พ.ศ.2537 ข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์จากน้าสาวให้ไปเป็นครูสอนอนุบาลที่โรงเรียนหลังเขา เนื่องจากข้าพเจ้าร่ำเรียนจบครูแต่ไปทำงานอยู่เกาะสมุย ซึ่งตอนนั้นด้วยวัยและไม่มีภาระผูกพันทำให้มีความรู้สึกสนุกสนาน และไม่อยากจะมีอาชีพครู แต่ด้วยความเกรงใจก็เลยต้องกลับมา
วันที่เดินทางนั่งรถไปถนนสายเอเชีย เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาๆๆๆ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลูกรังไปไกลมาก ผ่านหลุมบนถนนอีกไม่รู้กี่ร้อยหลุม จนเย็นก็เดินทางมาถึงบ้านผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นที่พัก น้าสาวฝากฝัง..ง .. ไว้แล้วก็กลับไปเลยเหลือแต่กล้วยแขกไว้ให้กินถุงหนึ่ง
วันรุ่งขึ้นก็ได้เวลาทำงานแล้ว โรงเรียนที่นี่เป็นโรงเรียนสาขาไม่มีครูประจำการมีแต่ครู ตชด.สอนอยู่ 3 นาย วันแรกที่ข้าพเจ้าทำงานมีอยู่ 1 นาย เมื่อได้เวลาเข้าแถวนักเรียนก็วิ่งมาเข้าแถว นักเรียนส่วนใหญ่จะสวมรองเท้าฟองน้ำ ที่เท่กว่านั้นคือมีนักเรียนใช้เชือกฟางผูกหูกางเกงไว้ไม่ให้หลุด ข้าพเจ้าคิดว่ามันยังมีอยู่จริงๆหรือ เพราะในสุราษฎร์ธานีนี้ไม่เคยเห็นเลยที่มีสภาพแบบนี้ นี่มันโรงเรียนในภาพยนต์ชัดๆ แล้วนักเรียนก็ไปเชิญธงชาติ เสาธงไม้ไผ่ใกล้จะผุซึ่งอยู่มาไม่กีวันมันก็ล้มลงมา ครูอดุลย์ ตชด.บอกว่า...ประเทศไทยล้มแล้วน้องเอ๊ย...
เมื่อได้เวลาสอนนักเรียนทั้งหมดก็เข้าห้องเรียน 6 ชั้นอยู่ในอาคารเรียนเดียวกัน ครูก็พยายามสอนไม่ให้ตรงกันเพื่อให้นักเรียนได้ฟังรู้เรี่อง ส่วนข้าพเจ้าก็ไปสอนอนุบาลซึ่งอยู่ที่บ้านพักครูตชด.ในวันนั้นมีนักเรียน 19 คน สอนก็ไม่เป็นเนี่องจากจบมาเอกเทคโนโลยี ไม่เคยสอนนักเรียนเล็กๆเลย มันยากนะสำหรับคนที่ฝึกงานห้องโสตแสนจะโก้แต่พอไปสอนเด็กอนุบาลไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี สรุปว่า..วันนั้น..สอนไม่ได้เรื่อง...ถึงกับถอดใจจะกลับบ้านก็กลับไม่ได้เลยต้องอยู่ต่อไป.....