Advertisement
บันดาร์เสรีเบกาวัน นครแสนสงบแห่งบรูไน
คัคนานต์ ดลประสิทธิ์ รายงาน
คณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บินไปกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เมืองหลวงของประเทศบรูไนดารุสซาลาม เพื่อเข้าเยี่ยมการจัดการศึกษาของสถาบันต่างๆ และเข้าคารวะ รมว.ศธ. ของบรูไน เพื่อหารือความร่วมมือทางการศึกษาและลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านการศึกษาร่วมกัน
ก่อนออกเดินทางต้องเตรียมหาข้อมูลและเช็กสภาพอากาศของบรูไน ซึ่งตามปกติแล้วเป็นประเทศที่มีอากาศคล้ายเคียงกับประเทศไทย แต่ช่วงที่ไปเป็นช่วงที่มีฝนเข้าปกคลุม ทำให้อากาศไม่ร้อนจนเกินไป
คณะออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ รวมๆ แล้วจะต้องใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง
เมื่อเครื่องร่อนลงสู่พื้นดินของสนามบินบันดาร์เสรีเบกาวัน นครหลวงของประเทศบรูไนดารุสซาลาม จุดหมายแรก คือโรงแรมดิเอ็มไพร์ โฮเต็ล แอนด์ คันทรี คลับ ซึ่งเป็นโรงแรมที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมหรูระดับ 6 ดาว หรูหราที่สุดในเอเชียอาคเนย์ พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกไฮเทค และไฮคลาส ไม่ว่าเป็น การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำของโรงแรม หรืออยากจะเล่นน้ำหรือเดินเล่นที่ชายหาดก็ยังได้ พร้อมสถานที่เล่นกีฬาในร่ม เช่น ปิงปอง โบว์ลิ่ง หรืออยากจะดูภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่ห้องอันหรูหรา สำหรับผู้ที่ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง นอกจากจะมีสนามเทนนิสที่ได้มาตรฐานแล้ว ทางโรงแรมยังมีสนามกอล์ฟมาตรฐานระดับโลก ที่ออกแบบโดยแจ๊ก นิคลอส (โรงแรมหรูเริ่ดไฮโซมั่กๆ เพราะสมัยก่อนอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เคยเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ด้วย )
บันดาร์เสรีเบกาวัน (Bandar Seri Begawan) เป็นเมืองหลวงและเมืองท่าที่สำคัญของประเทศบรูไนอยู่ในเขตการปกครองบรูไน-เมารา มีประชากรประมาณ 60,000 คน เดิมชื่อว่า เมืองบรูไน ภายหลังเมื่อบรูไนพ้นจากการคุ้มครองของอังกฤษแล้ว จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นบันดาร์เสรีเบกาวัน
ปัจจุบันกรุงบันดาร์เสรีเบกาวันเป็นศูนย์กลางการเงินธุรกิจการค้า และการอุตสาหกรรมของประเทศ ทั้งยังเป็นสถานที่ผลิตน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติด้วย เมืองหลวงของบรูไนเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญของประเทศ เช่น พระราชวังหลวง ศูนย์ประวัติศาสตร์บรูไน พิพิธภัณฑ์บรูไน สุเหร่าที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกตะวันออกคือ มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน และ กัมปงเอเยอร์ หมู่บ้านดั้งเดิมของชาวบรูไนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำบรูไน
กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เป็นเมืองเดียวของบรูไนที่เรียกว่า "เมือง" ได้เต็มปาก เป็นเมืองสวยสะอาด ถนนในเมืองกว้างขวางและมีตึกรามบ้านเรือนทันสมัย มีสุเหร่าขนาดใหญ่อยู่กลางเมือง คือมัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน ในบริเวณสุเหร่ามีสระขนาดใหญ่ประดับสถานที่ให้ดูเด่นสง่างาม ภายในสุเหร่าปูพื้นด้วยหินอ่อนจากอิตาลี และปูพรมสั่งทอพิเศษผืนใหญ่มหึมา นับว่าเป็นศูนย์รวมชาวมุสลิมในบรูไนและเป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดของศาสนาอิสลามในบรูไน
1.มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน
2.หมู่บ้านกัมปง
3.-4.เยี่ยมตลาดTAMU KIANGGEH
5.ดาวน์ทาว์น
6.-8.อาหารตลาดกลางคืน |
นอกจากมัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดินแล้ว กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ยังเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิ พิพิธภัณฑ์บรูไน กับพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีมาเลย์ ซึ่งแสดงสถาปัตยกรรมการก่อสร้างบ้านในแม่น้ำอย่างที่กัมปงเอเยอร์ นอกจากนี้ ยังมีพระราชวังหลวงที่ใหญ่โตโอ่อ่าและสวยงามมากคือ พระราชวังหลวง อิสตานา นูรัล อีมาน ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมหลังจากเดือนรอมฎอน หรือหลังพิธีถือศีลอด
นับเป็นเมืองที่สงบ น่าอยู่ เมืองหนึ่ง นั่งรถผ่านย่านใจกลางเมืองแหล่งธุรกิจการค้ามีตึกสูงเหมือนบ้านเรา การจราจรก็ไม่วุ่นวาย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก
รุ่งขึ้นคณะต้องเริ่มทำงานกันแต่เช้าตรู หลังจากเยี่ยมชมสถานที่ที่กล่าวตอนต้นแล้ว ได้มีโอกาสแวะชมสถานที่ที่สำคัญ เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรม เช่น Jame Ar" Hassanil Bolkiah Mosque เป็นมัสยิดที่สง่างามและศักดิ์สิทธิ์ของชาวบรูไน ที่ใช้งบประมาณในการสร้างมหาศาล โดยมีการนำเข้าวัสดุการก่อสร้าง และตกแต่งจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ หินอ่อนจากอิตาลี หินแกรนิตจากเซี่ยงไฮ้ กระจกแต่งบานหน้าต่างจากอังกฤษ และพรมชั้นหนึ่งจากเบลเยียมและซาอุดีอาระเบีย เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ.1987 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1994 ใช้เวลาก่อสร้างถึง 7 ปี เป็นสุเหร่าที่มีห้องสวดมนต์ 2 ห้องแยกชายและหญิง บันไดทางขึ้นแต่ละชั้นจะมี 29 ขั้น ห้องละหมาดด้านบนตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยพรมสีเหลืองทองดูสว่างไสว ที่กลางห้องมีแชงเดอเลียร์อันใหญ่จากออสเตรีย หนักถึง 3.5 ตันประดับอยู่ด้วย
รวมทั้ง Omar Ali Saifuddin Mosque มัสยิดเก่าแก่อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบรูไน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน มัสยิดหลังนี้ออกแบบและดำเนินการสร้างโดยสุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน ที่ 3 พระราชบิดาของสุลต่านองค์ปัจจุบัน และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1958 พระองค์ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปนิกสมัยใหม่ของบรูไน มัสยิดนี้มีความงดงามจนได้ชื่อว่า มินิทัชมาฮาล ขณะเดียวกันยังได้ชมพระราชวังซึ่งเป็นที่ประทับและที่ทำการของสุลต่านฮัสซานัล ที่โดมทำด้วยทองคำแท้ 22 กะรัต
1.ลงนามเอ็มโอยูไทย-บรูไน
2.เยียมศูนย์VOCTECH
3.ห้องสมุดโรงเรียนเมอรากัง
4.เยี่ยมชม
5.โรงเรียนเมอรากัง
|
เมื่อหันไปมองคณะเดินทางที่มาด้วยกัน ไม่มีใครนั่งเฉย หยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพเหมือนกันหมดราวกับนัดกันไว้
ต่อมาคณะได้บุกย่านดาวน์ทาวน์ของกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย เช่น ทองคำ อาหาร เสื้อผ้า เป็นต้น ขณะเดียวกันยังได้ชมทัศนียภาพของหมู่บ้านกัมปงไอเยอร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีศิลปะการสร้างบ้านเรือนนับพันบริเวณปากแม่น้ำบรูไน ชาวยุโรปในยุคแรกที่เข้ามาที่บรูไน เรียกขานหมู่บ้านกลางน้ำนี้ว่า เวนิชแห่งตะวันออก (กรุงเทพฯ ก็เคยได้รับฉายานี้ เพราะมีคลองมาก แต่ปัจจุบันคลองกลายเป็นถนนเกือบหมดแล้ว) ไม่ว่าใครจะเดินทางมาที่ประเทศบูรไน ก็จะต้องแวะมาชื่นชมความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้
ปิดท้ายด้วย ไนต์ มาร์เก็ต ในค่ำคืนนี้ คณะได้ใช้เวลาชั่วโมงเศษ สำหรับตลาดแห่งนี้ เปิดตั้งแต่ 18.00-22.00 น. (เทียบเวลาประเทศไทย 19.00-23.00 น.) เป็นตลาดคล้ายกับตลาดทั่วๆ ไปของประเทศไทย ภายในมีอาหารสำเร็จรูปวางขายให้เลือกมากมาย สาเหตุที่มีอาหารสำเร็จรูปให้เลือกหลากหลาย เพราะว่าชาวบรูไนส่วนใหญ่ ไม่นิยมทำอาหารรับประทานเอง แต่จะนิยมมาจับจ่ายเลือกซื้ออาหารจากร้านค้าในตลาดแห่งนี้ ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่จะขายอาหารสำเร็จรูป เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเลือกสรร
สำหรับประเภทของอาหารมีทั้งอาหารที่ปรุงสำเร็จบรรจุใส่กล่อง ซึ่งเราสามารถซื้อและรับประทานได้ทันที กับอาหารที่ปรุงใหม่ๆ เช่น ไก่ย่าง ปลาเผา หรือ โรตี ที่ผู้ขายพร้อมจะปรุงทันที เมื่อมีลูกค้าสั่ง นอกจากจะมีอาหารให้เลือกอีกมากมายแล้ว ยังมีผักและผลไม้ให้ผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร ได้เลือกซื้อหลากหลาย เช่น มะเขือยาว พริก ต้นหอม ผักชี ทุเรียน ส้ม เป็นต้น
เมื่อภารกิจของวันนี้เสร็จสิ้น จึงกลับโรงแรม หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็ถึงเวลาอาหาร ทีมงานจัดแจงนัดแนะให้ไปเจอกันที่ห้องอาหารแสนสบายสไตล์ชิลชิลของโรงแรม อาหารมาเสิร์ฟทีละอย่าง แต่ละอย่างต้องใช้เวลารอ อาหารส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของเนื้อแทบทุกจาน เพราะเมืองนี้ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
คืนที่สองในบรูไนผ่านไปด้วยความสนุกสนาน
และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง คณะเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนเมอรากัง เป็นที่สุดท้าย เวลาที่เหลืออีกไม่มาก คณะได้แวะที่ TAMU KIANGGEH ประมาณ 20 นาที เพื่อเดินชมตลาดและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย
เอ็มโอยูไทย-บรูไน
เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายสุนิติ์ ทีวะเวช ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(รองปลัด ศธ. นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) นายสรรค์ วรอินทร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) นางศิริพร กิจเกื้อกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (รองเลขาธิการ กอศ.) นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ รองเลขาธิการสำนักงานสภาการศึกษา (รองเลขาธิการ สกศ.) และนายไพศาล วิศาลาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) รวมทั้งสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง
ทั้งคณะได้ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินรอยัล บรูไน มุ่งหน้าไปยังกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เมืองหลวงของประเทศบรูไนดารุสซาลาม โดยมี นายพิทักษ์ พรหมบุปผา เอกอัครราชทูตไทยฯ กับปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (อุดมศึกษา) ของบรูไนให้การต้อนรับ
การเยือนประเทศบรูไนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าเยี่ยมสถาบันเทคโนโลยีแห่งบรูไน (Institut Teknologi Brunei : ITB) ซึ่งเป็นสถาบันที่เปิดสอนสายอาชีวศึกษาตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรชั้นสูงจนถึงระดับปริญญาตรี ในสาขาวิศวกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศและธุรกิจ
และเยี่ยมชมศูนย์ระดับภูมิภาคว่าด้วยเทคนิคและอาชีวศึกษาของซีมีโอ (VOCTECH) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2533 มีภารกิจหลักในการจัดฝึกอบรม การทำวิจัย การจัดหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนาครูและบุคลากรของประเทศสมาชิกด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา รวมทั้งกระทรวงศึกษาธิการของบรูไน เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะ นายเพฮิน ดาโต๊ะ ฮาจิ อับดุล ราห์มาน ทาอิบ รมว.ศธ.ของบรูไน เพื่อหารือความร่วมมือทางการศึกษาและการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านการศึกษาร่วมกัน ตลอดจนเยี่ยมชมโรงเรียนเมอรากัง (Meragang Sixth Form Centre) ซึ่งเป็นโรงเรียนเตรียมก่อนเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
วันที่ 30 พ.ย. 2552
🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) ในราคา ฿129 คลิกเลย👇👇https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6
Advertisement
เปิดอ่าน 7,166 ครั้ง เปิดอ่าน 7,169 ครั้ง เปิดอ่าน 7,176 ครั้ง เปิดอ่าน 7,155 ครั้ง เปิดอ่าน 7,171 ครั้ง เปิดอ่าน 7,157 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,167 ครั้ง เปิดอ่าน 7,155 ครั้ง เปิดอ่าน 7,157 ครั้ง เปิดอ่าน 7,157 ครั้ง เปิดอ่าน 7,265 ครั้ง เปิดอ่าน 7,167 ครั้ง เปิดอ่าน 7,175 ครั้ง เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,164 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,157 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,165 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,163 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,168 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,164 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 19,772 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,297 ครั้ง |
เปิดอ่าน 51,169 ครั้ง |
เปิดอ่าน 42,027 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,407 ครั้ง |
|
|