,529 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

จะเลือกแปรงสีฟันแบบไหนดี ?

จะเลือกแปรงสีฟันแบบไหนดี ?

เปิดอ่าน 10,952 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
5 วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร รู้ไว้ป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวง
5 วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร รู้ไว้ป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวง
เปิดอ่าน 295,439 ☕ คลิกอ่านเลย

ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม
ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม
เปิดอ่าน 13,144 ☕ คลิกอ่านเลย

6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก
6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก
เปิดอ่าน 10,397 ☕ คลิกอ่านเลย

เปิดตัวแสตมป์ ในหลวงฉลองพระองค์สูทสีชมพู 12 ธ.ค.
เปิดตัวแสตมป์ ในหลวงฉลองพระองค์สูทสีชมพู 12 ธ.ค.
เปิดอ่าน 17,385 ☕ คลิกอ่านเลย

"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง
"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง
เปิดอ่าน 2,234 ☕ คลิกอ่านเลย

ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?
ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?
เปิดอ่าน 15,865 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ
รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 11,270 ครั้ง

7 ขั้นตอนก้าวเปลี่ยนชีวิตสู่ความสำเร็จในอาชีพการงาน
7 ขั้นตอนก้าวเปลี่ยนชีวิตสู่ความสำเร็จในอาชีพการงาน
เปิดอ่าน 12,572 ครั้ง

รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ
เปิดอ่าน 79,880 ครั้ง

ขนมถังแตก
ขนมถังแตก
เปิดอ่าน 24,771 ครั้ง

10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
เปิดอ่าน 15,109 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ