น้ำผัก น้ำผลไม้ คลายร้อน เสริมสุขภาพ
อากาศร้อน แสงแดดแผดเผา แบบทุกวันนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้วคงช่วยดับกระหาย คลายร้อนลงไปได้เยอะ และถ้าจะให้ดี เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ก็ยิ่งแจ๋ว แม่สาลิกาไม่ได้กำลังโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลัง หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนะคะ แต่ที่จั่วหัวกันขึ้นมาวันนี้ จะมาคุยกันเรื่องน้ำผักผลไม้ เพื่อสุขภาพกันค่ะ เป็นที่รู้กันว่ากระแสสุขภาพมาแรง ในช่วงปีหลัง ๆ หลายคนหันมาดื่มเครื่องดื่มประเภทน้ำผักปั่น น้ำผลไม้ปั่น กันมากขึ้น นัยว่าดีกว่ากินน้ำหวานอัดลม หรือเครื่องดื่มบรรจุขวดที่วางขายกันทั่วไป (อุ่ย... คนทำงานบริษัทขายเครื่องดื่ม อย่าเพิ่งค้อนกันตาเขียวค่ะ ส่วนนั้นคือขายความสดชื่น และความสะดวกสบายค่ะ แหะ...แหะ)
แต่ที่ว่าดี ๆ กันนั้น แม่สาลิกาเชื่อว่าหลาย ๆ คนยังไม่รู้หรอกว่า เจ้าน้ำผักนั้นดียังไง มาเฉลยกันค่ะ
"ในน้ำผักมีฤกธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ที่มีคลอโรฟิลส์ (Chlorophyll สารสีเขียวในพืช) มีวิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหล็ก โปแตสเซียม แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส
เมื่อทานเข้าไป จะเกิดการแลกเปลี่ยนการใช้สารอาหารได้สูงสุด ทำให้ร่างกายสร้างพลักงานในแต่ละเซลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลที่ได้น่ะหรือคะ ร่างกายสามารถสร้างเซลใหม่ทดแทนเซลเก่าที่ตายในแต่ละวันได้อย่างเต็มที่ (ณ จุดที่ร่างกาย สามารถนำของเสียทิ้งได้ทั้งหมด)
ร่างกายต้องการค่า PH ในอาหารเท่ากับ 4 มีคลอโรฟิลส์ วิตามินเอ วิตามินซี ผนวกกับสารอาหารอีก 5 ชนิด พวกโปแตสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก
ค่า PH เป็นกรดเกินไป จะทำให้ร่างกายใช้แคลเซียมได้ยาก
ค่า PH เป็นกรดอ่อน ทำให้เกิดการใช้ไขมัน ทำให้ไขมันถูกย่อยสลายได้เร็ว
ค่า PH เป็นด่างเกินไป จะทำให้ร่างกายย่อยสลายไขมันได้น้อย
คนอ้วนมักมีไขมันค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่ น้ำผักที่ PH 4 สำหรับคนที่อ้วนมาก หรือ PH 4-6 สำหรับคนทั่วไป จะเปลี่ยนไขมันเป็นโคเลสเตอรอล ไปเป็นไตรกลีเซอไรด์ และเป็นกลีเซอไรด์ในที่สุด ซึ่งร่างกายนำไปใช้ได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ น้ำผักเข้าไปกระตุ้น ให้ร่างกายย่อยไขมันที่เหลือตกค้างอยู่ ให้เปลี่ยนไปเป็นพลังงาน
นอกจากนั้นแล้ว น้ำผักยังให้สารอาหารที่จะเข้าไปฟื้นฟูตับและตับอ่อน ให้มีการหลั่งน้ำออกมา การย่อยคาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ และวิตามิน ก็จะทำให้มากขึ้น
แหม! คุณประโยชน์สองข้อเลยทีเดียว ทั้งจัดการไขมันเก่า และป้องกันการสะสมไขมันใหม่อีกด้วย ว่าแล้วก็ลุกไปหาน้ำผัก น้ำผลไม้มาดื่มกันดีกว่าค่ะ
ขอบคุณ ข้อมูลดีๆ จากชมรมบ้านสุขภาพ