บอก... รักพ่อ ทำไมต้องเดี๋ยว?
วันพ่อแห่งชาติ วันพ่อ 5 ธันวาคม มาถึงแล้ว วันนี้เรามีบทความวันพ่อมาฝากค่ะ ซึ่งวันนี้ เป็นเรื่อง บอก...รักพ่อ ทำไมต้องเดี๋ยว? อยากรู้ว่าวิธีบอกรักพ่อมีแบบไหนบ้างต้องดูที่นี่
"วันพ่อ" หลายคนที่หลงใหลใฝ่ฝันไปตามกระแสทุนนิยม คิดไกลไปถึงของขวัญชิ้นใหญ่ หรือไม่ก็ใบหุ้นชั้นดี ที่จะมีให้เป็นของขวัญกับพ่อบังเกิดเกล้า ขณะที่ของขวัญล้ำค่าที่คนเป็นพ่อส่วนใหญ่ต้องการ ไม่ได้มีอะไรมากมาย ขอแค่ได้ยินคำว่า "รักพ่อ" คำสั้นๆ แต่ดูเหมือนจะกลั่นออกมาจากปากของบรรดาลูกๆ ยากเย็นเหลือเกิน !
การบอกรักพ่อในอดีต
ในเมืองไทย วันพ่อแห่งชาติ จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษาเป็นผู้ริเริ่ม ด้วยเหตุผลว่า "พ่อ" เป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ และครั้งนั้นได้ยึดถือเอาวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็น "วันพ่อแห่งชาติ"
วันพ่อในยุคแรกๆ นั้น การแสดงออกความรักของลูกต่อพ่อยังเป็นไปในทางเคารพเทิดทูน มอบของขวัญ หรืออยู่ใกล้ชิดกันพร้อมหน้าครอบครัว หรือไม่ก็เขียนคำว่า รัก ผ่านทางบัตรอวยพรบอกความในใจ
ส่วนการ "บอกรักพ่อ" ด้วยปาก...ว่ากันว่าเป็นเรื่องทำได้ยาก เพราะตามธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติที่ยึดถือต่อๆ กันมา พ่อกับลูกในสังคมไทยห่างไกลกันพอควร
กิติกร มีทรัพย์ นักจิตวิทยา วิเคราะห์ภาพของพ่อในอดีตให้ฟังว่า "ถ้าจะย้อนไปดูอดีตแล้ว สมัยโบราณ ลูกไม่กล้าที่จะแสดงความรักกับพ่อ ทั้งวาจาและท่าที ทำให้ดูไม่ออก เดายาก แต่ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าโบราณ คนเป็นพ่ออาจจะมีหลายบ้าน จึงไม่กล้าแสดงความรักมาก ซึ่งการบอกรักพ่อแม่ นี่ไม่ใช่วัฒนธรรมไทย คนไทยจะใช้การแสดงความรักด้วยวิธีอื่น อย่างเช่นการไม่ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนมากกว่า"
...แต่ในยุคหลังๆ ครอบครัวไทยมีลักษณะเป็นสังคมพ่อเดียวแม่เดียว ท่าทีของลูกกับพ่อจึงเริ่มเปิดเผยและใกล้ชิดกันมากขึ้น !
อยากบอกรักแต่ยังไม่กล้า
การพูดคำว่า "รักพ่อ หรือรักแม่" นี้ กิติกรมองว่า เป็นวัฒนธรรมฝรั่งที่คนรุ่นใหม่เริ่มซึมซับมาได้พักใหญ่ เพราะถือได้ว่าสื่อรักที่ตรงไปตรงมาและประหยัดเงินตราที่สุด
"เท่าที่ดูทั่วๆ ไป ผมว่าพ่อยุคนี้ต้องการให้ลูกแสดงความรักโดยการเชื่อฟังพ่อแม่ อยู่ในกติกามากกว่า แต่การบอกรักพ่อนั้นก็เป็นเรื่องดี เป็นการแสดงออกที่ตรงไปตรงมา ไม่ต้องถอดรหัสเยอะ เพราะทุกวันนี้พ่อแม่กับลูกมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่มาก การได้พูดอะไร อาจทำให้รู้เรื่องเร็วขึ้น ซึ่งนี่ถือได้ว่า เป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองไทย"
กิติกรยังบอกอีกว่า "จริงๆ ที่คนบอกรักพ่อแม่ยาก ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักพ่อรักแม่ แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่างหาก.. ." เฉพาะอย่างยิ่ง "ลูกชาย" ร้อยทั้งร้อยจะเขินอายอย่างสุดๆ
จอม เชี่ยวสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและดีไซน์ บริษัท เอเชี่ยนโมทีฟ กล่าวว่า "การบอกรักพ่อเป็นเรื่องที่พูดกันยากครับ พ่อสมัยนี้เครียดเรื่องงานกันมาก ไม่ค่อยมีเวลาได้เจอลูก เวลาหายไปเยอะ ยิ่งพอส่งลูกไปเรียนเมืองนอก พ่อก็ยิ่งห่างกับลูกไปอีก สำหรับตัวเอง บอกรักพ่อไม่บ่อย นอกจากจะเป็นเรื่องตลก การบอกรักอย่างจริงๆ จังๆ ยาก ผมจะใช้วิธีอื่น แต่ไม่ใช่การให้ของขวัญ เพราะพ่อมีครบแล้ว ผมจะใช้การช่วยงานคุณพ่อ หรือทำตามที่คุณพ่อขอร้อง"
...ถามว่า บอกรักพ่อจำเป็นไหม ผมว่า จำเป็น แต่สำหรับผมจะเลือกเขียนเป็นการ์ด เพื่อให้คุณพ่อได้เก็บ คงจะไม่ใช้การเขียนอีเมล์ หรือบอกปากเปล่า เพราะถ้าทำแบบนี้ เดี๋ยวก็หายไป สู้บอกอะไรที่สามารถเก็บไว้ดูไม่ได้
ด้านศิลปินอะคาเดมี แฟนตาเชีย พิษณุ นิ่มสกุล (บอย) บอกว่า "ปกติเป็นคนขี้อาย และบอกรักพ่อน้อยมากครับ"
ขณะที่ นวปฏล มิ่งทุม (มิว) จากเอเอฟเช่นกัน บอกว่า "ผมเป็นคนรักพ่อมาก แต่การบอกรักพ่อดูจะยากกว ่าการบอกรักแม่ ผมจึงมักจะเลือกเวลาพ่อหลับหรือก่อนไปโรงเรียน เพราะเวลาบอกแล้ว ก็รีบไปโรงเรียนเลย เป็นวิธีการแก้เขินอย่างหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วอยากจะบอกรักพ่อตลอดเวลา แต่เขิน"
ศิลปินวงมอร์นิ่ง อาฟเตอร์ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ลูกผู้ชายมักอายกับการบอกรักพ่อ ซึ่งเปรียบเหมือนมีกำแพงกั้นกลาง"
ศิลปินวงอุลต้า ชวดส์ บอกว่า "ลูกผู้ชายไม่ค่อยบอกรักพ่อ เพราะเราเองก็เป็นเหมือนกัน"
บอกรักพ่อ ไม่ต้องเดี๋ยว
ชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่สายการตลาด บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า...เท่าที่เราได้สำรวจพบ เราเห็นว่ากลุ่มลูกค้าผู้ชายจะเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยแสดงออก และไม่ค่อยพูดคำว่ารัก สักเท่าไหร่ ยิ่งการที่ผู้ชายคนหนึ่งจะบอกรักพ่อด้วยแล้ว ผมว่าเป็นเรื่องยาก อย่างลูกชายผมเขาอยู่ในวัยรุ่น เขาจะไม่พูดตรงๆ ว่ารักพ่อ แต่จะเขียนถึงพ่อว่า เป็นฮีโร่ในดวงใจ แค่นี้สำหรับพ่ออย่างผมก็ซึ้งแล้วครับ"
แต่ถ้าลูกสามารถพูดคำว่า "รักพ่อ" ออกมาได้ นั่นยิ่งทำให้ผู้เป็นพ่อซาบซึ้งสุดๆ
ที่ผ่านมาจึงมีการรณรงค์จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ให้ลูกๆ บอกรักพ่อในหลายๆ วิธี อาทิ การกราบแทบเท้า กอด และบอกกับท่านว่า "รักพ่อมากที่สุดในโลก ภูมิใจและดีใจที่ได้เกิดเป็นลูกท่าน"
แต่การรณรงค์ครั้งนั้นดูจะยังไม่สัมฤทธิผลเท่าใดนัก เพราะการบอกรักพ่อด้วยวาจา ไม่ใช่เรื่องที่ลูกยุคไอทีจะทำกันได้ง่ายๆ บัตรอวยพร, โทรศัพท์, อีเมล์ จึงเป็นสื่อทางเลือก รวมถึงการบันทึกภาพและเสียงลงวีซีดี สื่อยอดฮิตติดกระแสในยุคนี้
ซึ่งล่าสุดมี โครงการบอกรักพ่อไม่ต้องเดี๋ยวเกิดขึ้น เปิดโอกาสให้ลูกๆ บอกรักพ่อในสไตล์ของตัวเอง โดยจัดห้องหับปิดมิดชิดขนาด 3 x 3 เมตร ที่แผนกเสื้อผ้าชาย ในเดอะมอลล์ทุกสาขา ระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน-5 ธันวาคม เอาไว้ให้กับผู้อยากเปิดใจบอกรักพ่อ แล้วบันทึกคำพูดและภาพลงในวีซีดี ขนาดความยาว 5-10 นาที
งานนี้เห็นว่าเสียค่าใช้จ่ายคนละ 100 บาท รายได้มอบให้มูลนิธิพระดาบส ซึ่งเท่าที่เปิดห้องบันทึก ข่าวว่าได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปไม่น้อย โดยเฉพาะลีลาการบอกรักพ่อของลูกชาย ที่กว่าจะเอ่ยคำว่า "รักพ่อ" ออกมาได้ ทีมงานบอกว่า แต่ละคนใช้เวลาอยู่นานสองนาน
ก็คำว่ารักพ่อนั้นพูดยาก แต่หากพูดออกมาได้ คุณค่าของคำสั้นๆ นี้จะอยู่ในใจพ่อของคุณไปอีกนาน ชนิดที่เงินพันล้านยังมีค่าไม่เทียบเทียม!
ฉะนั้นวันพ่อปีนี้ เอ่ยคำว่า "รักพ่อ" ให้พ่อชื่นใจกันเถอะ บอกซะวันนี้ วันที่ยังมีโอกาส!!!
ข้อมูลจาก
matichon.co.th/prachachat/prachachat.php
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ที่มา www.konmun.com/Story/id1586.aspx
ขอบคุณเพพลงจาก www.naronk.org/uboard/listen.php?id=T2006&so=เพลงรักไม่รู้ดับ - เบิร์ด