ขุมทรัพย์ในไร่องุ่น (สมบัติที่ซ่อนเร้นไว้ให้)
ธรรมะชี้นำใจ > นิทานอีสป
นานมาแล้ว...ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีพ่อผู้ที่ขยันขันแข็งทำงาน เป็นอย่างมากอยู่ผู้หนึ่ง อาศัยอยู่กับพวกลูกชาย ที่แสนที่จะขี้เกียจเป็นอย่างมาก ของเขา ผู้เป็นพ่อจะตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ และก็จะลงมือทำไร่ซึ่งก็เป็นไร่องุ่นเพื่อนำมาทำ เหล้าไวน์ จนถึงเวลาค่ำมืดอยู่เป็นประจำ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ลูกชายคนโตสุดของเขาก็ชอบแต่ที่จะ กินอย่างเดียวเพราะเป็นคนที่ตะกละ, ลูกชาย คนที่สองก็เป็นคนที่ออกจะขี้เกียจวัน ๆ จะเอาแต่นอนโดยไม่คิดที่จะช่วยทำอะไรเลย สักอย่าง... ส่วนลูกชายคนที่สามก็เป็น คนที่ชอบที่จะเที่ยวเล่นเป็นอย่างมาก
A long time ago, in a certain village , there was a hard working father and his idle sons. Father cultivated the field from the morning to the evening, and was making wine . However , the first son always ate because of the glutton , the second son always went to sleep because of the idler, and, the third son was always playing.
ลูกชายคนที่สี่ก็เช่นกัน เป็นพวกขี้เมาจะชอบแอบดื่มเหล้าไวน์ที่พ่อของเขาผลิต ขึ้นนั้นอยู่เป็นประจำ ผู้เป็นพ่อต้องได้รับแต่ความเสียใจเป็นอันมาก " ทำไมพวกเจ้าถึงได้ขี้เกียจไม่ชอบ ทำงานกันอย่างนี้เล่า?? ตอนนี้ที่ไร่องุ่นของพวกเรานั้นกำลังเหี่ยวเฉาและโรยรา แม้แต่ ผลองุ่นสักผลเล็กๆ ก็ไม่มีออกมาให้เห็นอยู่อย่างเช่นนี้แล้ว ทำไมพวกเจ้าจึงได้นิ่งดูดาย เปลี่ยนหัวใจหันกลับมาขยันทำงานกันสักทีสิ! " แต่ว่าไม่ว่าพ่อของพวกเขาจะพูดตักเตือนขอร้อง ดุด่าว่าอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิมไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลง
The fourth son always drank the wine which father made, and was drunken. Father felt sad very much."Why do you dislike working? The vineyard which I left to you is ruined completely , and do not bear a piece of grape . It is completely miserable. Reform yourself and work hard." But they did not start working at all.
แล้ววันหนึ่งในที่สุด...ผู้เป็นพ่อซึ่งแก่ชรามากแล้วของพวกเขาก็เกิดล้มป่วยลง เจ็บคราวนี้แกรู้ตัวว่า กำลังใกล้จะตายเต็มทีแน่แล้ว และก่อนที่ แกใกล้จะหมดลมหายใจ แกก็ยังห่วงลูก ๆจอม ขี้เกียจทั้งสี่ของแก เป็นอย่างมากและได้เรียกเข้ามาสั่งเสีย ที่ข้างเตียงนอนว่า " พ่อคงอยู่ ต่อไปได้อีกไม่นาน เพราะฉะนั้นพ่อจะบอกสิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับที่ซ่อน สมบัติมหาศาลกับพวกเจ้า " " สมบัติอะไรหรือพ่อ??"
One day at last, the father was sick and fallen . Father's illness was worsened further. Father called four sons together into bedside and said them. "I can't live any longer. Therefore I tell you the important thing. It is about our treasure ." "What? The treasure?"
ลูกชายทั้งสี่ทั้งตกใจและแปลกใจ...จึงได้ถามซ้ำอีกครั้งว่า "บ้านเรา มีสมบัติซ่อนไว้ด้วยหรือพ่อ??" " ใช่แล้ว..มันเป็นสมบัติของพวกเจ้า พ่อได้แอบซ่อนเพชร,ทองและเงินเอาไว้ที่ใน ไร่องุ่น..โอ้! แต่ตอนนี้พ่อช่าง ทุกข์ทรมานเหลือเกิน..." " พ่อ!!อย่าเพิ่งตายสิ ไหนกรุณารีบ ๆ บอกพวกเรา เร็ว ๆด้วยว่าพ่อซ่อนสมบัติพวกนั้นไว้ในที่จุดไหน ของไร่องุ่นล่ะ..พ่อ" แต่พ่อ ด้วยหมดกำลังลงเสียแล้ว และได้ขาดใจตายไป เสียแต่ตอนนั้น " พ่อ โธ่ พ่อ... อย่าเพิ่งจากพวกเราไปเลย..ฮื่อๆๆๆ"
Four sons are surprised and ask again. "Is it the treasure of us?" "Yes, I have hidden a lot of diamonds , golds and silvers in a vineyard ..... Ah! I'm painful ." "Father, please say which point of vineyard you've hidden for it." But the father had died powerlessly . "Father, don't go away."
นิทานอีสป นานมาแล้ว...ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีพ่อผู้ที่ขยันขันแข็งทำงาน เป็นอย่างมากอยู่ผู้หนึ่ง อาศัยอยู่กับพวกลูกชาย ที่แสนที่จะขี้เกียจเป็นอย่างมาก ของเขา ผู้เป็นพ่อจะตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ และก็จะลงมือทำไร่ซึ่งก็เป็นไร่องุ่นเพื่อนำมาทำ เหล้าไวน์ จนถึงเวลาค่ำมืดอยู่เป็นประจำ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ลูกชายคนโตสุดของเขาก็ชอบแต่ที่จะ กินอย่างเดียวเพราะเป็นคนที่ตะกละ, ลูกชาย คนที่สองก็เป็นคนที่ออกจะขี้เกียจวัน ๆ จะเอาแต่นอนโดยไม่คิดที่จะช่วยทำอะไรเลย สักอย่าง... ส่วนลูกชายคนที่สามก็เป็น คนที่ชอบที่จะเที่ยวเล่นเป็นอย่างมาก
A long time ago, in a certain village , there was a hard working father and his idle sons. Father cultivated the field from the morning to the evening, and was making wine . However , the first son always ate because of the glutton , the second son always went to sleep because of the idler, and, the third son was always playing.
ลูกชายคนที่สี่ก็เช่นกัน เป็นพวกขี้เมาจะชอบแอบดื่มเหล้าไวน์ที่พ่อของเขาผลิต ขึ้นนั้นอยู่เป็นประจำ ผู้เป็นพ่อต้องได้รับแต่ความเสียใจเป็นอันมาก " ทำไมพวกเจ้าถึงได้ขี้เกียจไม่ชอบ ทำงานกันอย่างนี้เล่า?? ตอนนี้ที่ไร่องุ่นของพวกเรานั้นกำลังเหี่ยวเฉาและโรยรา แม้แต่ ผลองุ่นสักผลเล็กๆ ก็ไม่มีออกมาให้เห็นอยู่อย่างเช่นนี้แล้ว ทำไมพวกเจ้าจึงได้นิ่งดูดาย เปลี่ยนหัวใจหันกลับมาขยันทำงานกันสักทีสิ! " แต่ว่าไม่ว่าพ่อของพวกเขาจะพูดตักเตือนขอร้อง ดุด่าว่าอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิมไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลง
The fourth son always drank the wine which father made, and was drunken. Father felt sad very much."Why do you dislike working? The vineyard which I left to you is ruined completely , and do not bear a piece of grape . It is completely miserable. Reform yourself and work hard." But they did not start working at all.
แล้ววันหนึ่งในที่สุด...ผู้เป็นพ่อซึ่งแก่ชรามากแล้วของพวกเขาก็เกิดล้มป่วยลง เจ็บคราวนี้แกรู้ตัวว่า กำลังใกล้จะตายเต็มทีแน่แล้ว และก่อนที่ แกใกล้จะหมดลมหายใจ แกก็ยังห่วงลูก ๆจอม ขี้เกียจทั้งสี่ของแก เป็นอย่างมากและได้เรียกเข้ามาสั่งเสีย ที่ข้างเตียงนอนว่า " พ่อคงอยู่ ต่อไปได้อีกไม่นาน เพราะฉะนั้นพ่อจะบอกสิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับที่ซ่อน สมบัติมหาศาลกับพวกเจ้า " " สมบัติอะไรหรือพ่อ??"
One day at last, the father was sick and fallen . Father's illness was worsened further. Father called four sons together into bedside and said them. "I can't live any longer. Therefore I tell you the important thing. It is about our treasure ." "What? The treasure?"
ลูกชายทั้งสี่ทั้งตกใจและแปลกใจ...จึงได้ถามซ้ำอีกครั้งว่า "บ้านเรา มีสมบัติซ่อนไว้ด้วยหรือพ่อ??" " ใช่แล้ว..มันเป็นสมบัติของพวกเจ้า พ่อได้แอบซ่อนเพชร,ทองและเงินเอาไว้ที่ใน ไร่องุ่น..โอ้! แต่ตอนนี้พ่อช่าง ทุกข์ทรมานเหลือเกิน..." " พ่อ!!อย่าเพิ่งตายสิ ไหนกรุณารีบ ๆ บอกพวกเรา เร็ว ๆด้วยว่าพ่อซ่อนสมบัติพวกนั้นไว้ในที่จุดไหน ของไร่องุ่นล่ะ..พ่อ" แต่พ่อ ด้วยหมดกำลังลงเสียแล้ว และได้ขาดใจตายไป เสียแต่ตอนนั้น " พ่อ โธ่ พ่อ... อย่าเพิ่งจากพวกเราไปเลย..ฮื่อๆๆๆ"
Four sons are surprised and ask again. "Is it the treasure of us?" "Yes, I have hidden a lot of diamonds , golds and silvers in a vineyard ..... Ah! I'm painful ." "Father, please say which point of vineyard you've hidden for it." But the father had died powerlessly . "Father, don't go away."
" อ้า...พ่อได้ตายลงไปเสียแล้วโดยไม่ทันได้บอกพวกเราถึงที่ซ่อน สมบัติเสียด้วย..มันเป็นสิ่งที่ช่วยอะไรไม่ได้ ดังนั้นพวกเราต้อง ไปที่ไร่องุ่นแล้ว ขุดพลิกแผ่นดินหาเอาเอง..." เมื่องานศพของพ่อได้ผ่านไปแล้ว...ลูกชายทั้ง 4 ก็ลงมือ และตั้งหน้าตั้งตาขุดดินในไร่องุ่นเพื่อหาสมบัติตามที่พ่อได้บอกไว้ก่อนตาย ในทุก ๆ วัน " ว๊อย..วันนี้ก็ไม่พบสมบัติอีกตามเคย!" ทั้งสี่ตั้งหน้าตั้งตาขุดและขุด อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อหาสมบัติจนเกือบจะทั่วทุกหนทุกแห่งที่มีในไร่องุ่น นั้นเลยทีเดียว
"Ah, he had died, without saying the hiding place of a treasure. It is Unavoidable . We're going to dig a vineyard and look for it. " After father's funeral was finished, sons dug up soon and looked for the treasure."Shit! I couldn't find it today too." Four sons respectively dug up their vineyard every day repeatedly .
เมื่อเวลาผ่านไป... ผืนแผ่นดินในไร่องุ่นที่พวกเข้าตั้งหน้าตั้งตาขุดเพื่อหาสมบัตินั้น ก็เปรียบเสมือนกับได้โดนขุดไถและพรวนดินเป็นอย่างดี ดังนั้นต้นองุ่น ที่มีอยู่มากมายในไร่ ก็บรรดาลให้ออกดอกออกผลออกมาให้กับพวกเขา อย่างมากมาย ...ลูกชายทั้งสี่จึงหันมาผลิตเหล้าไวน์ขายตามพ่อของเขา และได้กลับ กลายเป็นผู้ที่ร่ำรวยขึ้นมาหลังจากนั้น...และพวกเขาก็เพิ่งจะมารู้ดีเอาตอนนี้ แล้วแหละว่า " สมบัติที่พ่อ พูดถึงนั้น มันมิได้หมายถึงสมบัติที่มีจริง ๆ หากแต่มันหมายถึง ความสามัคคี,ความขยันขันแข็งเอาหยาดเหงื่อแรงงานเข้าแรก ในผืนแผ่นดินที่พ่อ ของพวกเขาได้เหลือทิ้งเอาไว้ให้เป็นสมบัติที่จะทำให้มีกินมีใช้ไม่มีวันหมด มากกว่านั่นเอง "
After some, the vineyard which everybody dug up was cultivated well and many splendid grapes fruited. Sons made a large profit by making and selling wine at the grape. The sons who became a rich man promised each other, "The treasure left behind by the father is this. From now on, we will pull together and work hard."
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....
ถ้าเราขยันตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เป็นอย่างดีแล้วละก็ สิ่งที่จะได้มาก็คือความสุข,ความสมหวัง...
Happiness is acquired by working hard.
ขอบคุณเพลงจากwww.naronk.org/uboard/listen.php?id=T3545&so=อยากให้เธอรู้