ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับThanksgiving Day


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,166 ครั้ง
Advertisement

ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับThanksgiving Day

Advertisement

แค่อยากจะเล่าครับ: Thanksgiving Day

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ส่วนมากในสหรัฐฯ จะเป็นช่วงพักการเรียน (Break) ระหว่างภาค Fall ซึ่งจะเปิดสอนระหว่าง สิงหาคม ถึง ธันวาคม ในเทอมแรก เรียกว่า Thanksgiving break

เทศกาลนี้ มีหลายตำนาน บ้างก็ว่า ขอบคุณพระเจ้า แต่แท้จริงแล้ว หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ที่จริง มันเป็นการเลี้ยงฉลองหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยในระยะเริ่มแรกนั้น พวกที่อพยพมาจากอังกฤษ ไม่รู้จักวิธีการปลูกผัก การทำอาหาร การสร้างที่อยู่อาศัย ทำให้คนที่อพยพมาส่วนใหญ่ ตายกันหมด พวกที่เหลือก็ได้พวกชาวอินเดียนแดง ช่วยเหลือ สอนสั่ง วิธีการทำอาหาร ฯลฯ รอดมาได้ จึงเลี้ยงขอบคุณ ตั้งแต่ ปี ค.ศ. ๑๖๒๑ เป็นต้นมา (แต่ต่อมา ชาวผิวขาวนี่แหละ ที่นำโรคระบาด และสงครามมาสู่ชาวพื้นเมือง พร้อมกวาดต้อนชาวอินเดียนแดงไปอยู่ดินแดง Reservation ที่แห้งแล้วเหมือนตายทั้งเป็น ดังที่เคยเล่าไปแล้ว)

รัฐบาลในสมัยประธานาธิบดีลินคอร์น เพิ่งจะมาประกาศให้วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ที่ ๔ ของเดือนพฤศจิกายน เป็นวันหยุดแห่งชาติ ในระหว่างวันหยุด ก็จะมีการเลี้ยงฉลองอาหารด้วย "ไก่งวง" "มันบด" "แยม" และ"น้ำหวานฯ" โดยแต่เดิมที เขาก็เอาพวกขนมปัง เนย ฯลฯ อัดเข้าไปในลำตัวไก่งวง ขณะอบฯ ต่อมาเห็นว่าไม่ดีต่อสุขภาพ เลยแยกมาปรุงข้างนอกต่างหาก

ถามว่าเนื้อไก่งวง อร่อยหรือไม่ ตอบฟันธงดังเปรี้ยง ...ไม่เลย ...แข็งเป็นกระดาษ ไม่มีความอร่อยแม้แต่น้อย แต่เทศกาล Thanksgiving นี้ก็อบอุ่นดี เพราะพ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน จะมารวมตัวเฉลิมฉลองกัน ซึ่งโดยปกติหลังจากร่วมฉลองพิธีทางโลกแล้ว วันอาทิตย์ พวกเขาก็จะไปโบสถ์สวดอ้อนวอนพระเจ้ากันต่อไป หลัง ๆ เทศกาล Thanksgiving ถูกเหมาเป็นเทศกาลขอบคุณพระเจ้าไปเลย

ในช่วง Thanksgiving นี้จะมีเทศกาล สินค้าต่าง ๆ ก็จะลดราคาด้วย ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งก็จะลดราคากระหน่ำ ชนิดว่าเมื่อส่งเอกสารใบเสร็จไปขอเงินคืน ที่เรียกว่า Rebate แล้ว ได้ฟรีเลยก็เยอะเลยครับ ลูกค้าส่วนใหญ่จะต้องไปรอห้างเปิดในเช้าวันศุกร์ที่ ๒๕ พ.ย. ที่ผ่านมา ตั้งแต่ ตีสี่ บางคนไปกางเต๊นท์นอนรอห้างเปิดตอนประมาณ ๗ โมงเช้า ตั้งแต่ตอนกลางคืนของวันพฤหัสบดีฯ ก็มี (หนาวจะตาย ...อุณหภูมิลดลงไปประมาณเกือบศูนย์องศาฟาเรนไฮน์ จ้างผมไป ยังไม่ยอมลุกออกจากผ้าห่มอุ่น ๆ เลยครับ หนาวจนไข่หลบเข้าไปอยู่ในตัวแล้ว ไม่ไหวจริง ๆ)

ผมได้ดูข่าว CNN เห็นภาพข่าวแล้วตกใจจริง ๆ เพราะประชาชนจำนวนมาก ที่รอคิวกันอยู่นั้น เมื่อห้างฯ เปิด ก็กรูเข้าไป ใครล้มก็โดนเหยียบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต้องโดนหามไปโรงพยาบาลในที่สุด ส่วนพวกที่เข้าไปได้ ถ้าสนใจสินค้าต่างกัน ก็ไม่เท่าไหร่ ไม่ต้องแย่งกัน แต่พวกที่สินใจสินค้าประเภทเดียวกัน ต่างกรูวิ่งเข้าไปแย่งกัน เช่น ตามภาพ คือ ลูกค้าหลายคนแย่ง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค รุมชกต่อยกันเพื่อแย่งชิงสินค้าดังกล่าว แต่ไอ้เจ้าโน้ตบุค เจ้าปัญหาดิ แตกกระจายที่พื้นนั่นแหละ ..เวรกรรมจริง ๆ ๆ ทำไปได้ นักข่าว ก็ประกาศพร้อมทำหน้าตา เหยเก ทำนองรังเกียจ ชิงชัง ต่อพฤติกรรมนั้น แถมจัดทำโพลอีกว่า ได้มีประสบการณ์เถื่อน ๆ แบบนั้นหรือเปล่า

ที่มาBlogGang.com : : POL_US - แค่อยากจะเล่าครับ: Thanksgiving Day ขอบคุณค่ะ

 - 20:59

Home is Where the Heart is

Just another weblog of a busy mom of Triplets!

 

Thanksgiving Day-

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาเป็นวันขอบคุณพระเจ้าของชาวอเมริกัน

ทราบไหมคะว่า วันขอบคุณพระเจ้ามีความเป็นมาอย่างไร

Thanksgiving Day

ในประเทศอเมริกา ทุกวันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน
จะเป็นวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งชาวอเมริกันจะฉลองขอบคุณและสรรเสริญพระเจ้า
ที่อวยพระพรพวกเขาทั้งหลายให้มีความสุขทั้งกายและใจตลอดปีที่ผ่านมา
และนับเป็นวันสำคัญสำหรับครอบครัว
ที่จะอยู่พร้อมหน้ากันทุกคนเพื่อรับประทานอาหารเย็น
รวมทั้งพูดคุยถึงสิ่งที่ต้องการขอบคุณพระเจ้า

ตามความเป็นจริงแล้ว วันขอบคุณพระเจ้านี้
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์เลย
แต่เป็นวันที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์
ของการ
อพยพตั้งถิ่นฐานครั้งแรกในอเมริกาในปี ค.ศ. 1620
เริ่มจากชาวอังกฤษกลุ่มหนึ่งซึ่งเรียกตนเองว่า พิวริแทน (Puritans)
นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์
ต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ศาสนาในประเทศอังกฤษ
ซึ่งในยุคนั้นเป็นนิกาย เชิร์ชออฟอิงแลนด์(Church of England)
ให้เป็นไปตามความเชื่อเน้นความเรียบง่ายไม่หรูหรา
ผลปรากฏว่าพวกพิวริแทน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
จนในที่สุดได้ตัดสินใจ ตั้งศาสนจักรเป็นของตนเอง
เป็นเหตุให้เหล่าขุนนางอังกฤษไม่พอใจและเริ่มทำร้าย
ประหัตประหารพวกพิวริแทนจนพวกเขาต้องหนีไปอยู่ ที่ประเทศฮอลแลนด์
ซึ่งยังได้รับปัญหาอีก จากการถูกข่มเหงรังแก สืบเนื่องมาจากศาสนา

นอกจากนี้พวกเขา ยังรู้สึกเสียใจที่ลูกหลานไม่พูดภาษาอังกฤษ
แต่ไปพูดภาษาดัทช์แทนทำให้พวกเขาคิดย้ายถิ่นฐานอีกครั้ง
ซึ่งคราวนี้พวกเขานึกถึงการย้ายถิ่นฐานไปยังดินแดนที่ไม่มีผู้ใด
สามารถมายับยั้งหรือขัดขวางการนับถือศาสนา
ตามความเชื่อ และความศรัทธาของพวกเขา
จึงตัดสินใจเดินทางกลับประเทศอังกฤษ
จากนั้นกลุ่มพิวริแทน พร้อมกับผู้โดยสารอื่น ๆ
ทั้งชายหญิงและเด็กจำนวน 102 คน บนเรือเมย์ฟลาวเวอร์ (Mayflower)
ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่โลกใหม่
และพวกพิวริแทน เริ่มเรียกตัวเองว่าพิลกริม (Pilgrims)
เนื่องมาจากการท่องหาดินแดนแห่งเสรีภาพทางศาสนานี้

ระหว่างการเดินทางโดยเรือ ในเดือนกันยายน เป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุด
สำหรับการแล่นเรือข้ามมหาสมุทร อย่างไรก็ตามระหว่างการเดินทาง
มีผู้เสียชีวิตเพียง 1 คนเท่านั้น และมีทารกแรกเกิด 1 คน
ฉะนั้นจำนวนผู้โดยสารบนเรือยังคงมีจำนวนเท่าเดิม
หลังจาก ใช้เวลาแล่นเรือประมาณ 65 วัน
เรือเมย์ฟลาวเวอร์ ก็ได้มาจอดเทียบท่า
ที่ พรอวินซ์ทาวน์ฮาร์เบอร์ (Provincetown Harbor)
ซึ่งอยู่ในปลายแหลมเคพคอด (Cape Cod) มลรัฐแมซซาชูเสท

Image Hosted by ImageShack.us

ผู้นำกลุ่มพิวรีแทนทั้งหลายทราบดีว่า
เพื่อการอยู่รอดในสังคมทุกๆ สังคมจำเป็นต้องมีกฎระเบียบ
สำหรับความประพฤติ อันเหมาะสม
ดังนั้นผู้ชายประมาณ 41 คน ที่อยู่บนเรือเมย์ฟลาวเวอร์
ประชุมเลือกผู้ว่าการรัฐคนแรก (The first governor)
และเซ็นสัญญาเมย์ฟลาวเวอร์ (The Mayflower Compact)
ซึ่งเป็นข้อตกลงทางการข้อแรก สำหรับการปกครองตนเองในประเทศอเมริกา
หลังจากกลุ่มพิลกริมได้ใช้ชีวิตบนเรือ ประมาณ 1 เดือน
และส่งผู้ชายกลุ่มเล็กกลุ่มหนึ่งออกไปสำรวจชายฝั่งอ่าวเคพคอด (Cape Cod)
และเมืองพลีมัธ (Plymouth)
พวกผู้ช่วยได้พบท่าเรือแห่งหนึ่ง
ซึ่งมีทรัพยากรสมบูรณ์มาก เหมาะต่อการเพาะปลูกและการประมง
จึงกลับไปที่เรือ รายงานสิ่งที่พวกเขาได้ค้นพบ

อีก 2-3 วัน ต่อมา พวกพิลกริมแล่นเรือเมย์ฟลาวเวอร์
ข้ามอ่าวเคพคอด ไปยังท่าเรือพลีมัธ
และลงเรือเล็กมาเทียบที่ชายฝั่ง บนหินก้อนใหญ่ ก้อนหนึ่ง

ในภายหลังหินก้อนนี้ได้รับการเรียกขานว่า หินพลีมัธ (Plymouth Rock)
ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการตั้งถิ่นฐาน ถาวรครั้งที่สองของชาวอังกฤษในอเมริกา

เมื่อเวลาผ่านไปเข้าสู่ฤดูหนาว (Winter) พวกพิลกริมต้องเผชิญกับการต่อสู้ภัยธรรมชาติ
ซึ่งยากที่จะรับมือได้เนื่องจากไม่คุ้นเคยและไม่ได้รับการฝึกฝนทนกับความหนาวเย็น
การใช้ชีวิตในป่าดงพงไพร อันเต็มไปด้วยโรคต่าง ๆ การทำงานหนัก
ตลอดจนอาหารมีไม่เพียงพอ พวกเขาจึงได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมาก
จนถูกคร่าชีวิตไปกว่าครึ่งหนึ่ง เมื่อสิ้นสุดฤดูหนาว
จำนวนผู้รอดชีวิตเหลืออยู่แค่ 50 คนเท่านั้น

ในเช้าวันหนึ่งของฤดูใบไม้ผลิอันเป็นฤดูกาลถัดจากฤดูหนาว ชายชาวอินเดียนแดงคนหนึ่ง
เดินเข้ามาในหมู่บ้านเล็ก ๆ ของพลีมัธ และแนะนำตัวเองอย่างเป็นมิตร ซึ่งในเวลาต่อมา
เขาได้นำหัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง ชื่อแมสซาซอยท์ (Massasoit)
นำของกำนัลต่างๆ มามอบให้พวกพิลกริม และยังเสนอความช่วยเหลืออีกด้วย
โดยสมาชิกในเผ่าของแมสซาซอยท์ได้สอน วิธีการล่าสัตว์ จับปลาและปลูกพืช
ให้กับพวกพิลกริม นอกจากนี้ยังสอนวิธีการใช้ปลา เป็นปุ๋ยสำหรับปลูกข้าวโพด ( corns)
ฟักทอง(Pumpkins) และถั่ว (Beans) มีผลให้พวกพิลกริม
สามารถเก็บเกี่ยว พืชผลได้อย่างดีมาก

ผู้ว่าการวิลเลี่ยม แบรดฟอร์ด (William Bradford) เจริญรอยตามแบบแผนประเพณีเก่าแก่
ที่เคยปฏิบัติกันมา ได้กำหนดวันเพื่อขอบคุณพระเจ้าในฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 1621
และยังได้ใช้โอกาสทางศาสนานี้ สร้างสายสัมพันธ์ อันดีงาม ระหว่างพวกพิลกริม
และเพื่อนบ้านชาวอินเดียนแดงเหล่านั้น
ด้วยเหตุนี้ผู้ว่าการวิลเลี่ยมจึงเชื้อเชิญหัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง
นายแมสซาซอยท์ และผู้กล้าของเขา
ให้มาร่วมงานสังสรรการเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้านี้
ซึ่งชาวอินเดียนแดงรับคำเชิญ ด้วยความยินดี และส่งเนื้อกวางมาร่วมงานเลี้ยง

ชายฉกรรจ์พิลกริมทั้งหลายจึงออกไปล่าสัตว์
และกลับมายังที่พักพร้อมกับไก่งวง (Turkey)
และสัตว์ป่าอื่นๆ ส่วนผู้หญิงเตรียมอาหารอร่อยๆ ซึ่งทำมาจากข้าวโพด
ลูกเเครนเบอรี่ (Cranberry) ผลสควอช (Squash) และฟักทอง

Image Hosted by ImageShack.us

อาหารมื้อเย็นสำหรับขอบคุณพระเจ้าครั้งแรกเสร็จเรียบร้อย
และถูกนำมาเสิร์ฟนอกบ้าน รวมทั้งกองไฟกองใหญ่ ที่ก่อขึ้น
เพื่อให้ผู้จัด (Hosts) และแขกผู้มาเยือน (Guests)
รู้สึกอบอุ่น ถึงแม้ว่าเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงก็ตาม
รวมจำนวน ของผู้มาร่วมงานเลี้ยงขอบคุณพระเจ้าครั้งแรกประมาณ 90 คน
และการฉลองนี้ใช้เวลานานถึง 3 วัน
ในวันแรกของงานเลี้ยง พวกอินเดียนแดงใช้เวลาหมดไปกับการกิน
ส่วนวันที่สองและสามพวกเขาใช้เวลาต่อสู้แบบมวยปล้ำ
วิ่งแข่ง ร้องเพลงและเต้นรำกับ คนหนุ่มสาว
ในอาณานิคมพลีมัธ นับเป็นงานเลี้ยงที่ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง

ประเพณีการฉลองวันขอบคุณพระเจ้าของคนอเมริกัน ในยุคปัจจุบัน มีที่มาจากการฉลอง
วันขอบคุณพระเจ้าครั้งแรกดังกล่าว ดังนั้นอาหารหลักบนโต๊ะอาหารในวันนี้ซึ่งถือเป็นอาหาร
ประจำเทศกาลขอบคุณพระเจ้า จะมี ไก่งวงอบยัดไส้ (Roasted turkey with stuffing)
ผลสควอช ขนมปังข้าวโพด (Corn bread) และซอสแครนเบอร์รี่ (Cranberry sauce)
พายฟักทอง (Pumpkin pie) เช่นเดียวกับอาหารที่หาและเก็บเกี่ยวได้ ในยุคสมัยนั้น

ทุก ๆ ปีชาวอเมริกันประมาณห้าแสนคน จะเดินทางไปเยี่ยมชมเมืองพลีมัธ
ซึ่งกลายเป็นเมืองนำสมัยที่ยกย่องเทิดทูนอดีตกาล
ยุคแรกเริ่มของชาวอเมริกันที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมเรือเมย์ฟลาวเวอร์สองได้
ซึ่งเป็นเรือที่สร้างเลียนแบบเรือเมย์ฟลาวเวอร์จริง
เยี่ยมชมหินพลีมัธ และใช้เวลาเดินชมหมู่บ้านจำลองของพวกพิลกริมในสมัยแรกเริ่ม
ซึ่งจะได้เห็นการดำเนินชีวิตจริง ในยุคนั้น
ชาวอเมริกันรุ่นใหม่ รู้สึกภาคภูมิใจและทนงในบรรพบุรุษ
ที่มีความกล้าหาญของพวกเขาเหล่านี้
ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยมาก
ถ้าเทียบกับมาตรฐานการ ดำเนินชีวิตในปัจจุบัน
แต่พวกเขายังรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่ได้รับอันมีคุณค่าอย่างยิ่ง
หาใดมาเปรียบได้นั่นก็คือการเก็บเกี่ยวพืชผลที่ดี
เสรีภาพในการดำเนินชีวิตและสักการะบูชาตามความเชื่อ
และปรารถนาของพวกเขาเอง

Tags: ,

 

 

THANKS  a lot......Krootew

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 29 พ.ย. 2552

ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด ในราคา ฿368 - ฿999 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6


ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับThanksgiving Day ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับThanksgivingDay

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

รัก..... ต้อง...อย่า !!!! ? ? ? ?

รัก..... ต้อง...อย่า !!!! ? ? ? ?


เปิดอ่าน 7,159 ครั้ง
มือถือ..กับมะเร็งสมอง

มือถือ..กับมะเร็งสมอง


เปิดอ่าน 7,172 ครั้ง
นิทานเวตาล.... เรื่องที่ 17

นิทานเวตาล.... เรื่องที่ 17


เปิดอ่าน 7,179 ครั้ง
ทำงานให้สมกับเงินเดือน

ทำงานให้สมกับเงินเดือน


เปิดอ่าน 7,436 ครั้ง
คาถาบูชากรมหลวงชุมพร

คาถาบูชากรมหลวงชุมพร


เปิดอ่าน 7,726 ครั้ง
ไข่มุกดำ...รสชาติแสนโอชา

ไข่มุกดำ...รสชาติแสนโอชา


เปิดอ่าน 7,158 ครั้ง
ความทรงจำสีจาง

ความทรงจำสีจาง


เปิดอ่าน 7,166 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

กินอาหารทะเล บำรุงสมอง

กินอาหารทะเล บำรุงสมอง

เปิดอ่าน 7,169 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
โกสน...ไม้แห่งบุญบารมี
โกสน...ไม้แห่งบุญบารมี
เปิดอ่าน 7,167 ☕ คลิกอ่านเลย

เบาสมอง...ไทยมี Wireless ใช้ตั้งแต่ 300 ปี ที่แล้ว
เบาสมอง...ไทยมี Wireless ใช้ตั้งแต่ 300 ปี ที่แล้ว
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย

ไฝ...ใครคิดว่าไม่สำคัญ
ไฝ...ใครคิดว่าไม่สำคัญ
เปิดอ่าน 7,170 ☕ คลิกอ่านเลย

  ขำ ขำ  ขำ  กับพระมหาสมปอง
ขำ ขำ ขำ กับพระมหาสมปอง
เปิดอ่าน 7,159 ☕ คลิกอ่านเลย

?ออสการ์? น้องหมาท่องโลก
?ออสการ์? น้องหมาท่องโลก
เปิดอ่าน 7,201 ☕ คลิกอ่านเลย

ผู้ชายมีภรรยา4คน..ใครรักเขาที่สุด
ผู้ชายมีภรรยา4คน..ใครรักเขาที่สุด
เปิดอ่าน 7,161 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู
คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู
เปิดอ่าน 90,528 ครั้ง

การย้ายพนักงานงานราชการ
การย้ายพนักงานงานราชการ
เปิดอ่าน 18,954 ครั้ง

หลักในการออกแบบสวน
หลักในการออกแบบสวน
เปิดอ่าน 13,917 ครั้ง

ส่อง 5 อาชีพมาแรงในยุคดิจิทัล ที่น่าสนใจ และรายได้ดี
ส่อง 5 อาชีพมาแรงในยุคดิจิทัล ที่น่าสนใจ และรายได้ดี
เปิดอ่าน 919 ครั้ง

ทาน "งา" ประจำ ทำลายความแก่!
ทาน "งา" ประจำ ทำลายความแก่!
เปิดอ่าน 13,953 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ