ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ชีวิตครูของผม ตอน อาสาสอนโรงเรียนคนตาบอด


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,208 ครั้ง
ชีวิตครูของผม ตอน อาสาสอนโรงเรียนคนตาบอด

Advertisement

❝ หลังจากไม่ได้สอนหนังสือแล้ว รู้สึกว่าง ๆ ก็เลยไปหาประสบการณ์การสอนเด็กพิเศษ ก็ทำให้ได้ประสบการณ์อะไรใหม่ ๆ จนต้องตัดสินใจเข้าเรียนศึกษาศาสตร์ของ มสธ. เพื่อศึกษาศิลปะและศาสตร์ของการเป็นครูเสียที ❞  

ชีวิตครูของผม ตอน ครูอาสาโรงเรียนคนตาบอด

หลังจากที่ถูกอัญเชิญออกจากโรงเรียนดังกล่าวแล้ว ก็ว่างไม่รู้จะทำอะไร ผมก็เลยไปอาสาสอนภาษาอังกฤษให้คนตาบอดดีกว่า เผื่อจะได้ประสบการณ์การสอนในรูปแบบใหม่ ๆ ก็เลยไปแจ้งความจำนงที่ รร.คนตาบอดในจังหวัด ซึ่งไม่ผิดหวังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สิ่งที่เราได้ทราบตอนแรกก็คือ คนตาบอกนั้นแบ่งออกได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ บอดสนิท ซึ่งอาจจะบอกมาแต่กำเนิด หรือ มาบอดภายหลัง ซึ่งคนท่าบอดแต่กำเนิดนั้นจะมีปัญหาในเรื่องของทิศทาง สี ฯลฯ เพราะไม่มีสัญญาในเรื่องดังกล่าว ส่วนบอดสนิทภายหลังไม่มีปัญหา ยังพอนึกสิ่งที่เราพูดได้ และบอดอีกแบบหนึ่งซึ่งจัดในประเภทบอดสนิทคือ บอดตาใส คือดวงตาเหมือนกับคนปกติ แต่มองไม่เห็นอะไร สำหรับแบบที่สองคือเลือนราง อันนี้มองเห็นเป็นเงา เวลาอ่านหนังสือต้องใช้ตัวโตกว่าปกติ หรืออาจจะใช้แว่นสายตาสั้นแบบเลนส์ที่มีค่าสูง ๆ ถึงจะอ่านออก แบบนี้ก็สอนได้ไม่มีปัญหา แต่ที่น่าสงสารคือ คนตาบอดที่มีมาแต่กำเนิด ในบางรายอาจจะมีปัญหาทางสมอง คือปัญญาอ่อนด้วย ประเภทนี้มักจะมาอยู่ที่ รร.คนตาบอดตั้งแต่เด็ก บางรายตาบอดเพราะแพ้ยาหยอดตาก็มี ฐานะทางบ้านส่วนใหญ่ของโรงเรียนคือยากจน ดังนั้นทางเจ้าของจึงไปรับมาอยู่ในโรงเรียน เด็ก ๆ ในโรงเรียนนี้ส่วนใหญ่ต้องกินนอนที่โรงเรียน เพื่อฝึกทักษะในการใช้ชีวิตอยู่โดยลำพัง พวกเด็ก ๆ อยู่จนขนาดที่วิ่งขึ้นลงบันไดได้ โยไม่หกล้ม เว้นแต่เวลาทะเลาะกันถึงลงไม่ลงมือเนี่ยสิ ปัญหาใหญ่ เหมือนเอาผ้าปิดตานักมวยแล้วชกกัน สำหรับเรื่องการกินอาหารนั้น เด็ก ๆ ก็จะมีแม่ครัวมาทำให้ บางวันก็จะมีผู้มีจิตศรัทธามาเลี้ยงอาหาร ซึ่งเด็ก ๆ จะชอบหรือไม่ก็ต้องกิน โดยเฉพาะถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวนี่ลำบากหน่อย ตอนเติมเครื่องปรุง เพราะเด็ก ๆ ต้องให้คนช่วยใส่ บางคนใส่พริกหนักมือจนเผ็ด เด็กก็ต้องกิน ดังนั้นผมจึงได้คิดว่าถ้าจะเลี้ยงอาหารคนตาบอดแล้วถ้าไม่ให้เงินให้แม่ครัวทำให้ ก็ต้องจัดอาหารที่ไม่ต้องใส่เครื่องปรุง หรือใส่เครื่องให้น้อยที่สุดดีกว่า ในส่วนการเล่นกีฬาของคนตาบอดก็มีเหมือนกัน คือถ้าเตะบอล ลูกบอลของเค้าจะเป็นลูกบอลพิเศษคือมีเสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ในลูกบอล และใช้สนามไม่กว้าง เด็ก ๆ ก็จะฟังเสียงแล้วไล่เตะลูกบอลกัน ใครยิงเข้าประตู ก็จะได้แต้มในทีมของตน สำหรับกีฬาอื่นก็มีเหมือนคนปกติคือชักคะเย่อ ก็จับเชือกดึง กันไป วิ่งแข่งก็จะใช้ลู่ตรง เป็นต้น สำหรับในเรื่องการเรียนการสอนที่ผมสอนนั้น ผมต้องพิมพ์ตำราโดยใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่พิเศษ แล้วส่งให้โรงเรียนคนตาบอดก่อน จากนั้นเค้าจะทำเป็นอักษรเบลล์ สำหรับคนตาบอดสนิท ส่วนกลุ่มเลือนรางก็จะใช้ตำราที่ผมพิมพ์ เวลาสอนคงไม่จำเป็นต้องใช้กระดาน คงจะเน้นที่การพูดมาที่สุด เวลาทำแบบฝึกหัด นักเรียนก็จะทำเป็นอักษรเบลล์ แล้วทางโรงเรียนจะทำคำตอบเป็นภาษาธรรมดาให้เราอ่าน แต่ตอนหลังผมเกรงใจเลยให้ครูที่ดูแลซึ่งเป็นคนตาบอดเหมือนกันอ่านให้ฟังเลย ในเรื่องกิจกรรมเข้าจังหวะ ผมก็มีโอกาสได้สอน แต่ความลำบากตรงที่กลุ่มที่ตาบอดแต่กำเนิด เราก็ใช้วิธีเอามือแตะขาเค้าเมื่อบอกให้ก้าวขวา หรือซ้าย ก็ผ่านไปอย่างทุลักทุเลเช่นกัน แต่สิ่งที่ต้องเหน็ดเหนื่อยคือ เนื่องจากนักเรียนตาบอดจะมองไม่เห็น จึงใช้เสียงพูดกันค่อนข้างดัง ดังนั้นผมจึงต้องใช้นกหวีดเมื่อยามจำเป็น ระหว่างที่ผมสอนก็เป็นการเริ่มที่โรงเรียนปกติจะรับนักเรียนพิเศษเข้าเรียนร่วม ทางโรงเรียนคนตาบอดก็มีการส่งนักเรียนไปเรียนเช่นกัน สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ถ้าจะเลือกนักเรียนพิเศษแล้ว เด็กตาบอดจะถูกเลือกเป็นอันดับสุดท้าย เนื่องจากความพิการทางสายตาเป็นปัญหามากที่สุด ในการสื่อสาร เพราะหูหนวกดูปาก เดินไปไหนมาไหนได้ ทำรายงานได้ แต่อ่านออกเสียงไม่ได้ แต่คนตาบอดปัญหามากกว่า เพราะเอกสารการเรียนต้องถูกนำมาเตรียมล่วงหน้า ซึ่งโรงเรียนเห็นว่าเป็นการเพิ่มภาระแก่ครูผู้สอน และเด็กตาบอดจะไปไหนมาไหนก็ลำบาก แต่ก็ได้มีการทดลองเรียน ก็กว่าจะเป็นที่ยอมรับก็ทุลักทุเลพอสมควร เคยถามว่าเวลาไปโรงเรียนเวลาจะเข้าห้องน้ำทำไง เค้าก็บอกให้เพื่อนพาไป บางทีเพื่อนก็พาเดินอ้อมห้องน้ำกว่าจะไปถึงซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ แต่ไม่นานก็ชิน บางทีเพื่อนก็พาไปกินข้าวแล้วก็เอาไปนั่งที่ใกล้ห้องเรียน พอโรงเรียนจะเข้าก็มาจูงให้เข้าห้อง วิชาที่มีปัญหาของคนตาบอดคือวิชาการอ่าน และการจดบันทึก เด็ก ๆ ก็แก้ปัญหาโดยการให้เพื่อนอ่านให้ฟัง หรืออัดเทปครูสอน แล้วมาเปิดฟังทีหลัง ผมก็สอนนักเรียนได้ 1 เทอม ก็ต้องหยุดสอน เนื่องจากภาระการงานที่มากขึ้น และผมมาคิดว่า การเป็นครูนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด จึงตกลงใจลงเรียนศึกษาศาสตร์ เอกสังคมศึกษา แขนงมัธยมศึกษาที่ มสธ.

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 740 วันที่ 4 ก.ย. 2551


ชีวิตครูของผม ตอน อาสาสอนโรงเรียนคนตาบอดชีวิตครูของผมตอนอาสาสอนโรงเรียนคนตาบอด

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ศีลส่องใจ ...!!

ศีลส่องใจ ...!!


เปิดอ่าน 6,410 ครั้ง
บทคัดย่องานวิจัย

บทคัดย่องานวิจัย


เปิดอ่าน 6,418 ครั้ง
ไร้สาระ 9

ไร้สาระ 9


เปิดอ่าน 6,422 ครั้ง
ประวัติ..ต้นคริสต์มาส

ประวัติ..ต้นคริสต์มาส


เปิดอ่าน 6,433 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

โลโก้ Google ....ที่คนไทยไม่ค่อยได้เห็น (1)

โลโก้ Google ....ที่คนไทยไม่ค่อยได้เห็น (1)

เปิดอ่าน 6,409 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
9 เรื่องเด็ดของแฟชั่น ที่คุณต้องอึ้ง?ทึ่ง !?!
9 เรื่องเด็ดของแฟชั่น ที่คุณต้องอึ้ง?ทึ่ง !?!
เปิดอ่าน 6,413 ☕ คลิกอ่านเลย

ภาพหาดูยาก....ศูนย์รวมดวงใจไทยทั้งชาติ
ภาพหาดูยาก....ศูนย์รวมดวงใจไทยทั้งชาติ
เปิดอ่าน 6,402 ☕ คลิกอ่านเลย

รายงานผลการปฏิบัติงาน
รายงานผลการปฏิบัติงาน
เปิดอ่าน 6,429 ☕ คลิกอ่านเลย

ความลับ......ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ความลับ......ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
เปิดอ่าน 6,415 ☕ คลิกอ่านเลย

ก็...แค่นั้น!!
ก็...แค่นั้น!!
เปิดอ่าน 6,402 ☕ คลิกอ่านเลย

10 อันดับ ......สุดยอดสัตว์มีพิษ ที่อันตรายที่สุดในโลก
10 อันดับ ......สุดยอดสัตว์มีพิษ ที่อันตรายที่สุดในโลก
เปิดอ่าน 6,480 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

4 เรื่องฝากครรภ์ที่แม่ต้องรู้
4 เรื่องฝากครรภ์ที่แม่ต้องรู้
เปิดอ่าน 22,577 ครั้ง

เมื่อสุนัขตำรวจปลดเกษียณ สิ่งที่มนุษย์มอบให้คือ.....
เมื่อสุนัขตำรวจปลดเกษียณ สิ่งที่มนุษย์มอบให้คือ.....
เปิดอ่าน 14,006 ครั้ง

อักษรไทยสมัยสุโขทัย
อักษรไทยสมัยสุโขทัย
เปิดอ่าน 45,869 ครั้ง

ทั้งซาบซึ้ง-สะเทือนใจ หนูน้อย 7 ขวบสละชีวิต บริจาค"ไต"เพื่อช่วยชีวิตแม่
ทั้งซาบซึ้ง-สะเทือนใจ หนูน้อย 7 ขวบสละชีวิต บริจาค"ไต"เพื่อช่วยชีวิตแม่
เปิดอ่าน 13,429 ครั้ง

ป้องกันนร.ลอกข้อสอบ โรงเรียนจีนจัดที่สอบเเนวใหม่ ให้นั่งกลางเเจ้ง
ป้องกันนร.ลอกข้อสอบ โรงเรียนจีนจัดที่สอบเเนวใหม่ ให้นั่งกลางเเจ้ง
เปิดอ่าน 9,062 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ