ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ลำไย.....ผลไม้ที่ให้ทั้งคุณและโทษ


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,150 ครั้ง
Advertisement

ลำไย.....ผลไม้ที่ให้ทั้งคุณและโทษ

Advertisement

ลำไยผลไม้ที่ให้ทั้งคุณและโทษ

 

 

ฉบับนี้ขอเขียนถึงเรื่องของผลไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของผู้คนในสังคม ทั้งในเชิงอาหารและเชิงธุรกิจ ผลไม้ชนิดนี้ก็คือลำไยนั่นเอง

 

และในช่วงนี้ก็เป็นหน้าที่ลำไยกำลังให้ผลผลิต  จะเห็นว่าตามตลาดนัดต่างๆ ห้างสรรพสินค้า หรือเป็นรถเร่ขายผลไม้ ก็เต็มไปด้วยลำไย ราคาก็ไม่แพงมากนัก และความดังของลำไยก็ยังเป็นข่าวให้ได้อ่านได้ฟังกันทุกวัน  คือเรื่องของลำไยอบแห้งที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีแต่กล่องแต่ไม่มีลำไยในกล่อง หรือที่เรียกกันว่าสต็อกลม   และยังมีการทำลายลำไยทิ้งเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ทั้งๆ ที่ประชากรทั้งในและต่างประเทศก็มีความต้องการทานลำไยกัน ก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจทีเดียวว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลำไยและเกษตรกรผู้ปลูก  ทำไมลำไยจึงได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้   เป็นเพราะกระแสการปลูก   หรือเกษตรกรไม่มีความรู้ด้านการตลาด หรือมีตลาดที่ไม่ตรงกับกลไกของความเป็นจริง

 

 ลำไยจัดเป็นไม้ผลกึ่งเมืองร้อน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dimocarpus longan Lour. มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้และอินเดีย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 9-12 เมตร ในความเป็นจริงแล้วลำไยมีอยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่ที่นิยมปลูกในบ้านเราก็แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ

 

1.ลำไยต้น  เป็นพันธุ์ที่ปลูกเพื่อนำผลมาใช้บริโภค และพันธุ์ที่นิยมปลูกกัน คือ พันธุ์อีดอ, เบี้ยวเขียว, สีชมพู, กะโหลกแห้ว, ใบดำ และพันธุ์พื้นเมือง

 

2.ลำไยเครือ    เป็นพันธุ์ที่ปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือนหรือตามสถานที่ต่างๆ

 

ลำไยเป็นไม้ที่ให้ผลเป็นช่อ   อาจมีขนาดเล็กถึงใหญ่  ส่วนเนื้อในมีสีขาวใสหรือสีชมพูอ่อนๆ มีรสหวานจัด และให้ผลผลิตในเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนก็จะตรงกับหน้าฝน และมีการปลูกกันมากทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ   ในการนำมาใช้เป็นอาหารนั้นนอกจากทานผลสดแล้ว ยังสามารถนำมาแปรรูปได้ด้วย เช่น ลำไยกระป๋อง, ลำไยแช่แข็ง และลำไยอบแห้งเพื่อเก็บไว้กินได้นานๆ ทำเป็นไวน์ลำไย หรือนำมาปรุงเป็นขนมหวาน เช่น ข้าวเหนียวเปียกลำไย ก็มีรสชาติอร่อยเช่นกัน

 

นอกจากการนำมาเป็นอาหารแล้ว ตามตำราการแพทย์แผนไทยยังมีการนำเอาส่วนประกอบต่างๆ ของลำไยใช้เป็นยารักษาโรค คือ

 

- เนื้อผลช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงร่างกาย รักษาอาการตัวบวมในสตรีที่คลอดบุตร

- เมล็ดใช้ทาแผลเน่าเปื่อย คัน หรือแผลเรื้อรังที่มีหนอง ช่วยรักษาเกลื้อน ใช้ห้ามเลือด ขับปัสสาวะ เปลือกใช้ทาแผลที่โดนน้ำร้อนลวกจะไม่ปวดแผล และไม่เกิดแผลเป็น

 

คุณค่าทางโภชนาการของลำไย ประกอบด้วย

 

พลังงาน 71 แคลอรี

ไขมัน 1.4 กรัม

คาร์โบไฮเดรต 15.6 กรัม

เส้นใยอาหาร 0.3 กรัม

โปรตีน 1 กรัม

แคลเซียม 23 มิลลิกัรม

ฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม

เหล็ก 0.4 มิลลิกรัม

ไนอะซิน 0.3 มิลลิกรัม

วิตามินบี 1 0.03 มิลลิกรัม

วิตามินบี 2 0.14 มิลลิกรัม

วิตามินซี 56 มิลลิกรัม

 

อย่างไรก็ตาม ในการทานผลไม้นั้นก็ควรทานให้หลากหลายชนิด แต่ผลไม้บางชนิดก็ดูจะเป็นผลไม้ต้องห้ามสำหรับผู้บริโภคบางคนได้เช่นกัน เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ก็ไม่ควรทานผลไม้ที่มีรสชาติหวานจัด หรืออาจรับประทานได้ในปริมาณน้อยๆ เช่น ทุเรียน, น้อยหน่า โดยเฉพาะลำไยสดนั้นควรทานแต่พอประมาณ  หากทานมากเกินไปจะทำให้เกิดอาหารเจ็บคอหรือร้อนในได้ เนื่องจากเนื้อลำไยมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง  หากท่านใดที่ทานลำไยแล้วมีอาการเช่นนี้ก็ให้ดื่มน้ำเกลือตามลงไปก็จะช่วยบรรเทาอาการนี้ได้ (สูตรน้ำเกลือประกอบด้วย น้ำเปล่า 1 แก้ว เกลือ 1/2 ช้อนชา ละลายให้เข้ากัน) หรือบางท่านอาจแก้ด้วยการทานมังคุดตามลงไป เนื่องจากมีความเชื่อมังคุดเป็นผลไม้ที่เย็นก็จะช่วยดับร้อน แก้อาการกันได้ และเพื่อสุขภาพที่ดีเราควรทานผลไม้ทุกๆ วันเช่นเดียวกับผัก ร่างกายจึงจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ที่สำคัญยังช่วยทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ  ใยอาหารในผลไม้ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ป้องกันโรคมะเร็งหลายชนิดโดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ ก็ขอฝากถึงผู้อ่านให้หันมาทานผลไม้กันเยอะๆ โดยเฉพาะผลไม้ที่เป็นของบ้านเราเอง   พราะนอกจากจะช่วยเกษตรกรให้มีรายได้แล้ว ตัวผู้บริโภคเองก็จะได้มีสุขภาพที่ดีตามมาด้วย

 

ปัญหาคือกินในปริมาณเท่าไรจึงจะพอดี  ตามหลักโภชนาการได้แนะนำให้กินผลไม้ 4-5 ส่วนต่อวัน ซึ่งผลไม้ที่กินก็ควรจะมีความหลากหลายใน  1 ส่วนที่กล่าวถึงนี้ ถ้าเป็นสับปะรดคือ 6 ชิ้น มะละกอ 6 ชิ้น แตงโม 3 ชิ้น เงาะ 4 ผล ชมพู่ 2 ผล มะม่วงสุก 1/2 ผล สำหรับลำไย 1 ส่วน ถ้าเป็นผลใหญ่ก็จะได้ประมาณ 6 ผล ผลเล็ก 10 ผล กล่าวคือ ถ้าเราจะกินแต่ลำไยเพียงอย่างเดียวตามสัดส่วนที่กำหนดในหนึ่งวัน  ก็ไม่ควรเกิน  30 ลูกใหญ่ 50 ลูกเล็ก แต่ในความเป็นจริงถ้ากินมากขนาดนี้จะร้อนมาก และในทางการแพทย์แผนไทยเราไม่แนะนำให้กินอย่างเดียว   ควรกินผลไม้อย่างอื่นด้วย  สมมุติว่าเรามีชมพู่  เงาะ สับปะรด  ลำไย ในตู้เย็นก็ควรกินทุกอย่างดังนี้คือ ชมพู่ 2 ลูก เงาะ 1 ลูก สับปะรด 6 ชิ้น และลำไย 12 ลูก (2 ส่วน) เป็นต้น จะได้ผลไม้ทั้งหมดนี้ เท่ากับ 5 ส่วนของอาหาร ถ้าต้องการลดความอ้วน วันนั้นก็ควรกินข้าวสวยให้น้อยลง  เช่น  ควรกินไม่เกิน 4 ทัพพี เป็นต้น นี่คือคนปกติกิน คนเป็นเบาหวานก็ให้ลดปริมาณลง หันมากินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแทน ถ้าต้องการกินลำไยก็ไม่ควรเกิน 6 ลูก ถ้าอยากกินก็ต้องลดข้าวลง

 

ดังนั้น ถ้าครอบครัวหนึ่งซื้อลำไยมา 2 กิโลกรัม ลำไย 12 ลูก น้ำหนัก 1 ขีด ถ้าลำไยไม่มีก้าน 6 ลูกใหญ่ หนัก 56  กรัม  1  กิโลกรัม  มีลำไยประมาณ 100 ลูก ก็จะกินได้ประมาณ 8 คน ถ้ากินลำไยคนละ 2 ส่วนอาหารคือ คนละ 12 ลูกต่อวัน รัฐบาลขอร้องให้ซื้อลำไยครอบครัวละ 2 กิโลกรัม ก็กินลำไยติดต่อกันได้ 3-4  วัน ก็หมดพอดีสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-6 คน  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะช่วยรัฐบาลซื้อลำไย 2 กิโลกรัม หลังจากกินลำไยแล้วหากมีอาการร้อนในก็ให้กินน้ำเกลือตาม ก็ตามสูตรที่หมอเขียนไว้ตอนต้นนั่นแหละ.

 

 

ที่มา

หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ (แทบลอยด์)

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 7254 วันที่ 23 พ.ย. 2552


ลำไย.....ผลไม้ที่ให้ทั้งคุณและโทษ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ครอบครัวที่เป็นสุข

ครอบครัวที่เป็นสุข


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
25 วิธี ทำชีวีไม่มี อ้วน

25 วิธี ทำชีวีไม่มี อ้วน


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
ดอกสวย...แต่แฝงพิษร้าย

ดอกสวย...แต่แฝงพิษร้าย


เปิดอ่าน 7,219 ครั้ง
Tourism Vocabulary   travels worksheets (E40213)

Tourism Vocabulary travels worksheets (E40213)


เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง
ฉลาดรู้เกี่ยวกับ ....ไข่ไก่

ฉลาดรู้เกี่ยวกับ ....ไข่ไก่


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
 การโอนลอย

การโอนลอย


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
6 ขั้นตอน....สอนได้ทุกสิ่ง!!

6 ขั้นตอน....สอนได้ทุกสิ่ง!!


เปิดอ่าน 7,158 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

♠♠ 50 ข้อคิด มุมมองเพื่อความเข้าใจในชีวิต

♠♠ 50 ข้อคิด มุมมองเพื่อความเข้าใจในชีวิต

เปิดอ่าน 7,149 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ดื่มน้ำเย็น เป็นอันตรายจริงหรือ ?
ดื่มน้ำเย็น เป็นอันตรายจริงหรือ ?
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

10 วิธีง่ายในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
10 วิธีง่ายในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย

หยุดที่ใจ...ไว้ชั่วคราว
หยุดที่ใจ...ไว้ชั่วคราว
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

ลืออาถรรพ์! ย้ายยักษ์ ในสุวรรณภูมิ
ลืออาถรรพ์! ย้ายยักษ์ ในสุวรรณภูมิ
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

อาหารยอดฮิตราคาถูก
อาหารยอดฮิตราคาถูก
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

ตัวอย่างงานวิจัยในชั้นเรียน
ตัวอย่างงานวิจัยในชั้นเรียน
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

7 หลักเลี่ยงไขมันพอกตับ
7 หลักเลี่ยงไขมันพอกตับ
เปิดอ่าน 11,717 ครั้ง

"เนยรักโลก" วลีเด็ดสุดฮิต ที่ฮอตที่สุดในขณะนี้
"เนยรักโลก" วลีเด็ดสุดฮิต ที่ฮอตที่สุดในขณะนี้
เปิดอ่าน 16,064 ครั้ง

ชนิดของสมุนไพรป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช
ชนิดของสมุนไพรป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช
เปิดอ่าน 62,084 ครั้ง

รถอัจฉริยะ-ไร้คนขับ
รถอัจฉริยะ-ไร้คนขับ
เปิดอ่าน 11,014 ครั้ง

นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
เปิดอ่าน 2,711 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ