ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ตรีทศเคราะห์เทวา (๒)......พระอาทิตย์ สุริยเทพ (๑)


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,191 ครั้ง
Advertisement

  ตรีทศเคราะห์เทวา (๒)......พระอาทิตย์ สุริยเทพ (๑)

Advertisement

 

พระอาทิตย์ สุริยเทพ (๑)

********************

                สุริยเทพ หรือ เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์  ถ้าไม่นำประวัติของท่านยุคหลัง ๆ มายึดถือ  โดยค้นประวัติไปยังความเชื่อสมัยโบราณของมนุษย์แล้ว  กลับตรงกันข้ามกับความเชื่อสมัยหลัง  คือ สมัยปัจจุบันนี้  เราถือว่า สุริยเทพ เป็นเพียงเทพเจ้าธรรมดาองค์หนึ่ง ไม่ใหญ่ไปกว่าเทพผู้ยิ่งใหญ่ของพราหมณ์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และ พระพรหม  แต่ในสมัยอียิปต์เมื่อห้าพันกว่าปีมาแล้ว  ถือว่า เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ อันทรงพระนามว่า “รา” เป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ มีอำนาจสูงสุดในสวรรค์

พระอาทิตย์ สุริยเทพ

พระอาทิตย์ สุริยเทพ

                ต่อมาพวก ปารซี ที่นับถือลัทธิบูชาไฟ  ก็ยกย่องอาทิตยเทพว่า ทรงมีมหิทธานุภาพสูงสุด  ที่เป็นเช่นนี้อาจจะเนื่องด้วยประเทศต่าง ๆ อันก้าวพ้นจากสมัยหินขึ้นมา  มีชีวิตความเป็นอยู่ด้วยการเกษตรกรรม หรือ กสิกรรม เป็นหลัก จำต้องอาศัยดิน ฟ้า อากาศ อันพอดีไม่แปรปรวน โดยเฉพาะพระสุริยเทพผู้ให้แสงสว่าง และความร้อนอันเหมาะสมกับฤดูกาล ทำให้พืชถึงกาลเวลางอกงามเต็มที่ มีผลิตผลอันไพบูลย์ เอามาใช้ดำรงชีวิตต่อไป  ดวงอาทิตย์ทำให้ต้นกล้าเจริญงอกงามเต็มที่ แล้วยังมีความร้อน ใช้ตากของต่าง ๆ  การรู้คุณของดวงอาทิตย์ว่ามีประโยชน์มหาศาลนี้เอง ทำให้มนุษย์เคารพพระอาทิตย์มากกว่าเทพองค์อื่น

ในพุทธประวัติตอนหนึ่ง เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูป “ปางถวายเนตร” ที่เป็นพระประจำวันของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ หลังจากพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้ทรงเสด็จไปประทับยืน ณ กลางแจ้ง เบื้องทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) โดยส้นพระบาททั้งสองชิด ปลายเท้าแยก ปล่อยพระกร (แขน) ทั้งสอง ไว้เบื้องหน้า ประสานพระหัตถ์ทั้งสองไว้ที่กลางลำพระองค์ โดยพระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย ทรงทอดพระเนตรต้นพระศรีมหาโพธิ์ โดยไม่กระพริบพระเนตร (ลืมตาตลอดเวลา) เป็นเวลาถึง ๗ วันด้วยกัน สถานที่ประทับยืนนั้นได้มีนามปรากฎว่า "อนิมิสเจดีย์" มาจนทุกวันนี้

จากพระอิริยาบถที่ประทับยืนดังกล่าว    ได้เป็นมูลเหตุที่ท่านโบราณาจารย์ได้คิดแบบอย่างสร้างองค์พุทธปฏิมากรในลักษณะนี้ขึ้น จะเรียกว่าเป็นการบังเอิญหรือไม่ก็ตามที  ดวงอาทิตย์ ในภูมิทักษานั้นท่านกำหนดให้อยู่ประจำ ณ ทิศอีสาน ทิศเดียวกับที่พระพุทธองค์ประทับยืน  ที่ทรงลืมพระเนตรตลอดนั้นคงจะเป็นด้วยพระองค์ ทรงมีพระประสงค์ที่จะนอบน้อมบูชาแด่ "ดวงอาทิตย์"   ดังที่มีการขานพระนามพระปางนี้ว่า "ถวายเนตร" มาถึงตอนนี้แล้วหลายท่านอาจจะสงสัยหรือข้องใจได้ว่าผู้เขียน "มั่วนิ่ม" หรือเปล่า อะไรกัน ?  เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ยังต้องบูชา "สุริยเทพ" ซึ่งมีศักดิ์ศรีด้อยกว่าด้วยหรือ ? ข้อนี้ขอเรียนให้ทราบว่า อันลักษณะนิสัยของ "พระมหาบุรุษ" นั้น     แม้จะเป็นพระพุทธเจ้าแล้วพระองค์ก็มิได้เย่อหยิ่ง ทะนงตน ถือดี อวดเด่น ยกตนข่มท่าน แต่ประการใด แต่ทรงมีพระนิสัยนอบน้อมสุภาพ รู้การใดควรไม่ควร

แม้แต่สมัยที่พระพุทธองค์ ทรงเสวยพระชาติเป็น พระยานกยูงทอง เพื่อบำเพ็ญพระบารมีนั้น ก็ยังทรงน้อมเคารพสักการะดวงอาทิตย์ ทุกเช้า และ เย็น ทำให้เกิดความสวัสดีมีชัย นายพรานกี่คนก็ตาม ไม่สามารถจะจับนกยูงทองโพธิสัตว์ได้ 

                พระสุริยเทพ  หรือ เทพเจ้าเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ของชาติต่าง ๆ มักมีปกติโคจร จากทิศตะวันออก มาสู่ทิศตะวันตก ใช้เวลาประมาณ ๑๒ ชั่วโมง ก็จะลับขอบฟ้า ต่อจากนั้นในเวลาเท่ากันก็จะโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาทางทิศตะวันออกอีก ได้โคจรเป็นนิจสินเช่นนี้ ชั่วนิจนิรันดร์  พระอาทิตย์ จึงได้ชื่อว่า “เทพเจ้าผู้จรชั่วนิจนิรันดร์” ไม่เคยพักร์ (คือ เดินถอยหลัง) เหมือนดาวพระเคราะห์องค์อื่น ๆ ขนาดพญาวานรหนุมานชาญสมร ในเรื่องรามเกียรติ์ ตอน พระลักษณ์ถูกหอกโมกขศักดิ์ เหาะขึ้นไปเพื่อจะขอให้ท่านหยุดรถทรง หรือ การเคลื่อนที่ เพราะต้องการประวิงเวลา ในการที่จะต้องสรรหาตัวยา สังกรณีตรีชวา อันเป็นตัวยาสำคัญที่จะรักษาพระลักษณ์ให้หายขาด ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น พระองค์ก็ยังทรงปฏิเสธ ไม่สามารถทำได้ แต่ก็ทรงพระกรุณาขับรถทรงเข้าไปในหมู่เมฆ เพื่อให้บดบังลำแสงของพระองค์ ทำให้ดูเหมือนสว่างช้า เป็นการช่วยเหลือพระลักษณ์ทางอ้อม

                พระอาทิตย์ เป็นพระเอกบนท้องฟ้าในยามกลางวัน  ส่วนพระจันทร์นั้น จะคือนางเอกของสวรรค์ในภาคกลางคืน  พระอาทิตย์เป็นเทพเจ้าแห่งการเกษตรกรรม และการครองชีพในกลางวัน  พระจันทร์ก็เช่นเดียวกัน เป็นนางเอกแห่งท้องนภากาศ อันมืดมิดสนิทของราตรีกาล เป็นที่นับถือกันในระหว่างพวกโจร หรือ พวกมิจฉาทิฐิ และพวกเดินทางกลางคืน ที่ต้องอาศัยแสงจันทร์

                ประวัติความเป็นมา หรือชาติกำเนิดของพระอาทิตย์นั้น แบ่งออกเป็นสองนัย คือ ความเชื่อของพวกตะวันตก ได้แก่ กรีก โรมัน  และความเชื่อของพวกตะวันออก ได้แก่ ฮินดู หรือ พราหมณ์ ซึ่งฝ่ายหลังนี้ มีมากมายหลายคัมภีร์ด้วยกัน เช่น คัมภีร์พระเวท คัมภีร์ไตรเพท คัมภีร์ปุรณะ ฯลฯ และยังได้กล่าวถึงพระองค์ท่านในเรื่องต่าง ๆ มากมาย เช่น ในรามายณะ , มหาภารตะ , หริศวัต ฯลฯ ดังจะได้นำเสนอให้รับทราบกันต่อไปนี้

                ความเชื่อของพราหมณ์ (ฮินดู) ซึ่งแพร่หลายต่อไปยังหลายประเทศในซีกโลกตะวันออก ในคัมภีร์ไตรเพท กล่าวว่ามีถึง ๘ องค์  มีชื่อต่าง ๆ กัน เชื่อกันว่าทั้ง ๘ องค์นั้น เป็นโอรสของพระกัศปะประชาบดี กับ พระนางอทิติ แต่ได้ทอดทิ้งพระมรรตตาณะฑะเสียองค์หนึ่ง คงนำไปเฝ้าพระเป็นเจ้าเพียง ๗ องค์ ต่อมาไกล่เกลี่ยตกลงกันได้ จึงยอมรับพระมรรตตาณะฑะ เป็นอาทิตย์ ด้วย จึงรวมเป็นพระอาทิตย์ ๘ องค์ ได้แก่

                ๑. วรุณาทิตย์   ๒. มิตราทิตย์   ๓. อริยมนาทิตย์   ๔. ภคาทิตย์   ๕. องศาทิตย์   ๖. อินทราทิตย์  ๗. ธาตราทิตย์  ๘. สุริยาทิตย์

                องค์ที่มีนามว่า สุริยาทิตย์ นี่แหละ คือ พระมรรตตาณะฑะ  ที่พระมารดา คือ พระนางอทิติ ไม่พาไปเฝ้าพระผู้เป็นเจ้า จะด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบ  จึงไม่ได้อยู่บนเทวโลกอย่างพระอาทิตย์องค์อื่น ๆ ทั้ง ๗ องค์แรก จึงคงเที่ยวขับราชรถอยู่ระหว่างเทวโลก กับ มนุษย์โลก ตราบเท่าทุกวันนี้

                ามคัมภีร์พระเวท  พระอาทิตย์ จะมีนามนัยหนึ่งว่า พระสูรย์ หรือ พระสุริยเทพ  มีหน้าที่ให้แสงสว่าง และความอบอุ่นต่อมนุษย์ สัตว์ และพืชพันธุ์บนพื้นโลกนี้  มีบางแห่งเรียกว่า สวิตฤ (สวิต์ฤ) ขี่ราชรถเทียมม้าสีแดง ๗ ตัว

                มีเรื่องเล่าว่า  พระสุริยเทพ มีชายาหลายนาง แต่ที่ปรากฎนามเสมอ ๆ ได้แก่ นางสัญญา ซึ่งเป็นธิดาของพระวิศวกรรม หรือ พระวิสสุกรรม มีพระโอรสด้วยกัน ๒ พระองค์ คือ พระมนูไววัสวัต (หรือ อีกนามหนึ่งว่า ท้าวสัตยพรต) และ พระยม (หรือ พระธรรมราชา) และมีพระธิดา ๑ พระองค์ คือ พระนางยมี (หรือ ยมุนา ซึ่งเป็นชื่อแม่น้ำสายสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำยมนา หรือ ยมุนา)

                เนื่องจากพระสุริยเทพมีพระวรกายรุ่งโรจน์ ร้อนแรง เหลือทน นางสัญญา จึงให้ นางฉายา (คือ เสกตัวแทนเอาไว้) ไปเป็นเมียแทน ส่วนตนนั้นก็ออกบวชบำเพ็ญพรตเป็น โยคินี อยู่ในป่า และไม่ต้องการให้พระสวามีจำได้  จึงจำแลงแปลงร่างเป็นม้า มีฉายานามว่า อัศวินี อย่างไรก็ตาม พระสุริยเทพก็มีอิทธิฤทธิ์เหมือนกัน  เมื่อรู้ความจริงเข้า  จึงแปลงร่างไปสมสู่ เป็นคู่ผัวตัวเมีย จนเกิดลูกแฝดด้วยกัน คือ อัศวิน กับ เวรันต์ แล้วจึงพาพระนางกลับมายังสำนักเดิมแห่งตน

                ฝ่ายพระวิศวกรรมผู้พ่อตา (ในปางที่แยกมาจากพระวิษณุ หรือ พระอิศวร จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระวิษณุกรรม) จึงจับพระสุริยะมากลึง  เพื่อขัดถูขูดผิวกายที่สว่างมาก ๆ ออกเสีย ๑ ส่วน ใน ๘ ส่วน  ผิวที่ขูดออกไปนั้น หากปล่อยให้ตกลงยังพื้นโลก ก็จะทำให้โลกไหม้เป็นจุณ  พ่อตาจึงได้นำไปสร้างเป็น จักร ถวายพระนารายณ์  ตรีศูล ถวายพระอิศวร ตรีวัชระ (ตรีเพชร) ถวายพระอินทร์  คฑา (ไม้เท้า) ถวายท้าวกุเวร (หรือ ท้าวเวสสุวัณ) หอก ถวายแด่พระขันธกุมาร และนอกจากนี้ยังนำไปสร้างเป็นอาวุธแจกจ่ายให้เทพยดาอื่น ๆ อีก จำนวนมาก

                ในรามายณะ หรือ รามเกียรติ์ กล่าวว่า พระสุริยเทพ หรือ พระอาทิตย์ เป็นบิดาของ พญาสุครีพ อัน เกิดแก่นาง สวาหะ ลิงผู้ครองนครกีษกินธยา (ขีดขิน) ในมหาภารตะ ว่า เป็นบิดาท้าวกรรณะ ผู้ครองแคว้นองคราษฎร์ (เมืองเบงคอล) ผู้เป็นเสนาบดีแม่ทัพฝ่ายโกรพ  ในหริศวัต ว่า เป็นบิดาของพระมนูไววัสวัต  ซึ่งเป็นบิดาของ ท้าวอิกษวากุ ผู้เป็นบรมชนกแห่งกษัตริย์สุริยวงศ์  ผู้ครองนครศรีอโยธยา และ นครมิถิลา  และ พระมนู ฯ นั้น ยังมีพระธิดาชื่อ พระนางอิลา  ซึ่งต่อมาได้เป็นพระมเหสีของ พระพุธเทวราช  พระพุธกับพระนางอิลา มีโอรส คือ ท้าวปุรูรพ บรมกษัตริย์แห่งจันทรวงศ์  กับมีความนิยมกันว่า  คราวพระสูรย์ แปลงเป็นม้าอยู่นั้น  ได้พบพระฤษี ชื่อ ยาญวัลกย์  ได้บอก พระอรชุนยัชุรเวท ให้แก่ พระยาญวัลกย์

                พระอาทิตย์ หรือ พระสุริยาทิตย์ ถ้ากล่าวในหมู่เทวดา กลุ่มดาวตรีทศเคราะห์ เรียกว่า ระวิ (ระวี หรือ ระพี) และยังมีชื่อต่างกันออกไป เช่น ทินกร (ผู้ทำวัน), ทิวากร (ผู้ทำวัน) ,ภาสกร (ผู้ทำแสงสว่าง), ประภากร (ผู้ทำแสงสว่าง) , อาภากร (ผู้ทำแสงสว่าง), สวิตฤ (ผู้เลี้ยง) , อรหบดี (ผู้เป็นใหญ่ในวัน), โลกจักษุ (ผู้เป็นตาโลก) , สหัสสรกิรณะ (ผู้มีแสงพันหนึ่ง) และ วิกรรตตะณะ (ผู้ถูกขูดแสงออก)

                ในคัมภีร์ไตรเพท ยังกล่าวไว้ว่า พระสุริยาทิตย์ นั้น มีเนตร (ตา) เป็นทอง มีกร (แขน) เป็นทอง และมีชิวหา (ลิ้น) เป็นทอง ทรงรถเทียมม้าเท้าด่างขาว  แต่ในคัมภีร์ปุรณะ แสดงว่า รูปร่างพระอาทิตย์ มีสีกายแดงแก่ มี ๓ เนตร ๔ กร ถือดอกบัว ๒ ข้าง อีกสองข้าง ข้างหนึ่งให้พร อีกข้างหนึ่งกวักให้บูชา นั่งมาบนดอกบัวหลวง มีรัศมีเปล่งปลั่งรุ่งโรจน์อยู่รอบกาย มีสารถี คือ พระอรุณ

                ราชรถของพระอาทิตย์นั้น ท่านว่า เทียมด้วยม้า ๗ ตัว แต่บางคัมภีร์ว่า ความจริงเทียมด้วยม้าตัวเดียว แต่มี ๗ หัว เช่นเดียวกับนาค ๗ หัว มีตัวเดียวนั่นเอง ที่กล่าวแตกต่างกันไป เนื่องจากนักปราชญ์ทางศาสนาฮินดู ต่างมีหลากหลายความคิด แล้วแต่จะกล่าวสรรเสริญยกย่องเทพเจ้าแห่งตน เลอเลิศประเสริฐศรีเพียงใดนั่นเอง

                แต่ในทางโหราศาสตร์ไทย ท่านว่า พระอาทิตย์ มีผิวกายดำแดง ผิวเนื้อสองสี พื้นทับทิม ประดับอาภรณ์ ด้วยเครื่องทรงเป็นแก้วมณีแดง หรือ ปัทมราคะ ทรงราชสีห์ เป็นพาหนะ เป็นเทพที่อุบัติขึ้นในจักรวาลก่อนดาวพระเคราะห์ทั้งมวล เป็นธาตุไฟ ร้อนรุ่งโรจน์ร้ายแรงยิ่ง มีกำลัง ๖ ทางศาสนาฮินดูเรียกว่า “สุริยเทพ” สถิตอยู่เบื้อง ทิศอิสาณ แปลว่า “ทิศแห่งพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่”

                ส่วนชาติกำเนิดนั้น ท่านว่า เคยกระทำบุญกุศลกรรมที่สร้างไว้แต่ปางบรรพ์ ด้วยการเคยทำบุญตักบาตรข้าวสุกบรรจุด้วยขันทองคำ แด่พระภิกษุสงฆ์ในอดีตกาล พระอิศวรจึงได้นำเอาศีรษะราชสีห์จำนวน ๖ ตัว มาห่อด้วยผ้าแดง ปลุกเสกด้วยคาถาอาคมขลัง ด้วยเดชะพระเวทย์กล้าแข็ง ศีรษะราชสีห์นั้น จึงกลับกลายมาเป็น “พระอาทิตย์เทพบุตร” มีกายสีแดง สถิตอยู่บนวิมานเหนือดวงอาทิตย์ มีอำนาจครอบครองวิมาน ฉะนั้น พระอาทิตย์ จึงมีกำลัง ๖ ตามชาติกำเนิด และมีอุปนิสัยรักยศ รักอำนาจ และหยิ่งด้วยเกียรติคุณ เกียรติยศศักดิ์ศรี มีมานะอดทน และเจ้าชู้ เชื่อในความรู้ความสามารถแห่งตน สมกับหลักเกณฑ์ของโหรโบราณท่านว่า “ดูยศศักดิ์อัครฐาน ให้ดูอาทิตย์”

ที่มา lifestyle.kingsolder.com

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3183 วันที่ 6 ธ.ค. 2552


ตรีทศเคราะห์เทวา (๒)......พระอาทิตย์ สุริยเทพ (๑)

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

อาหารต้านเบาหวาน

อาหารต้านเบาหวาน


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
แก่แล้วแก่เลย

แก่แล้วแก่เลย


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
ขำๆนะ‏

ขำๆนะ‏


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(10)

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(10)


เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง
5 วิธีสร้างสุข.... ฝ่าวิกฤติ

5 วิธีสร้างสุข.... ฝ่าวิกฤติ


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
วิธีแก้เซ็ง...... สร้างสุข

วิธีแก้เซ็ง...... สร้างสุข


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
ทำยังไงดี

ทำยังไงดี


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ของฝาก

ของฝาก

เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ทำนายทายทัก : คลายเครียดตามเดือนเกิด
ทำนายทายทัก : คลายเครียดตามเดือนเกิด
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

เพลงพยางค์เดียว(แต่มีค่ายิ่งใหญ่).....แม่
เพลงพยางค์เดียว(แต่มีค่ายิ่งใหญ่).....แม่
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย

 สอนลูก แต่งตัว ให้เหมาะสม ....เริ่มจาก พ่อแม่
สอนลูก แต่งตัว ให้เหมาะสม ....เริ่มจาก พ่อแม่
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

ธรรมะ เสมือนลมหายใจ  (อ่านแล้วจะได้ไม่คิดเลยเถิด)
ธรรมะ เสมือนลมหายใจ (อ่านแล้วจะได้ไม่คิดเลยเถิด)
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

ข้อคิดดีๆ
ข้อคิดดีๆ
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

หมอลักษณ์ เรขานิเทศ....แนะเคล็ดลับทำบุญของแต่ละราศี ปี 52 (3)
หมอลักษณ์ เรขานิเทศ....แนะเคล็ดลับทำบุญของแต่ละราศี ปี 52 (3)
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ไม่มีโลกส่วนตัว ในโลกไซเบอร์ ภัยออนไลน์ที่นักท่องเน็ตควรระวัง
ไม่มีโลกส่วนตัว ในโลกไซเบอร์ ภัยออนไลน์ที่นักท่องเน็ตควรระวัง
เปิดอ่าน 11,304 ครั้ง

รู้เท่าทันก่อนจะหันมาใช้ "บัตรเครดิต" โดย สคบ.
รู้เท่าทันก่อนจะหันมาใช้ "บัตรเครดิต" โดย สคบ.
เปิดอ่าน 11,309 ครั้ง

อยากฉลาดฟังดนตรีคลาสสิก
อยากฉลาดฟังดนตรีคลาสสิก
เปิดอ่าน 17,381 ครั้ง

วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา
เปิดอ่าน 11,536 ครั้ง

บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต
บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต
เปิดอ่าน 11,372 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ