เตือนภัย : อย่าทิ้งน้ำแข็งแห้งไว้บนรถ
วันนี้มีเรื่องเตือนภัยมาฝากค่ะ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คุณ อาจจะคาดไม่ถึง และถ้าไม่ระมัดระวังล่ะก็ภัยร้ายนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว!!!
|
ภัยร้ายที่จะพูดถึงนั้นก็คือ ภัยจาก "น้ำแข็งแห้ง" ค่ะ ... คุณพอจะนึกภาพของน้ำแข็งแห้งออกไหมคะ น้ำแข็งที่เค้ามักจะให้แพ็กมากับไอศครีมเวลาที่เราสั่งไอศครีมกลับบ้าน มีลักษณะคล้ายกับน้ำแข็งทั่วไปแต่มีสีขุ่นมากกว่า ทราบไหมคะว่าถ้าเรานำน้ำแข็งแห้งมาใส่ทิ้งไว้ในรถเป็นเวลานาน (แค่ครึ่งชั่วโมง) ก็จะสามารถทำให้คนที่อยู่บนรถเสียชีวิตได้
เคยมีกรณีศึกษาเกี่ยวกับอันตรายจากน้ำแข็งแห้งมาแล้ว โดยมีครอบครัวหนึ่ง (พ่อ แม่ และลูกวัย 5 เดือน) ซื้อไอศครีมจากห้างสรรพสินค้าเพื่อกลับมากินที่บ้าน และในการนำไอศครีมกลับบ้านนั้นทางร้านได้ใช้วิธีการแพ็กไอศครีมใส่กล่องโฟมและใส่น้ำแข็งแห้งลงไปบริเวณด้านข้างกล่องโฟมเพื่อให้ความเย็นซึ่งจะช่วยให้ไอศครีมละลายช้าลง ซึ่งวิธีการแพ็กแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับการซื้อไอศครีมกลับไปกินที่บ้าน
|
แต่ความผิดปกติก็เริ่มเกิดขึ้น เมื่อมีความจำเป็นต้องแวะซื้อของระหว่างทาง โดยผู้เป็นแม่เป็นคนลงไปซื้อของ ส่วนพ่อและลูกวัย 5 เดือนรออยู่ที่รถ เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง แม่กลับมาที่รถและเริ่มสังเกตเห็นว่าสามีและลูกมีอาการหอบเหนื่อย แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร เมื่อขับรถไปได้ซักพัก ลูกก็ร้องไห้ขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ แม่คิดว่าลูกหิวนมจึงเอานมให้ลูกกิน แต่ลูกก็ไม่กินและยังร้องไห้พร้อมกันนี้ยังมีอาการเหนื่อยหอบมากกว่าเดิมบวกกับสามีของเธอก็เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ซึ่งถึงตอนนั้นเธอเองก็เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบบ้างแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นท่าไม่ดีเธอและสามีจึงจอดรถและรีบหาที่มาของอาการดังกล่าว ซึ่งตอนแรกนั้นก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่พอลองวิเคราะห์ถึงของแปลกปลอมที่อยู่บนรถก็ทำให้เธอนึกถึงน้ำแข็งแห้งขึ้นมา ปรากฏว่าต้นตอของอาการเหนื่อยหอบที่เกิดขึ้นกับสามีและลูกนั้นมาจากน้ำแข็งแห้งที่แพ็กมากับกล่องไอศครีมนั่นเอง
เพราะน้ำแข็งแห้งที่แพ็กมากับกล่องไอศครีมนั้น เมื่อระเหยออกมาแล้วก็มีสถานะเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ เมื่อปิดรถปิดหน้าต่างเปิดแอร์ ทำให้ออกซิเจนในรถน้อยลง อากาศไม่ไหลเวียน ทำให้ผู้ที่อยู่ในรถหายใจไม่สะดวกและเกิดอาการเหนื่อยหอบนั้นเอง
ยังถือว่าครอบครัวนี้โชคดีที่หาสาเหตุได้ทันทำให้ไม่เกิดอันตรายถึงชีวิต ถ้าหากหาสาเหตุไม่เจอล่ะก็อาจจะมีการสูญเสียเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ก็ได้ ...
ขอขอบคุณ : ข้อมูลจาก เด็กดีดอทคอม