Advertisement
|
จากกรณีคนร้ายเข้าไปโจรกรรมตัดเศียรพระพุทธรูปจำนวน 7 เศียร
ซึ่งเป็นเศียรพระเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา จากวัดดงหวาย ม.5 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างความสลดใจให้กับพระสงฆ์และประชาชนชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งติดตามควานหาตัวคนร้ายแบบพลิกแผ่นดินหา
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 พ.ย. พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไทย ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวส รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.พหล เหรียญทอง ผกก.สส.ภ.1 พร้อมชุดสืบสวน ภาค 1 และชุดสืบสวนของบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดดงหวาย โดยพล.ต.ท.กฤษฎาได้เดินตรวจสอบที่พระอุโบสถวิหารหลวงพ่อบุญมาก ที่ถูกคนร้ายตัดเศียรพระไป
พล.ต.ท.กฤษฎา เปิดเผยว่า
คดีนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ประชาชนคนไทยทราบข่าวต่างสลดใจไปทั่วประเทศ วันนี้ทางตำรวจเหมือนเริ่มต้นการสืบสวนจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ โดยจะระดมตำรวจชุดสืบสวนออกหาข่าวตามแหล่งต่างๆ เชื่อว่าจะมีความคืบหน้าในเร็วๆ นี้ ขอให้ประชาชนอดทน เห็นภาพในวันนี้แล้วรู้สึกสลดใจ ต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการวางแผนและคุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องวัตถุโบราณให้ดี คดีนี้รู้สึกหนักใจอยู่บ้าง แต่ตำรวจจะพยายามทำงานให้รวดเร็วและติดตามเศียรพระมาคืนให้ประชาชนให้ได้ เกี่ยวกับโครงการตู้เหลืองที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องออกตรวจตามวัดต่างๆ น่าเสียดายที่วัดนี้ไม่อยู่ในโครงการ คงจะต้องรื้อฟื้นให้กระจายไปทั่วทุกวัด
พ.ต.อ.กรเอก กล่าวว่า
แนวทางการสืบสวนนั้น บก.สส.ภ.1 จะออกหาข่าวครอบคลุมทุกพื้นที่ส่วนสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา จะออกหาข่าวในพื้นที่จังหวัดตามแหล่งรับซื้อของเก่าและตรวจสอบแหล่งที่ค้าวัตถุโบราณ รวมทั้งประสานขอความร่วมมือกับบริษัทที่รับจ้างจากกรมศิลปากรไปบูรณะพระอุโบสถ ทราบว่าอยู่ที่จ.สุพรรณบุรี โดยมอบหมายให้พ.ต.ต.มาโนช บุญส่ง สว.กลุ่มงานสืบสวน ร.ต.อ.พิภพ นาพุทรา รองสว.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เดินทางไปขอความร่วมมือตรวจสอบประวัติคนงานทุกคน
นายเอนก สีหามาตย์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า
การบูรณะพระอุโบสถและพระวิหารเสร็จไปเมื่อปลายเดือนส.ค.2552 เสียดายที่เศียรพระในพระอุโบสถถูกคนร้ายตัดไปเป็นเศียรที่มีความงดงาม เนื้อปูนบางส่วนผสมด้วยศิลาแลง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นศิลปกรรมท้องถิ่นสมัยที่รัชกาลที่ 3 ทรงค้าขายกับชาวต่างชาติจนประเทศไทยมีฐานะดี พระองค์จึงได้สั่งให้บูรณะวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะวัดนี้เป็นวัดหนึ่งที่ได้รับการบูรณะและปั้นองค์พระ สังเกตได้จากฐานยกระดับสูงเป็นฐานสิงห์ ขณะนี้ได้ให้ น.ส.ภัทราวดี ดีสมโชค นักโบราณคดีปฏิบัติการออกไปตรวจสอบเพื่อทำรายงานให้กรมศิลปากรทราบ เป็นเศียรพระที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมาก การที่คนร้ายมาตัดเศียรพระไปหลายเศียรแสดงให้เห็นว่าขบวนการค้าวัตถุโบราณเริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว ขอให้ทางวัดทุกวัดได้ช่วยกันเฝ้าระวัง
นายสำเริง แช่มโสภา กำนันตำบลท่าช้าง เปิดเผยว่า
ต่อไปทางชาวบ้านจะจัดเวรยามเฝ้าระวังตามวัดต่างๆ ที่มีวัตถุโบราณ โดยเฉพาะวัดดงหวายที่มีวัตถุโบราณมากที่สุด การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ให้ความสนใจลงมาดูชาวบ้านรู้สึกพอใจและมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยติดตามเศียรพระกลับคืนมา
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|
วันที่ 21 พ.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,154 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,409 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 56,540 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,152 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,774 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,814 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,515 ครั้ง |
|
|