ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

13 นิสัย (เสีย ๆ) ที่ทำให้ปวดหลังไม่เลิกรา


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 12,330 ครั้ง
13 นิสัย (เสีย ๆ) ที่ทำให้ปวดหลังไม่เลิกรา

Advertisement

❝ โรคปวดหลังที่เราคิดว่ามันธรรมด๊า-ธรรมดานี่แหละ อาจพัฒนาไปถึงขั้นที่ทำให้เราต้องเข้าโรงพยาบาล แถมยังเลยเถิดถึงขั้นผ่าตัดก็มี! ❞

         นักแสดงสาว Yvonne Yung Hung มีอาการปวดหลังอย่างรุนแรงอันมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ ขณะซ้อมเต้นรำเมื่อครั้งยังเยาว์วัยจนถึงขั้นต้องหยุดการแสดงไปอย่างน่าเสียดาย

          ส่วนนักร้องสาว ลิลี่ อัลเลน ก็เคยพลาดล้ม โดยเอาด้านหลังลงจนต้องขึ้นเวทีด้วยน้ำตา แม้เธอจะยืนกรานว่า The show must go on แต่น้ำตาที่รินไหลทำให้เธอต้องโกหกแฟน ๆ ไปว่าเธอตื้นตันใจกับการแสดงในครั้งนี้มาก

          เรื่องอาการปวดหลังนี้มีใช่เรื่องที่อยู่ห่างตัวเราเสียทีเดียว เพราะแค่นั่งผิดท่าหรือเกิดอุบัติเหตุหกล้มก็สามารถทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ ฉะนั้น เราลองมาเช็กสุขภาพกันหน่อยดีมั้ยว่านอกจากอุบัติเหตุแล้ว พฤติกรรมอะไรบ้างที่อาจผลักดันให้มีอาการปวดหลังเช่นเดียวกัน…

 1.ติดแหง็กอยู่กับโต๊ะทำงาน

          สาว ๆ ที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์อยู่ทั้งวี่ทั้งวัน แถมบางคนยังมีเดตไลน์มาจ่อคอหอยอยู่มิได้ขาด อย่างนี้อาการปวดหลังอาจเริ่มแสดงออกมา เพราะทั้งวันสาวเจ้าเล่นพิมพ์งานไม่ได้หยุดหย่อน ครั้นจะยืดเส้นยืดสายให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายก็กลัวจะเสียเวลา ทั้ง ๆ ที่พฤติกรรมแบบนี้นี่เองล่ะที่ทำให้เราทุกข์ทรมานกับอาการปวดหลังในระยะยาว

          ทำยังไงดี : พนักงานออฟฟิศทั้งหลาย รวมทั้งคนที่นั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ โปรดจัดท่านั่งเสียใหม่ โดยนั่งให้หลังตรง และนั่งในท่าที่แผ่นหลังด้านล่างแนบชิดกับเก้าอี้ เพื่อช่วยรองรับแผ่นหลังไม่ให้โค้งงอ นอกจากนั้น ลำตัวและศีรษะต้องตั้งตรงไม่โน้มเอียงมาข้างหน้า แต่ถ้าเวลาพูดโทรศัพท์หรือเมาท์กับเพื่อนร่วมงาน สามารถพิงหลังติดกับพนักได้ เพื่อความผ่อนคลาย

          อย่างไรก็ดี ควรจะหาเวลาพักสายตาทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง โดยการเดินไปเข้าห้องน้ำหรือไปหยิบเอกสารยังเครื่องถ่ายเอกสาร ฯลฯ เพื่อให้กล้ามเนื้อหลังได้ผ่อนคลาย เพราะท่านั่งจะเพิ่มแรงกดดันให้แผ่นหลังมากกว่าท่ายืนถึง 40% 

2.ขับรถผิดท่า

          ชีวิตคนเมืองหลวงบ่อยครั้งต้องขับรถนานถึง 2-3 ชั่วโมงกว่าจะถึงที่ทำงานหรือบ้าน ฉะนั้น ท่านั่งที่เอียงไปข้างหน้ามากเกินไปหรือเอนหลังมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้

          ทำยังไงดี : ควรพยายามนั่งหลังตรง ๆ 90 องศา และยืดแขนได้ตามสะดวก ไม่ใช่แขนหดเกร็ง เพราะพนักเก้าอี้อยู่ชิดพวงมาลัยมากเกินไป และถ้าเราทำท่านี้ได้เหมือนเป็นวิถีชีวิตประจำวัน รับรองว่าอาการปวดหลังจะไม่ถามหาอย่างแน่นอน

 3.ไม่ออกกำลังกาย

          บ่อยครั้งที่อาการปวดหลังทำให้เราไม่อยากเดินเหินไปไหนไกล ๆ ยิ่งต้องใช้พละกำลังอย่างการออกกำลังกายด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ไม่อยากทำ แต่ตามหลักของงานวิจัยแล้ว เชื่อหรือเปล่าว่าคนที่แอ็กทีฟอยู่ตลอดเวลาจะช่วยให้กล้ามเนื้อหลังผ่อนคลายมากถึง 40%

          ทำยังไงดี : การออกกำลังกาย โดยเฉพาะการเดินจะช่วยให้สะโพกและเอ็นร้อยหวายทำงานได้อย่างเต็มที่ ยิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ กล้ามเนื้อจะไม่หดเกร็ง จึงช่วยลดอัตราความเจ็บปวดจากแผ่นหลังได้มากขึ้นเท่านั้น

 4.ละเลยการเล่นโยคะ

          นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันได้ทดสอบกลุ่มคนไข้ 101 คนที่มีอาการปวดหลัง โดยแบ่งพวกเขาออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกให้เข้าคลาสเรียนโยคะทุก ๆ สัปดาห์ ต่อด้วยการกลับไปฝึกเองที่บ้าน ส่วนกลุ่มที่สองให้นักกายภาพบำบัดมาช่วยสอนเรื่องการออกกำลังกายเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แล้วให้กลับไปฝึกเองที่บ้าน และกลุ่มสุดท้ายให้แค่หนังสือที่ช่วยเหลือตัวเองในเรื่องอาการปวดหลัง ผลปรากฏว่ากลุ่มแรกหายปวดหลัง เพราะได้เล่นโยคะคลายกล้ามเนื้อ ฉะนั้น ใครที่มีอาการปวดหลังอยู่ลองหันมาเล่นโยคะดูก็ดีนะคะ

          ทำยังไงดี : ใครที่ออกกำลังกาย แต่เมินเฉยต่อการเล่นโยคะ โปรดรับรู้ไว้ว่ากีฬาประเภทนี้ เหมือนยาวิเศษที่ช่วยรักษาโรคปวดหลังได้ยังไงยังงั้นเลย ฉะนั้น ควรหาหนังสือหรือวิธีดี สอนโยคะ รวมทั้งเข้าคลาสเรียนโยคะอย่างจริงจัง ก็ดีเหมือนกันนะคะ

 5.บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องมากเกินไป

          ซึ่งท่ากายบริหารอย่างชิตอัพและครันช์ นอกจากจะไม่ช่วยให้แผ่นหลังแข็งแรงแล้ว ยังส่งผลให้กล้ามเนื้อหลังเจ็บปวดขึ้นมาได้ด้วย

          ทำยังไงดี : ถ้าจะชิตอัพหรือทำท่าครันช์ควรทำช้า ๆ และทำอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นหากกล้ามเนื้อหน้าท้องที่มีหน้าที่พยุงกล้ามเนื้อหลังเกิดอักเสบหรืออ่อนแอขึ้นมา จะส่งผลให้กล้ามเนื้อหลังเจ็บปวดตามไปด้วย

 6.กินแต่ของไม่มีประโยชน์

          นักวิจัยชาวฟินแลนด์บอกว่าอาหารที่ดีและมีประโยชน์ จะช่วยให้หลอดเลือดลำเลียงสิ่งมีประโยชน์เข้าสู่ร่างกาย และช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ในทางกลับกันคนที่ชอบกินอาหารขยะ จะทำให้เส้นเลือดอุดตัน ยิ่งถ้าไปอุดตันบริเวณกระดูกสันหลังด้วยแล้วละก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้

          ทำยังไงดี : หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ และหลีกหลี่ยงอาหารที่ผ่านการปรุงมาแล้วหลายขั้นตอน เช่น อาหารจำพวกแช่แข็ง และอาหารที่ใส่สารกันบูด แต่ควรหมั่นกินอาหารจำพวก ธัญพืช นมถั่วเหลือง ถั่ว และโปรตีน เช่น ไก่ ปลา เนื้อไม่ติดมัน ผักสด และผลไม้สด

 7.ถือกระเป๋าไซส์ใหญ่ยักษ์

          ในความกิ๊บเก๋นั้นพ่วงมากับภัยจากการทำร้ายกล้ามเนื้อไหล่ และลามไปสู่แผ่นหลัง โดยเราอาจไม่เคยเฉลียวใจแม้แต่น้อย

          ทำยังไงดี : แค่เปลี่ยนทรงกระเป๋าหรือใส่ของให้น้อยลงหน่อย ทางที่ดีถ้าแบ่งเป็นสองกระเป๋าได้ก็ยิ่งดีใหญ่

 8.ใช้ฟูกเก่ายับเยิน

          ถ้าฟูกบนเตียงมีอายุการใช้งานนานเกิน 10 ปี ก็ควรหาฟูกใหม่มาเปลี่ยนได้แล้วล่ะ ซึ่งฟูกที่ดีควรเป็นฟูกที่ไม่แข็งหรืออ่อนยวบจนเกินไป แต่ควรเลือกฟูกที่นอนแล้วทำให้หลับสบาย

          ทำยังไงดี : เมื่อได้ฟูกที่ไม่แข็งหรืออ่อนมากเกินไปแล้ว เวลานอนราบควรใช้หมอนหนุนใต้เข่า เพื่อให้แผ่นหลังแนบชิดกับตัวฟูก เพื่อป้องกันอาการปวดหลังที่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนใครที่ชอบนอนตะแคงก็เอาหมอนข้างมาเสียบกลางหว่างขา เพื่อความสะดวกสบายในการนอนของคุณ

 9.ใส่ส้นสูงเดินทั้งวัน

          จะทำให้หลังโค้งงอและกระดูกสันหลังทำงานหนักมากขึ้น นอกจากนั้นการยืนบนส้นสูงแบบเขย่งเท้าอยู่ตลอดเวลา จะทำให้แผ่นหลังมีอาการปวดได้

          ทำยังไงดี : ควรหารองเท้าแตะมาเปลี่ยนเวลาอยู่ในที่ทำงาน รวมทั้งหาแผ่นรองเท้านุ่ม ๆ มาเสริมรองเท้าคัตชู หรือรองเท้ากีฬาเพื่อช่วยลดอาการปวดหลังที่มีอยู่ได้

 10.ฝืนคิดว่าตัวเองยังสบายดีอยู่ ทั้ง ๆ ที่มีอาการปวดหลังเหลือเกิน

          ทั้งนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโรสซาลินด์ แฟรงคลินระบุว่าคนที่ยอมรับความเจ็บปวดด้วยใจชื่นบาน มีแนวโน้มจะจัดการกับอาการปวดหลังได้ดีกว่าคนที่พร่ำบอกตัวเองว่ายังไหวอยู่

          ทำยังไงดี : พยายามคิดในแง่ดีว่าอาการปวดหลังที่เป็นอยู่นี้จะค่อย ๆ หายไปในที่สุด แม้ตอนนี้จะเจ็บปวดและไม่สบายเนื้อสบายตัวเป็นที่สุดก็ตาม

 11.เป็นคนประเภทแค้นฝังหุ่น

          ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเกร็ง เพราะความเครียดความทุกข์ และความชิงชังแล้ว แต่ยังทำให้กล้ามเนื้อหลังเจ็บปวดด้วย

          ทำยังไงดี : ก็แค่ให้อภัย เพราะการให้อภัยและปล่อยวางความแค้น จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจเบาสบาย รวมทั้งกล้ามเนื้อทั่วร่างกายผ่อนคลายตามไปด้วย

 12.เครียดมาราธอน

          ดูเหมือนวิถีชีวิตคนเราในปัจจุบัน จะพ่วงมากับความเครียดอยู่ตลอดเวลา ไหนจะรถติด มีประชุม งานกองสุมเป็นพะเนิน ทั้งหมดจะส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงเครียดอยู่ตลอดโดยไม่เคยได้ผ่อนคลาย จึงทำให้ปวดหลังได้ง่าย ๆ

          ทำยังไงดี : ก็แค่หมั่นหัวเราะให้จิตใจเบาสบาย กล้ามเนื้อจะได้ผ่อนคลาย ส่วนคนที่มีเวลาหน่อยก็ไปออกกำลังกาย ไม่ก็หาหนังสือดี ๆ มาอ่าน ที่สำคัญควรหาเพลงสบาย ๆ มาฟัง เพราะการฟังเพลง จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และส่งผลให้อาการปวดหลังทุเลาลงไปได้

 13.ดูทีวีทั้งวี่ทั้งวัน

          บางคนอาจจะใช้เวลาจ้องหน้าจอได้ถึงครึ่งวันโดยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน และการทำอย่างนี้จะทำให้แผ่นหลังของเราโค้งงอ เพราะนั่งในท่าที่ไม่ถูกสุขลักษณะเป็นเวลานาน ๆ

          ทำยังไงดี : ควรจำกัดเวลาในการดูทีวีของตัวเองแล้วหาเวลาออกกำลังกายและสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกบ้านบ้าง

Did You Know

          56% ของชาวอเมริกันมีอาการปวดหลัง จนเรียกได้ว่ารบกวนวิถีชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องการนอนไม่หลับและมีเซ็กซ์ไม่สุขสม แล้วอาการปวดหลังยังเป็นหนึ่งในห้าสาเหตุที่ชาวอเมริกันป่วย จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล นอกจากนั้น อาการปวดหลังยังเป็นต้นเหตุให้ชาวอเมริกันต้องได้รับการผ่าตัดโดยด่วน

ที่มา ::  LISA


13 นิสัย (เสีย ๆ) ที่ทำให้ปวดหลังไม่เลิกรา13นิสัย(เสียๆ)ที่ทำให้ปวดหลังไม่เลิกรา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

สูตรทำมะนาวดองน้ำผึ้ง

สูตรทำมะนาวดองน้ำผึ้ง


เปิดอ่าน 45,476 ครั้ง
ลายมือนักธุรกิจ

ลายมือนักธุรกิจ


เปิดอ่าน 34,290 ครั้ง
ทำไมเวลาเกา จึงหายคัน

ทำไมเวลาเกา จึงหายคัน


เปิดอ่าน 16,014 ครั้ง
ทำไมต้องอ้วนเพราะเบียร์ ?

ทำไมต้องอ้วนเพราะเบียร์ ?


เปิดอ่าน 12,201 ครั้ง
สัญญาณไฟจากรถบรรทุก

สัญญาณไฟจากรถบรรทุก


เปิดอ่าน 13,232 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล

เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล

เปิดอ่าน 25,509 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
8 วินัยใหม่เพิ่มเงินเก็บทั้งปี
8 วินัยใหม่เพิ่มเงินเก็บทั้งปี
เปิดอ่าน 11,959 ☕ คลิกอ่านเลย

กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน
กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน
เปิดอ่าน 8,766 ☕ คลิกอ่านเลย

รำลึก 100 ปี พระปิยะมหาราช
รำลึก 100 ปี พระปิยะมหาราช
เปิดอ่าน 19,063 ☕ คลิกอ่านเลย

กินแตงโม...ลดความดันเลือด
กินแตงโม...ลดความดันเลือด
เปิดอ่าน 16,893 ☕ คลิกอ่านเลย

สมจิตร จงจอหอ
สมจิตร จงจอหอ
เปิดอ่าน 22,380 ☕ คลิกอ่านเลย

ระวังคาเฟอีนในขนมเด็ก
ระวังคาเฟอีนในขนมเด็ก
เปิดอ่าน 9,270 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 8,291 ครั้ง

กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
เปิดอ่าน 43,834 ครั้ง

เผยแพร่เอกสารและคลิปสาธิตเทคนิคการคิดเลขเร็วแบบอินเดีย (เวทคณิต)
เผยแพร่เอกสารและคลิปสาธิตเทคนิคการคิดเลขเร็วแบบอินเดีย (เวทคณิต)
เปิดอ่าน 43,848 ครั้ง

ความเป็นมา  "วันสงกรานต์"
ความเป็นมา "วันสงกรานต์"
เปิดอ่าน 13,834 ครั้ง

20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง
เปิดอ่าน 21,586 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ