ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

Home school ไม่เหมือน School อย่างไร ?


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,171 ครั้ง
Advertisement

Home school ไม่เหมือน School อย่างไร ?

Advertisement

Home school โรงเรียนที่บ้านของหนู

 


การศึกษาในยุคปัจจุบัน ไม่ได้มุ่งให้เด็กจดจำตามคำครูสอนอีกแล้ว
แหล่งเรียนรู้ไม่ได้จำเพาะเจาะจงต้องเป็นโรงเรียนอีกต่อไป
และพ่อแม่ก็สามารถเป็นครู
ได้

 

โดยวิถีธรรมชาติ พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูกมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อลืมตาขึ้นมาดูโลก พ่อแม่นี่เองที่เป็นครูสอนการดำรงชีวิตอย่างมนุษย์ เป็นผู้สอนให้เรียนรู้ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ แต่เมื่อยุคหนึ่ง ยุคที่การศึกษาเข้ามามีบทบาทกับชีวิต โรงเรียนได้รับหน้าที่อบรมสั่งสอนพ่อแม่ทำหน้าที่น้อยลง แล้วฝากความหวังทั้งหมดไว้กับโรงเรียนทั้งที่โรงเรียนก็มิอาจทำหน้าที่นั้นได้ทั้งหมด ทั้งยับพบว่าพ่อแม่ก็สามารถจัดการเรียนรู้ให้กับลูกไม่แพ้ครูที่โรงเรียน

 

Home school จึงเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับพ่อแม่ได้มีสิทธิ์ในการจัดการศึกษาให้ลูกด้วยตนเอง และได้รับการยอมรับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง Home school เป็นการจัดการศึกษาที่นิยมมากในตะวันตก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นและแพร่ขยายไปยังประเทศอื่นๆ มีรานงานว่าปัจจุบันนี้ มีเด็กทั่วโลกที่เรียนอยู่กับบ้าน เกือบสามล้านคน โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกามีไม่น้อยกว่า หนึ่งล้านคน และในอนาคตข้างหน้าสหรัฐอเมริกา อาจจะมีเด็กเรียนอยู่กับบ้าน หกล้านคน

 

เป็นเรื่องน่าสงสัยนะคะ ว่าทำไม Home school จึงได้รับความนิยมมากนัก สำหรับต่างประเทศนั้นมีการวิจัยพบว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่ที่เลือกการเรียนแบบ Home school ให้ลูก เพราะมองเห็นว่าโรงเรียนไม่สามารถตอบสนอง ความต้องการการเรียนรู้ของเด็กได้อีกต่อไปแล้ว ทั้งปัญหาทางสังคมมากมายก็ทำให้เด็กๆ ต้องเสี่ยงกับอาชญากรรมและภัยต่างๆ Home school จึงเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้พ่อกับแม่ใกล้ชิดกับลูกมากขึ้น ทั้งยังมีโอกาสเลือกเนื้อหาในหลักสูตรและสอนให้เหมาะกับลูก เพราะเด็กแต่ละคนย่อมมีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ต่างกัน และการที่ไม่มีการเปิดเทอม ปิดเทอมก็ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องและรักการเรียนรู้อยู่เสมอ เพราะในชีวิตจริงนั้นไม่ได้มีเพียงเรื่องราวในห้องเรียนหรือเนื้อหาในหนังสือเท่านั้น การได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่พ่อแม่จัดให้จึงเป็นประโยชน์กับเด็กมาก

 


  • Home school ไม่เหมือน School อย่างไร

     

 

แม้ว่า Home school กับการเรียนในโรงเรียนจะมุ่งหวังให้เด็กได้พัฒนาตนเองและมีวิชาความรู้เหมือนกัน ต่างกันก็ตรงที่โรงเรียนมุ่งสร้างเด็กให้เป็นผู้รู้ ในขณะที่ Home school มุ่งให้ใฝ่รู้ ครูในโรงเรียนมีหน้าที่เป็นผู้ให้เด็กมีหน้าที่รับ แต่ Home school กลับเน้นให้เด็กหาความรู้ด้วยตนเอง แม้กระทั่งสื่อการเรียนต่างๆ ที่โรงเรียนเน้นหนังสือและการเรียนในห้องเรียน ส่วน Home school เน้นการเรียนที่มาจากชีวิตจริง

 


  • การเรียนนอกหลักสูตร ไม่ใช่นอกกฎหมาย

 

สำหรับประเทศไทยนั้น การจัดการเรียนรู้แบบ Home school เพิ่งเป็นไปในระยะเริ่มต้น แต่ก็มีมาตรการรองรับการเรียน Home school ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2542 ระบุมาตราที่ครอบครัวสามารถจัดการเรียนรู้ได้ ซึ่งพ่อแม่ก็มีสิทธิประโยชน์ในการจัดการศึกษาให้เด็กด้วย เช่น ให้จัดตั้งศูนย์การเรียนโดยเอกชนได้ ให้ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน และสถาบันอื่นมีสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่จะต้องเป็นไปตามกฎของกระทรวง นอกจากนี้ พ่อแม่ยังสามารถได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ในด้านการให้ผู้ปกครองมีความรู้ ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดู และให้การศึกษากับบุตรที่อยู่ในความดูแล ทั้งยังได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐในด้านการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายกำหนด และศูนย์การเรียนก็สามารถกล่าวความได้ถึงหน่วยงานที่จัดการศึกษานอกโรงเรียน บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กร สถานบันทางศาสนา โรงพยาบาล หรือสถาบันอื่นๆ

 

แต่อย่างไรก็ตามก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปอีกว่า มาตรการในทางปฏิบัติทั้งด้านการจดทะเบียนศูนย์การเรียนในบ้าน มาตรการการสนับสนุนทางวิชาการแก่พ่อแม่ การติดตาม ตรวจสอบมาตรฐานการศึกษา Home school จะเป็นไปอย่างราบรื่นเพียงใด

 


  • บ้านเล็กๆ ที่มีความรู้

 

แม้บ้านจะเป็นเพียงที่เล็กๆ ไม่มีคนเยอะแยะเหมือนในโรงเรียน แต่บ้านก็สามารถเป็นที่จัดการเรียนรู้ให้กับเด็กได้ หากคุณพ่อคุณแม่จัดหลักสูตรได้อย่างดี แล้วจะพบว่า Home school นั้นจะมีหลักสูตรไร้พรมแดนทีเดียว เพราะลูกจะได้สัมผัสกับชีวิตจริง ตารางกิจกรรมต่างๆ สามารถยืดหยุ่นตามเด็กได้ ซึ่งในวันหนึ่งๆ เนื้อหาที่ลูกเรียนอาจครอบคลุม ทั้งธรรมชาติวิทยา ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ พลศึกษา สังคมศึกษา ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ หรือ คณิตศาสตร์ ด้วย

 

นอกจากนี้การเรียนที่แบ่งเป็นช่วงเวลายังทำให้เด็กได้เป็นอิสระ ไม่ได้มีการระบุเวลาเป็นคาบเหมือนในห้องเรียน ในขณะที่ยังมีแผนการสอนเหมือนกับในโรงเรียน

 


  • เปิดห้องเรียนในบ้าน พ่อแม่ต้องตั้งใจจริง

 

ก่อนที่จะเริ่มต้นสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น ประการสำคัญก็คือ การเข้าใจถึงหัวใจของสิ่งนั้นก่อน Home school เป็นการสอนในบ้าน คุณพ่อคุณแม่ทำหน้าที่หนักมาก คือต้องมีแผนว่าจะสอนอะไรลูก เพื่อให้ลูกได้รับประโยชน์จริงๆ และไม่จำเป็นต้องสอนแต่ในบ้านหรอกนะคะ การพาออกไปเรียนข้างนอก ไปเจอสังคม เรียนรู้ร่วมกับเด็กอื่นๆ ในโรงเรียนได้รวมไปถึง พ่อแม่ก็ไม่ได้ต้องสอนทุกวิชา อาจจ้างครูที่ถนัดวิชานั้นๆ มาสอนก็ได้ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนแบบ Home school เหมือนกันค่ะ

 

คุณพ่อคุณแม่ จะต้องเข้าใจว่า เนื้อหาที่ใช้ในการเรียนการสอนนั้น อาจไม่ต้องเป็นสาระหนักๆ อย่างที่เรียนในโรงเรียนก็ได้ การเรียนจากชีวิตประจำวันก็เป็นการเรียนอย่างหนึ่งเหมือนกัน เช่น พาไปฟังเพลง เยี่ยมญาติๆ ออกกำลังกาย เขียนไดอารี่ ทำงานบ้าน หรือ ไปเที่ยว ก็เป็นการเรียนรู้ที่จะช่วยพัฒนาให้เด็กเป็นคนที่รักการเรียนรู้ตลอดชีวิต

 

การจัดการเรียนรู้แบบ Home school คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องทุ่มเทและเอาจริงเอาจังมากทีเดียว เพื่อให้ลูกได้รับความรู้และประสบการณ์พร้อม แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อาจนำแนวคิดของ Home school ไปใช้กับลูกโดยไม่จำเป็นจะต้องให้ลูกลาออกจากโรงเรียนมาเรียนแบบ Home school ก็ได้นะคะ คุณพ่อคุณแม่เพียงแค่นำมาประยุกต์ใช้กับลูกๆ บ้างก็จะเป็นการส่งเสริมพัฒนาการให้กับลูกน้อยได้มากแล้วค่ะ

 


(update 10 มีนาคม 2005)
[ ที่มา... นิตยสารบันทึกคุณแม่ ปีที่ 11 สิงหาคม 2547 ]

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 27 พ.ย. 2552

🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) ในราคา ฿129 คลิกเลย👇👇

https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6


Home school ไม่เหมือน School อย่างไร ?Homeschoolไม่เหมือนSchoolอย่างไร?

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เพลงเพื่อนพึ่งพายามยาก

เพลงเพื่อนพึ่งพายามยาก


เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง
มื้อเด็ดดับเครียด

มื้อเด็ดดับเครียด


เปิดอ่าน 7,164 ครั้ง
ข้าวโพดต้มสุก ต้านมะเร็ง

ข้าวโพดต้มสุก ต้านมะเร็ง


เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง
การปลูกพืชไร้ดิน

การปลูกพืชไร้ดิน


เปิดอ่าน 7,571 ครั้ง
พฤติกรรมที่ไม่ควรทำ!!

พฤติกรรมที่ไม่ควรทำ!!


เปิดอ่าน 7,160 ครั้ง
ลำนำกลอน............ป้อนด้วยเพลง

ลำนำกลอน............ป้อนด้วยเพลง


เปิดอ่าน 7,168 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

จากใจพ่อ

จากใจพ่อ

เปิดอ่าน 7,168 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
วิจัยพัฒนาการเรียนการสอน
วิจัยพัฒนาการเรียนการสอน
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย

ปฏิวัติสุขภาพสู่การเป็น "คนใหม่"
ปฏิวัติสุขภาพสู่การเป็น "คนใหม่"
เปิดอ่าน 7,157 ☕ คลิกอ่านเลย

Creative Park   รวมแนวการสร้างสื่อการสอนอย่างเรียบง่าย
Creative Park รวมแนวการสร้างสื่อการสอนอย่างเรียบง่าย
เปิดอ่าน 7,173 ☕ คลิกอ่านเลย

เดือนนี้ที่คิดถึงแม่....,มากมาย
เดือนนี้ที่คิดถึงแม่....,มากมาย
เปิดอ่าน 7,159 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลงานชำนาญการพิเศษครูเริง
ผลงานชำนาญการพิเศษครูเริง
เปิดอ่าน 7,167 ☕ คลิกอ่านเลย

อย่ากลัวเงา
อย่ากลัวเงา
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

หนอนคืบ
หนอนคืบ
เปิดอ่าน 13,429 ครั้ง

7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
เปิดอ่าน 12,183 ครั้ง

Meritocracy กับการศึกษาสิงคโปร์  มูลค่าของความสามารถ
Meritocracy กับการศึกษาสิงคโปร์ มูลค่าของความสามารถ
เปิดอ่าน 10,263 ครั้ง

วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
เปิดอ่าน 11,068 ครั้ง

ดาวน์โหลดที่นี่ แบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 เริ่มใช้ภาคเรียนที่ 1/2559
ดาวน์โหลดที่นี่ แบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 เริ่มใช้ภาคเรียนที่ 1/2559
เปิดอ่าน 163,678 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ