ราชาธิราช
ราชาธิราช เป็นหนังสือเดิมมีต้นฉบับเป็นภาษามอญ ซึ่งได้เคยแปลเป็นภาษาไทยตั้งแต่ก่อนเสียกรุงศรีอยุธ ยาแก่พม่าครั้งสุดท้าย ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้เสวยราชสมบัติเป็นปฐมกษัตริย์ของพระราชวงศ์จักรี ณ กรุงเทพฯ ทรงพยายามรวบรวมหนังสือและตำราต่างๆ ที่กระจัดกระจายหายไปในยามสงคราม ทรงพระราชดำริว่า หนังสือเรื่อง ราชาธิราช เป็นหนังสือดี เคยได้รับการยกย่องมาแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการแปลและเรียบเรียบใหม่
เนื้อเรื่องของ ราชาธิราช นั้นยาวมาก ส่วนใหญ่กล่าวถึงการสงครามระหว่างราชอาณาจักรพม่าและ มอญ สันนิษฐานว่าเหตุการณ์เกิดในสมัยใกล้เคียงกับสมัยอยุ ธยาของไทย พม่าและมอญทำสงครามกันเป็นเวลานาน ในตอนต้น มอญมักเป็นฝ่ายชนะและพม่าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แล้วก็พักรบ กันไปบ้างเป็นระยะๆ
เริ่มตั้งแต่สมัยของ มะกะโทหรือสุโขทัยของประเทศไทย เชื้อสายมอญได้สืบต่อจากมะกะโทเรื่อยๆจนถึงพระยาช้าง เผือก พระยาช้างเผือกมีราชบุตรนามว่า มังสุรมณีจักร แต่พระยาช้างเผือกไม่ชอบจึงเปลี่ยนเป็น พระยาน้อย พระยาน้อยมี มเหสี 2 พระองค์ คือนางตะละแม่ท้าวซึ่งเป็นลูกร่วมบิดาของพระยาน้อยมี พระราชโอรสนามว่า พ่อลาวแก่นท้าว และนางแม่เม้ยมะนิกเป็นหญิงสาวชาวบ้านขายเครื่องหอมธ รรมดา ทำให้ตะละแม่ท้าวไม่พอใจในตัวแม่เม้ยมะนิก เพราะถือเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาไม่ได้มีเชื้อกษัตริย์ เมื่อถึงเวลาอภิเษก ตะละแม่ท้าวไม่ยอมเข้าร่วมพิธีอภิเษกทำให้พระยาน้อยก ริ้วมากแต่ยังระงับอารมณ์ไว้
เมื่อได้ฤกษ์อภิเษกตะละแม่ท้าวจึงไม่ได้รับการอภิเษก แต่งตั้งเป็นมเหสี และพระยาน้อยก็ได้เปลี่ยนพระนามใหม่ว่า สีหราชาธิราชแต่นิยมเรียกว่า พระเจ้าราชาธิราช
ต่อมาพ่อลาวแก่นท้าวซึ่งเป็นพระโอรสของพระยาน้อยและน างตะละแม่ท้าวได้เอ่ยถามมารดาว่า ทำไมจึงไม่ไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อบ้าง ตะละแม่ท้าวได้ฟังที่พ่อลาวแก่นท้าวพูดก็ทรงแค้นยิ่ง นัก จึงตรัสบอกพระราชโอรสว่า พ่อเจ้าเห็นกาดีกว่าหงส์ รักแม่เม้ยมะนิกมากกว่าตน เมื่อตรัสแล้วก็ทรงพระกันแสงเมื่อพ่อลาวแก่นท้าวได้ท ราบความทุกข์ของมารดาก็ทรงพระกันแสงร่ำไห้สงสารพระมา รดา
อยู่มาวันหนึ่งพ่อลาวแก่นท้าวได้ไปเข้าเฝ้า พระเจ้าราชาธิราช ณที่เสวยซึ่งมีแม่เม้ยมะนิก ประทับอยู่ด้วยเมื่อ พ่อลาวแก่นท้าวต้องถวายความเคารพก็นึกแค้นว่าแม่เม้ย มะนิก เป็นแค่สาวชาวบ้านธรรมดาจึงไม่ควรเคารพและคิดว่าเพรา ะมีมืออยู่จึงต้องไหว้เลยกัดนิ้วพระหัตถ์ทิ้งเสีย พระราชาธิราช ก็สะดุ้งพระทัยว่าอ้ายลูกคนนี้ขนาดนิ้วมือมันยังไม่ร ักแล้วมันจะรักพ่อกับแม่เลี้ยงรึ ซักวันมันต้องคิดล้างพ่อ เมื่อมึงไม่ไหว้กูก็ไม่ต้องเป็นพ่อลูกกันอีก
เมื่อทรงดำริแล้วก็ตัดอาลัย พ่อลาวแก่นท้าว และสั่งให้ สมิงอายกองปิน นำ พ่อลาวแก่นท้าว ไปประหาร พ่อลาวแก่นท้าวไม่คิดกลัวอาญาแต่กลับ รู้สึกแค้นจึงขอ สมิงอายกองปิน ไปนมัสการพระมุเตาก่อนประหาร พ่อลาวแก่นท้าว ได้อธิษฐานต่อพระมุเตาว่า ตัวข้านี้ไม่เคยคิดร้ายต่อบิดาของข้าเลยแต่บิดาของข้ าสั่งให้ประหารข้าเสีย ข้าขอชาติหน้าให้ได้ไปเกิดเป็นลูกของอัครมเหสีของ พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง กษัตริย์พม่าเมื่อได้ปฏิสนธิ ในครรภ์ของพระอัครมเหสีแล้วขอให้ทรงอยากเสวยดินใจกลา งเมืองหงสาวดีและเมื่อตัวข้าอายุได้ 22 ปี ขอให้ได้มาทำศึกกับพระบิดาของข้าด้วยเทอญ พ่อลาวแก่นท้าวได้ถวายพระมาลาแก่ พระมุเตา สมิงอายกองปินก็นำตัวพ่อลาวแก่นท้าวไปประหารและได้นำ ความของ พ่อลาวแก่นท้าว ไปทูล พระราชาธิราช พระราชาธิราชทรงดำริว่าลูกคนนี้มันคิดจะผูกจิตพยาบาท ต่อกูเมื่อโตขึ้นไป มันต้องทำให้ผู้ใหญ่โกรธกัน เมื่อดำริแล้วก็เสด็จไปที่พระมุเตาและได้บนบานว่าถ้า ได้ทำสงครามจริงก็ขออย่าให้มันชนะผู้เป็นบิดาเลยและไ ด้นำพระมาลาของตนทับบนพระมาลาของพ่อลาวแก่นท้าวอีกชั ้น
ฝ่ายพม่าพระอัครมเหสีของพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องก็ทรงตั้ งครรภ์ก็ทรงอยากเสวยดินใจกลางเมืองหงสาวดีดั่งที่พ่อ ลาวแก่นท้าวบนบานไว้และเมื่อครบกำหนดคลอดก็ได้พระราช โอรสนามว่า มังรายกะยอฉะวา เมื่อยังเยาว์ทรงพระกันแสงเมื่อใด เสวยนมก็มิเสวย ให้สมบัติแก้วแหวนก็มิหยุด แต่ถ้าบอกว่าจะเอาเมืองหงสาวดีมาให้ก็จะหยุดกันแสงแล ะทรงพระสรวลชอบใจ จึงเป็นที่ชื่นชมแก่ผู้ใหญ่ทั้งหลายมาก
เมื่อ มังรายกะยอฉะวา มีพระชนมายุได้ 22พรรษาก็ได้มีเรื่องบ่อนำมันดินเกิดขึ้นทำให้มีเรื่ องขัดแย้งระหว่างมอญและพม่าก็ได้เวลาที่ของพระราชโอร สของเมืองพม่านาม มังรายกะยอฉะวาจะได้ทำศึกกับพระเจ้าราชาธิราชให้สมคว ามตั้งใจ
วัดนี้เป็นวัดใหญ่และสำคัญมากในอดีต แต่ปัจจุบันเป็นวัดร้างจากหลักฐานพบว่า เมื่อพระยายุธิษฐิระ ราชบุตรบุญธรรมของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ (ขุนหลวงพระงั่ว) ได้ครองเมืองกำแพงเพชร สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ ได้พระราชทานพระแก้วมรกต ให้มาประดิษฐานที่เมืองกำแพงเพชร จึงได้บูรณวัดนี้จากวัดเดิมให้ใหญ่โตสวยงาม
ขอบคุณที่มา thaigoodview