"แม้ว"บินกลับดูไบ อ้อมไทย! ศรภ.โต้จับทหาร

ส่งท้าย - สมเด็จฮุนเซน ผู้นำกัม พูชา พูดคุยกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อย่างออกรส ระหว่างออกรอบตีกอล์ฟที่จ.เสียมเรียบ ก่อนอดีตนายกฯของไทยจะเดินทาง ออกจากกัมพูชากลับไปดูไบเมื่อวันที่14พ.ย.

กลับดูไบ - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จับมืออำลาตัวแทนกัมพูชาที่มาสˆง ก่อนขึ้นเครื่องบินส่วนตัวเดินทางออกจากกัมพูชา กลับไปดูไบ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. โดยใช้เส้นทางบินอ้อม ไม่ผ่านประเทศไทย

กองทัพไทยโต้ไม่มีศรภ.ถูกจับ

ที่ร.1พัน1รอ. ถนนวิภาวดีฯ พ.อ.สิทธิชัย มากกุญชร โฆษกประจำกองบัญชาการกองทัพไทย รับผิดชอบดูแลศูนย์รักษาความปลอดภัย(ศรภ.) กล่าวถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่สื่อกัมพูชาระบุว่าได้จับกุมนายมานิต เจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย(ศรภ.) สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ที่มาสอดแนมที่โรงแรมซิตี้ อังกอร์ เมืองเสียมราฐ กัมพูชา ซึ่งเป็นที่พักของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่ากองทัพตรวจสอบไปตามหน่วยงานที่ทำหน้าที่การข่าวการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคง ยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ถูกจับกุม และไม่มีเจ้าหน้าที่ศรภ.ชื่อมานิต ยังไม่ทราบว่าฝ่ายใดเป็นผู้ปล่อยข่าวลือเรื่องนี้ กองทัพไทยและกองทัพกัมพูชายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่ ดูได้จากตามแนวชายแดนที่ทหารทั้งสองฝ่ายมีการติดต่อกันอยู่ การค้าขายก็ยังเป็นเหมือนเดิม โดยภาพรวมยังถือว่าสัมพันธภาพกองทัพเราและมิตรประเทศยังสงบสุข อยากให้ประชาชนวิเคราะห์การรับฟังข่าวที่ออกมา

ปชป.จับพิรุธเขมรมุ่งการเมือง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีทางการกัมพูชาจับกุมนายศิวรักษ์ โชติพงษ์ ว่า ขอเตือนไปยังรัฐบาลกัมพูชาและสมเด็จฮุนเซนว่าการดำเนินการดังกล่าวนอกเหนือจากมาตรการทางการทูต และขอให้ปฏิบัติตามข้อตกลงว่าด้วยพันธสัญญาในการปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุม ซึ่งต้องสงสัยว่าต้องเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ว่ากระทำผิดตามข้อกล่าวหา เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดูแล้วมีพิรุธหลายเรื่องอาจเป็นการดำเนินการโดยมีวัตถุประสงค์ทางการเมือง เพื่อจงใจยั่วยุให้เกิดปฏิกิริยาจากฝ่ายไทย สิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาต้องตอบข้อสงสัยในการดำเนินการดังกล่าวคือข้ออ้างและการกล่าวหาว่าคนไทยและรัฐบาลไทยสอดแนมข้อมูลที่ กัมพูชาอ้างว่าเป็นข้อมูลลับ ซึ่งโดยธรรม เนียมสากลข้อมูลที่เป็นตารางการบินเป็นข้อ มูลที่ต้องประสานงานร่วมกันกับประเทศที่เป็นพันธการบิน ฝ่ายพลเรือน เพื่อให้ความปลอดภัยต่อเที่ยวบินต่างๆ ได้ แต่ทำไมกรณีที่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ กัมพูชาจึงมองว่าเป็นความลับของรัฐบาลกัมพูชา

แฉช่วงแดงเดือดเม.ย.แม้วอยู่เขมร

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้นคือมีรายงานในหนังสือพิมพ์เอเชียไทมส์เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ยืนยันในสิ่งที่หลายฝ่ายปฏิเสธมาตลอดว่าช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฮุนเซน และที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา พักพิงอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยมีรูปถ่ายยืนยันและระบุวันที่ที่สนามกอล์ฟอังกอร์วัด เมืองเสียมเรียบ อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่มีเหตุการจลาจลในประเทศไทย โดย พ.ต.ท.ทักษิณยั่วยุสนับสนุนให้ประชาชนล้มรัฐบาล โดยใช้กำลังและกล่าวในการโฟนอินว่าจะข้ามฝั่งชายแดนมายังประเทศไทย เพื่อนำการปฏิวัติล้มรัฐบาลโดยใช้กำลังในช่วงเวลาดังกล่าว พรรคขอตั้งข้อสังเกตว่าหากเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง เกี่ยวเนื่องกับรัฐบาลกัมพูชาต้องการปกปิด พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเครื่องบินส่วนตัวในช่วงเดือนเม.ย.จนถึงปัจจุบัน และเป็นเหตุให้ใส่ร้ายและยัดเยียดข้อหาการล้วงความลับต่อประชาชนคนไทยหรือไม่ ยืนยันว่ารัฐบาลไทยไม่มีพฤติกรรมตามที่กล่าวหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสอดแนมความลับ หรือข่าวที่ปรากฏออกมาว่ามีการใช้เที่ยวบินลาดตระเวน ลุกล้ำน่านฟ้ากัมพูชา และยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ทำอะไรที่จะยั่วยุให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ นอกเหนือจากการใช้มาตรการทางการทูต

ไม่ตกหลุมแผนยั่วยุหวังใช้กำลัง

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรบ้าง และขอถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณภูมิใจหรือไม่ที่การ ดำเนินการดังกล่าวทำให้คนไทยถูกจับกุม อยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันตระหนักว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณดำเนินการกับสมเด็จฮุนเซนและรัฐบาลกัมพูชา เป็นเรื่องที่อันตรายมากต่อบ้านเมืองที่อาจนำไปสู่การเผชิญหน้าและความขัดแย้ง พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าความพยายามที่จะกุเรื่องและยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งขึ้นถือเป็นความประสงค์ที่หวังว่าในที่สุดแล้วจะนำไปสู่ภาวะที่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าด้วยการใช้กำลัง และส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ โดยดึงประเทศอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน พรรคยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวสัมฤทธิผลเป็นอันขาด เพราะสาเหตุไม่ได้เกิดจากประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ แต่เกิดขึ้นจากการดำเนินการของคนเพียงสองคน ที่เอาผลประโยชน์ส่วนตัวมาสร้างปัญหาระหว่างความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ เรื่องนี้เป็นการชักจูงให้มีการแทรกแซงการเมืองภายใน ซึ่งขัดกับธรรมเนียมปฏิบัติของสากล ต้องมีการตรวจสอบต่อไป

ชูมาร์คอดกลั้นมีวุฒิภาวะผู้นำ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รายงานของหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวยังอ้างถึงการให้ที่พักพิงแก่นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยไม่ได้ระบุเวลาว่าเป็นช่วงใด แต่ลงตีพิมพ์คำให้สัมภาษณ์และยืนยันถึงแนวทางในการพยายามของนายจักรภพว่ามีการเตรียมการใช้กำลังเพื่อล้มรัฐบาลไทย เรื่องนี้ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่ผู้ที่รายงานข่าวแม้กระทั่งให้การยืนยันหรือปฏิเสธ แต่หากการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณพักพิงอยู่ในกัมพูชาก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งในวงกว้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าท่าที่ของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ แข็งกร้าว โดยระบุว่าระหว่างการให้สัมภาษณ์เรื่องประเทศชาติไม่ควรออกมาจากรมว.ต่างประเทศ เพราะจะทำให้กระแสรุนแรงมากกว่านี้ น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า คงต้องดูว่าผู้สื่อข่าวถามว่าอะไร แต่แนวทางของประเทศต่อเรื่องทั้งหมดกำหนดโดยนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีภาวะความเป็นผู้นำ มีความอดกลั้น มีวุฒิภาวะของผู้นำ ทั้งในฐานะที่เป็นประเทศที่ใหญ่กว่าโดยไม่วู่วามต่อการยั่วยุ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องยอมรับว่าไทยเป็นฝ่ายตั้งรับปัญหาที่เกิดขึ้นจากกัมพูชา แต่การดำเนินนโยบายต้องทำควบคู่กันไป ตั้งแต่รัฐบาลหน่วยงานความมั่นคง การดูแลจุดที่อ่อนไหวเปราะบาง เช่น บริเวณชายแดน และรัฐบาลไทยก็ไม่ได้ริเริ่มจับกุมคนของกัมพูชา นอกจากนี้ จะดูแลให้สงบเรียบร้อย ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับการเผาสถานทูตไทยในกัมพูชา

เทพไทแฉแม้วทำเหรียญให้คล้องคอ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่ากรณีที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยกว่า 70 คน เหมารถเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งสมเด็จฮุนเซนเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงให้ บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่น มื่น แต่เป็นความเจ็บปวดของคนไทยทั้งชาติที่เห็นส.ส.ไปร่วมงานดังกล่าว และซูฮกให้สมเด็จฮุนเซน โดยยกฐานะเสมือนเป็นผู้นำพรรคเพื่อไทยอีกคนหนึ่ง ทั้งนี้ตนได้รับเหรียญที่ระลึกจากคนเสื้อแดงที่หวังดีต่อประเทศชาติส่งมาให้ตน เข้าใจว่าคงเป็นเหรียญที่ให้คนเสื้อแดงเอาไว้คล้องคอ ด้านหน้าเป็นภาพของพ.ต.ท.ทักษิณทำสัญลักษณ์มือว่าฉันรักเธอ ด้านล่างเขียนว่า "รวมพลังประชาธิปไตย 2552" ด้านหลังเขียนว่า "ประเทศไทย เพื่อประชาธิปไตย ชมรมคนรักทักษิณ 2552" ซึ่งตนเห็นว่าภาพด้านหน้ามีพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ภาพด้านหลังที่ยังว่างก็ควรเอาภาพสมเด็จฮุนเซน และตั้งชื่อเป็นเหรียญ 2 สมเด็จ คือสมเด็จฮุนเซนและสมเด็จทักษิณ เอาไว้แข่งกับสมเด็จวัดระฆัง

เขมรถอนทหารแค่ละครฮุนเซน

ส่วนการประกาศถอนทหารกัมพูชาออกจากบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณไปเยือนกัมพูชานั้น นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าเป็นการแสดงละครของสมเด็จฮุนเซนที่ต้องการสร้างภาพให้เห็นว่าเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณมากัมพูชาแล้ว สามารถสร้างการยอมรับและทำให้สมเด็จฮุนเซนเชื่อฝีมือจึงถอนทหารออกได้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงเหตุการณ์บริเวณชายแดนยังเป็นปกติ ไม่มีเหตุขัดแย้งรุนแรงใดๆ มีการติด ต่อซื้อขาย เป็นเพียงการสร้างภาพให้พ.ต.ท. ทักษิณเป็นพระเอกเท่านั้นเอง

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ออกมาปกป้องรัฐบาลกัมพูชาและกล่าวหารัฐบาลไทยและประเทศไทยว่ารัฐบาลไทยไปหาเรื่องประเทศเพื่อนบ้าน โดยขับไล่เลขานุการเอกของสถานทูตไทยในกัมพูชา ระบุเพราะไปล้วงความลับให้รัฐบาลไทยในกัมพูชาว่า คนทั่วโลกต่างไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริง เพียงแต่สมเด็จฮุนเซนต้องการสร้างภาพ ปั้นเรื่องสร้างสถานการณ์เห็นว่ารัฐบาลกัมพูชามีความชอบธรรมที่จะดำเนินการต่อรัฐบาลไทย แม้กระทั่งล่าสุดสมเด็จฮุนเซนใช้สื่อให้เป็นประโยชน์ในการประกาศว่าทางกัมพูชาจับเจ้าหน้าที่ศรภ.ของไทยได้อีก 1 คนที่ไปสอดแนมในโรงแรมที่พ.ต.ท.ทักษิณเข้าพักในกรุงพนมเปญ ยืนยันว่าทั้งหมดเป็นการสร้างภาพ สร้างสถานการณ์เพื่อให้สอด คล้องกับความเคลื่อนไหวของรัฐบาลกัมพูชาที่มีต่อรัฐบาลไทย เป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นคนไทยด้วยกัน โดยพฤติกรรมช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชา เสียชาติเกิดที่เกิดมาเป็นคนไทย ไม่ปกป้องประเทศไทยแล้วกลับใส่ร้ายประเทศไทยอีก

งานแดงระดมทุนแค่สร้างภาพ

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีการจัดงานระดมทุนของคนเสื้อแดงที่โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เพื่อนำเงินมาเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลในปลายเดือนนี้ โดยตั้งเป้าว่าจะใช้งบราว 18 ล้านบาทว่า งานที่คนเสื้อแดงจัดภายใต้ชื่องานว่า "มิตรร่วมร้อง พี่น้องร่วมรบ" ซึ่งตนคิดว่างบประมาณในการจัดงานนี้ต้องใช้อย่างต่ำ 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อมูลจากคนวงในของกลุ่มเสื้อแดงที่แจ้งตนมา แต่กลับมีการขายบัตรหัวละ 200 บาท ซึ่งจะมีคนเสื้อแดงมาร่วมงานราว 10,000 คน จึงคิดว่ารวมแล้วไม่น่าจะได้เกิน 2 ล้านบาท ถือว่าขาดทุน ดังนั้นเงิน 18 ล้านบาทที่คาดหวังว่าจะได้ถามว่าเอามาจากไหน การจัดงานครั้งนี้จึงเป็นเพียงการสร้างภาพ เพื่อชี้แจงต่อสังคมว่าเงินได้จากการจัดงานระดมทุน ทั้งที่จริงๆ แล้วได้มาจากนายใหญ่ จึงขอเรียกร้องให้คนเสื้อแดงแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายของการจัดงานทั้งหมดให้สังคมรับทราบ เพื่อร่วมตรวจสอบ มิฉะนั้นก็ต้องเปลี่ยนชื่องานเป็น "แดงร่วมกิน ทักษิณร่วมจ่าย" เพราะทุนทั้งหมดเป็นของพ.ต.ท.ทักษิณ

โต้ข้อหาดับเบิ้ลสแตนดาร์ดพธม.

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าส่วนที่กลุ่มนปช.พาดพิงรัฐบาลว่า 2 มาตรฐาน เพราะไม่มีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น กลุ่มพันธมิตรฯยืนยันแล้วว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบ เพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์ ขอชี้แจงว่าการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงแต่ละครั้งรัฐบาลพิจารณาถึงสถานการณ์และข้อมูลจากงานด้านการข่าวอย่างรอบ คอบว่าผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไร มีแนวโน้มอย่างไร สุ่มเสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรงหรือไม่ ครั้งนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันว่าจะชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ดังนั้นรัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง เพราะเป็นการชุมนุมสงบ อหิงสา ซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมาย แต่คนเสื้อแดงที่ชุมนุม 2 ครั้งที่ผ่านมาแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะมีการประกาศว่าจะปิดล้อมสถานที่ราชการและบ้านสี่เสาเทเวศร์ จะเดินขบวนป่วนเมือง และจะเคลื่อนตัวมาที่ลานพระบรมรูปทรงม้าซึ่งเป็นเขตพระราชฐาน รัฐบาลประเมินแล้วว่าอาจเกิดความรุนแรงจึงต้องประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อป้องปรามปัญหาที่จะเกิดไว้ก่อน หากคนเสื้อแดงจะให้รัฐบาลปฏิบัติเช่นเดียวกับคนเสื้อเหลือง ตนก็อยากเรียกร้องให้คนเสื้อแดงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบของกฎหมาย รัฐบาลจะไม่ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงแน่นอน

แม้วบินอ้อมไทยกลับดูไบแล้ว

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่านายปรัก โสคน รมช.ประจำสำนักรัฐมนตรีกัมพูชายืน ยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา แล้วเมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ย. โดยเครื่องบินโดยสารส่วนตัว หลังจากพำนักอยู่ในกัมพูชาเป็นเวลา 4 วัน ท่ามกลางความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชาตึงเครียด โดยในช่วงเย็นวันที่13 พ.ย. สมเด็จฮุนเซนพาพ.ต.ท.ทักษิณออกรอบตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟในเมืองเสียมเรียบด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยจุดหมายปลายทางของเครื่องบินลำดังกล่าว

นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยกว่า 50 คน เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศกัมพูชา ว่า ล่าสุดพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากกัมพูชาเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. กลับดูไบ โดยมีสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมคณะส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางไปส่งที่สนามบินพนมเปญ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าคงต้องใช้เวลาบินนานกว่าเดิม เนื่อง จากต้องบินอ้อมน่านฟ้าไทยเพราะได้รับรายงานเรื่องความไม่ปลอดภัย คาดว่าประมาณ 7-8 ชั่วโมงจึงจะถึงดูไบ

ฮุนเซนแจงตั้งแม้วช่วยเขมรเลิกจน

นายไพจิตกล่าวต่อว่า การพบปะพูดคุยระหว่างส.ส.กับพ.ต.ท.ทักษิณที่โรงแรมในเมืองเสียมราฐประมาณ 2 ชั่วโมง บรรยา กาศเป็นไปอย่างเป็นกันเอง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวให้กำลังใจส.ส.ที่ทุ่มเททำหน้าที่ในสภาช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าการที่รัฐบาลมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมจนทำให้สภาล่มนั้นจะเป็นตัวสะท้อนการทำหน้าที่ของรัฐบาล จึงกำชับให้ส.ส.ตั้งใจทำหน้าที่ในสภาให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลให้ทำอย่างจริงจัง สาเหตุที่พ.ต.ท.ทักษิณให้ความสำคัญกับงานในสภานั้นเพราะเห็นว่าที่ผ่านมาส.ส.ยังไม่เก่งเรื่องงานสภา ถ้าส.ส.ตั้งใจทำหน้าที่ ประชาชนที่ดูอยู่จะเห็นเอง นอก จากนี้ นายกฯกัมพูชากล่าวต้อนรับคณะส.ส. ตอนหนึ่งว่า การตั้งพ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนั้นเพราะเชื่อว่าพ.ต.ท. ทักษิณตลอดจนส.ส.พรรคเพื่อไทยจะใช้ความรู้ความสามารถช่วยแก้ปัญหาความยากจนให้ชาวกัมพูชาได้ รวมทั้งหวังว่าจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาให้ดีขื้น ล่าสุดที่ตัดสินใจสั่งถอนทหารกัมพูชาออกจากพึ้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทเขาพระวิหารเพื่อแสดงความจริงใจว่าต้องการให้เกิดความสงบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำชับหรือชี้แจงในเรื่องอื่นๆ เป็นพิเศษหรือไม่ นายไพจิตกล่าวต่อว่า ที่พูดคุยกันมากเป็นเรื่องทั่วไป เรื่องการทำหน้าที่ส.ส.ในสภา เมื่อถามย้ำว่าได้พูดชี้แจงกรณีคำให้สัมภาษณ์เว็บไซต์เดอะไทมส์ออนไลน์ หรือล่าสุดกรณีที่ทางการกัมพูชาจับกุมตัววิศวกรชาวไทยบ้างหรือไม่ นายไพจิตกล่าวว่า กรณีของเดอะไทมส์ พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า การที่รัฐบาลพยายามโยงเรื่องให้ไปเกี่ยวกับสถาบันนั้นเป็นเพียงเงื่อนไขเท่านั้น เพราะเชื่อว่าคงหลอกลวงประชาชนไม่ได้ ส่วนการจับกุมวิศวกรชาวไทยในข้อหาเป็นสาย ลับ พ.ต.ท.ทักษิณมองว่ารัฐบาลพยายามทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ สร้างภาพปล่อยข่าวโยนภาพลบให้กัมพูชาและพ.ต.ท.ทักษิณ

พท.เผยพบแม้วเหมือนชาร์จแบตฯ

ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ สุนทรชัย ส.ส.หนอง คาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณส่วนใหญ่เป็นเรื่องทั่วไป สอบถามทุกข์สุขซึ่งกันและกัน เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาหรือประเด็นการเมืองไม่ได้ยกมาพูดคุย พ.ต.ท.ทักษิณประเมินท่าทีของรัฐบาลว่าหากทางไทยสั่งปิดชายแดนจะเป็นผลเสียกับประเทศไทยเอง เพราะถือเป็นการปิดโอกาสทางการค้าการลงทุน แต่จะเป็นประโยชน์กับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น จีนและเวียดนาม ทั้งนี้ ตนได้สอบถามพ.ต.ท.ทักษิณถึงข่าวสมเด็จฮุนเซนเตรียมสร้างบ้านพักให้ในกัมพูชา พ.ต.ท.ทักษิณยอมว่าเป็นเรื่องจริง แต่ได้ปฏิเสธไป โดยให้เหตุผลเรื่องความสะดวกและระบบการรักษาความปลอดภัย พักที่โรงแรมจะสะดวกกว่า

"การเดินทางของส.ส.ครั้งนี้เหมือนเป็น การไปชาร์จแบตฯ แม้ส.ส.บางคนจะไม่ได้เดินทางไป แต่พ.ต.ท.ทักษิณยังนึกถึงและฝากให้ทำหน้าที่ให้ดี อย่าขี้เกียจที่จะชี้แจงการทำงานให้ประชาชนทราบ ก่อนเปิดประชุมสภาสมัยหน้า ส.ส.จะรวมตัวกันเพื่อเดินทางไปเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณกันอีกครั้ง" ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์กล่าว

เผยฮุนเซนลั่นขอพาแม้วกลับไทย

ด้านนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทร ปราการ พรรคเพื่อไทย เผยว่า สมเด็จฮุนเซนและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลกัมพูชาอีกหลายคนต้อนรับคณะส.ส.จากพรรคเพื่อไทยอย่างอบอุ่นและเป็นเกียรติ สมเด็จฮุนเซนบอกกับพวกตนว่าเป็นกำลังใจให้พ.ต.ท. ทักษิณ และจะขอเป็นกลไกพาพ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทย เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณถือเป็นบุคคลสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จฮุนเซนประทับใจกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองราชย์ครบ 60 ปี ซึ่งรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณจัดได้ยิ่งใหญ่มาก พร้อมยืนยันด้วยว่ากัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย เพียงแต่มีปัญหากับบุคคลบางคนในรัฐบาล โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายกษิต ภิรมย์

นายประชากล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณบอกกับพวกตนว่าการทำหน้าที่ที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลกัมพูชาจะช่วยประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง เพราะหากเศรษฐกิจในกัมพูชาดี ปัญหาต่างๆ อาทิ การลักลอบเข้าเมืองเพื่อมาขายแรงงานหรือยาเสพติดก็จะหมดไปจากชายแดน รวมไปถึงยังช่วยกระตุ้นธุรกิจของคนไทยในกัมพูชาอีกด้วย สำหรับกรณีเรื่องความไม่จงรักภักดีนั้น พ.ต.ท. ทักษิณระบุว่าให้รัฐบาลเลิกพูดคำนี้ไปได้เลย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความจงรักภักดีเต็มเปี่ยม

แม้วโวไม่กลัวถูกตั้งค่าหัวลอบสังหาร

"พ.ต.ท.ทักษิณเปรียบรัฐบาลนี้ว่าเหมือนกับกำลังเผาไร่อ้อยเพื่อจับหนูเพียงตัวเดียว เมื่อเผาอ้อยในไร่ของตัวเองจนเสียหายยับเยินหมดแล้ว แต่ไม่สามารถจับหนูได้เลยหันมาเผาไร่อ้อยที่อยู่ข้างๆ ด้วย" นายประชา กล่าว และว่า ตนมีโอกาสบอกเล่าข้อมูลการตั้งทีมลอบสังหารโดยตั้งค่าหัว 150 ล้านบาทให้พ.ต.ท.ทักษิณฟัง พ.ต.ท.ทักษิณบอกกับตนว่า "คนเราเกิดมาก็ต้องตาย ผมไม่กลัว แต่คนที่จะลอบฆ่าผม ผมทำผิดอะไร วันนี้คนชั่ว คนโกงเต็มบ้านเมืองไปหมด ไม่น่าจะฆ่าผม เอาผมไปใช้ให้เป็นประโยชน์จะดีกว่า" ซึ่งพวกตนได้แต่เตือนพ.ต.ท.ทักษิณไปว่าข่าวดังกล่าวหน่วยความมั่นคงยืนยันตรงกันหมด พ.ต.ท.ทักษิณไม่ควรประมาท

ส่งทนายขู่ฟ้องหมิ่นประมาท

ที่โรงแรมทาวน์อินน์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล และนายอุดม โปร่งฟ้า ทีมทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงเตือนบุคคลและสื่อมวลชนให้ยุติการกระทำใดๆ อันเป็นการใส่ความหมิ่นประมาทพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะประเด็นการกล่าวหาว่าขายชาติ และไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ซึ่งไม่เป็นความจริงและไม่อาจยอมรับได้ หากมีการใส่ความหมิ่นประมาทอีกจะดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี 3-4 ราย

พัลลภชี้ไทยไม่พร้อมทำสงคราม

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "ลับ ลวง พราง" ทางคลื่นเอฟเอ็ม 100.5 เมกะเฮิร์ตซ์ ถึงท่าทีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยขณะนี้ว่า สถานการณ์ยังก้ำกึ่งอยู่ ต้องดูนานๆ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ตอนนี้เป็นแค่ออร์เดิร์ฟ ส่วนกรณีที่หลายคนระบุว่าเราควรทำสงครามกับกัมพูชาเพราะเราชนะแน่นอน ในความเห็นของตนไม่อยากพูดว่าแพ้หรือชนะ แต่อยากพูดว่าวันนี้เราไม่พร้อมทำสงคราม เพราะต้องใช้เงินหลายแสนล้านบาท แต่วันนี้เราไปกู้เงินมาพัฒนาประเทศ 8 แสนล้านบาท เราจะกู้เงินเขามาทำสงครามอีกหรือ

"ผมประเมินว่าไม่ถึงสงคราม แต่เราไม่พร้อมจริงๆ เพราะการทำสงครามไม่รู้จะใช้อีกกี่แสนล้าน และหากเราจะทำสงครามกับกัมพูชา เราจะทำสงครามแบบโดดเดี่ยว ประเทศเดียว เราไม่มีมิตรประเทศช่วยเลย ตรงข้ามกับกัมพูชาที่จะมีลาว เวียดนาม จีนสนับสนุน ถ้าเราทำสงครามประเทศชาติจะตกทุกข์ได้ยากแสนสาหัส อาจถึงล้มละลาย" พล.อ.พัลลภกล่าว

ย้อนอดีตจิ๋วช่วยเจรจาหย่าศึกเขมร

เมื่อถามว่าเหตุใดพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณจึงเดินทางไปกัมพูชา จนทำให้เกิดการยั่วยุ พล.อ.พัลลภกล่าวว่า พล.อ.ชวลิตมีความผูกพันกับสมเด็จฮุนเซนมาก คงจำได้ช่วงที่เวียดนามใต้แตก สงครามเข้ามาในกัมพูชา พร้อมจะลามมาในไทย เรายกกำลังไปชาย แดนเพื่อตั้งรับ กัมพูชาแบ่งออกเป็น 4 ฝ่าย ช่วงนั้นตนมีโอกาสได้ไปควบคุม เรามอง แล้วว่าหากเกิดสงครามและลามมาในไทย จะทำให้เราสูญเสียมหาศาล พล.อ.ชวลิตจึงเสี่ยงเข้าไปอยู่กับกัมพูชาคือฝั่งฮุนเซน ไปเจรจาจนเขมร 4 ฝ่ายยอมตกลงมาร่วมกันตั้งรัฐบาล

"การที่พล.อ.ชวลิตและพ.ต.ท.ทักษิณเข้าไป เพราะเห็นประโยชน์ของประเทศชาติเรา คือท่านไม่อยากให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศขึ้นมา เพราะไทยมีปัญหากับประเทศรอบบ้าน ท่านเข้าไปในลักษณะที่ไปสร้าง เพราะท่านมีลักษณะพิเศษคือเป็นคนที่สมานฉันท์ ท่านไปคราวนี้เห็นชัดว่าไปขอร้องให้ทหารกัมพูชาถอนกำลังออกจากเขาพระวิหาร ซึ่งวันนี้เขาทำแล้ว โดยถอนกำลังหลักออกไป แต่มีกำลังบางส่วนที่ยังอยู่" พล.อ.พัลลภกล่าว

อัดผลงานรบ.สร้างหนี้บี้ทักษิณ

ต่อข้อถามถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาให้สมเด็จฮุนเซน พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนมีความสามารถด้านธุรกิจ จะเห็นว่าหลายประเทศในอาหรับเชิญไปเป็นที่ปรึกษา หากให้คำปรึกษาแล้วทำให้เศรษฐกิจกัมพูชาเดินไปได้ดีมาก ผลลัพธ์จะตกมาอยู่ประเทศไทย เพราะปีที่แล้วเราขายสินค้าให้กัมพูชา 6 หมื่นล้านบาท แต่กัมพูชาขายของให้เราแค่ 3 พันล้านบาท และปีหน้าเราอาจขายของให้กัมพูชาถึงแสนล้านบาท นี่คือผลทางอ้อม

เมื่อถามว่า คนมองว่าพ.ต.ท.ทักษิณทำ ให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาขัดแย้งมากขึ้น พล.อ.พัลลภกล่าวว่าความคิดคนหลากหลาย วันนี้ถามว่ารัฐบาลอยู่มา 9 เดือนทำอะไรบ้าง ทำอยู่ 2 อย่างคือสร้างหนี้กับบี้ทักษิณ คือพ.ต.ท.ทักษิณไปอยู่ไหน ประเทศนั้นต้องเป็นศัตรูกับประเทศไทยหมด ขนาดพวกตนมาอยู่เพื่อไทยก็บอกว่าพวกตนทรยศชาติ ทั้งที่ตลอดชีวิตตนเสียสละเพื่อประเทศชาติราชบัลลังก์มาตลอด เรื่องแบบนี้อย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น

เชื่อจิ๋วไม่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ

ต่อข้อถามว่าช่วงนี้พ.ต.ท.ทักษิณเสียคะแนนไปมาก มองว่าก้าวพลาดตรงไหน พล.อ.พัลลภกล่าวว่าคงเป็นการให้สัมภาษณ์ แต่ท่านยอมรับว่าภาษาอังกฤษไม่เก่ง กลอนพาไป ส่วนจะถูกหรือไม่ถูกให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ขณะนี้คงไม่มีแผนอะไร พล.อ.ชวลิตและตนคงเดินเกมการเมืองของเราคือสร้างความเข้าใจกับคนทั้งประเทศว่าพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์อย่างไรในการทำให้ประเทศมั่นคง ประชาชนอยู่อย่างสันติสุข

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพล.อ.ชวลิตจะไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯวันที่ 15 พ.ย.นี้ พล.อ. พัลลภกล่าวว่าตนเพิ่งคุยกัน พล.อ.ชวลิตไม่ได้พูดเรื่องนี้ แค่บอกว่าจะไปเยี่ยมพม่า มาเลเซีย จีน คิดว่าไม่ขึ้นแน่นอน หากจะขึ้นคงไม่เหมาะสม เมื่อถามว่าพล.อ.ชวลิตโทร.หานายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ขอขึ้นเวทีเพื่อความสมาน ฉันท์ พล.อ.พัลลภกล่าวว่าเป็นไปได้ เพราะพล.อ.ชวลิตพยายามประนีประนอมให้คนไทยทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนเคยเชิญพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ มาพบครั้งหนึ่ง บอกว่าอย่าแตกแยกกัน

เมื่อถามถึงกรณีที่เพื่อไทยเปิดเผยว่ามีแผนลอบทำร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.พัลลภกล่าวว่าไม่ทราบ แต่ฟังจากกัมพูชาที่จับคนไทยที่เป็นสายลับเอาไฟลต์บินของพ.ต.ท. ทักษิณมาให้สถานทูตไทย ซึ่งกัมพูชามองว่าเป็นการจารกรรมความลับ เพราะเขาต้องสร้างความปลอดภัยให้พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเส้นทางจากกัมพูชาไปดูไบมี 2 เส้นทางบิน คือผ่านน่านฟ้าไทยกับลงไปทางอ่าวไทยผ่านมาเลเซีย กัมพูชาต้องสร้างความปลอด ภัยที่สุดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หากผ่านน่านฟ้าไทยแล้วเราส่งเครื่องบินรบไปบังคับให้ลงมา ดังนั้นเขาจึงถือว่าเป็นความลับสุดยอด

เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณมีค่าหัว 150 ล้าน และกลุ่มลอบทำร้ายเป็นกลุ่มเดิมที่เคยพยายามสังหาร โดยมี "ส" เป็นผู้บงการ พล.อ.พัลลภกล่าวว่าไม่ทราบ แต่เป็นเรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณต้องระวังตัว เพราะเขาทำอยู่ 2 อย่าง คือสร้างหนี้กับบี้ทักษิณ

"ปัญญาสยาม"ส่งจม.ท้วงแม้ว-ฮุนเซน

ศ.น.พ.ประมวล วีรุตมเสน ประธาน เครือข่ายปัญญาสยาม และผศ.น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ เลขาธิการเครือข่ายปัญญา สยาม ทำจดหมายเปิดผนึกแถลงการณ์กรณีปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา วันที่ 12 พ.ย. แจ้งว่าตามที่สมเด็จสีหมุนีกษัตริย์กัมพูชาประกาศแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ ตามคำแนะ นำของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน และรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธที่จะส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยอ้างว่าเป็นคดีการเมือง และพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รับความยุติธรรมในการดำเนินคดี ทั้งๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกพิพากษาโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ภายใต้พระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ไทยตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่ในช่วงรัฐบาลประชา ธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้สมเด็จฮุนเซนยังบอกอีกว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพื่อนกับเขาตั้งแต่ก่อนพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี มิหนำซ้ำสมเด็จฮุนเซนยังก้าวล่วงเสนอให้นายกฯอภิสิทธิ์ยุบสภา และบอกว่าเมื่อเลือกตั้งใหม่พรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน ล่าสุดพ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์นักข่าวอังกฤษจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ไทยอย่างรุนแรง เครือข่ายปัญญาสยามได้ศึกษาปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา อันเนื่องมาจากการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณและสมเด็จฮุนเซนแล้วนั้น เครือข่ายปัญญาสยามขอแถลงดังนี้

อัดฮุนเซนไร้มารยาทหนุนรบ.ตอบโต้

1.นายกรัฐมนตรีฮุนเซนไร้มารยาท ก้าวล่วงในการวิพากษ์การปฏิบัติหน้าที่ของศาลไทย ในการพิพากษาคดีพ.ต.ท.ทักษิณ โดยมิได้คำนึงว่าศาลไทยนั้นปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ และอยู่ในช่วงเวลาที่มีรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง การวิพากษ์ของสมเด็จฮุนเซนจึงมีผลกระทบต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยและราชอาณาจักรไทยโดยตรง รัฐบาลไทยจะต้องชี้แจงให้สมเด็จฮุนเซนและทั่วโลกเข้าใจว่า คดี ของพ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกพิพากษาจำคุกเป็นคดีอาญา อันเนื่องมาจากการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ และได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมอย่างถูกต้องต่อเนื่อง และพ.ต.ท.ทักษิณก็ได้กลับมาต่อสู้คดีโดยตลอดก่อนที่พ.ต.ท. ทักษิณจะหนีออกนอกประเทศก่อนการอ่านคำพิพากษา การไม่ยอมรับในคำพิพากษา และกระบวนการยุติธรรมของศาลไทย และการไม่ทำตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ถือเป็นการกระทำที่ไร้มารยาทและผิดหลักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง สมเด็จฮุนเซนจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกระบวนการยุติธรรมของไทยเสียใหม่ และกล่าวขอโทษประเทศไทยและศาลไทยโดยทันที ตลอดจนการส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อกลับมารับโทษในประเทศไทย เครือข่ายปัญญาสยามขอสนับสนุนรัฐบาลไทยที่ดำเนินการทางการทูตอย่างเหมาะสม โดยการเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศไทย และมาตรการอื่นๆ ที่จะตามมา จนกว่าสมเด็จฮุนเซนและกัมพูชาจะเปลี่ยนท่าที และปฏิบัติตามมารยาทและกฎหมายระหว่างประเทศตลอดจนสนธิสัญญาระหว่างประเทศทั้งสอง

ข้องใจผลประโยชน์ร่วมเอ็มโอยู

2.การที่เกิดกรณีเหล่านี้ขึ้น เพราะพ.ต.ท. ทักษิณและสมเด็จฮุนเซนคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวร่วมกัน โดยเอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกเปลี่ยน เห็นได้จากการที่พ.ต.ท.ทักษิณลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ปีพ.ศ.2544 ทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์อันพึงได้จากแหล่งพลังงานในทะเลซึ่งเป็นของประเทศไทย แต่พ.ต.ท.ทักษิณกลับไปตกลงยอมรับเส้นแบ่งเขตทางทะเลที่กัมพูชาเขียนขึ้นอย่างไม่ถูกต้องตามหลักสากลและเอาเปรียบประเทศไทย โดยพ.ต.ท.ทักษิณกับสมเด็จฮุนเซนอาจจะได้ประโยชน์จากสัมปทานก๊าซและน้ำมันในภายหลังผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนต่อไป แม้ว่าปตท.จะได้สัมปทานบางส่วนก็ตาม เครือข่ายปัญญา สยามขอสนับสนุนรัฐบาลไทยที่ประกาศทบทวนบันทึกข้อตกลง (MOU) ปีพ.ศ. 2544 และพันธกรณีอื่นๆ ที่ประเทศไทยเสียเปรียบ

3.คำสัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณที่จาบจ้วงกล่าวร้ายต่อสถาบันกษัตริย์ ในห้วงเวลาที่คนไทยที่จงรักภักดีรวมใจภักดิ์ถวายพระพรให้พระองค์หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว แสดงถึงความในใจเบื้องลึกที่แท้จริงที่พ.ต.ท.ทักษิณมีต่อสถาบันกษัตริย์ ว่ามิได้มีความจงรักภักดีอย่างที่เคยกล่าวอ้าง ถึงเวลาแล้วที่คนไทยทั้งชาติจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของพ.ต.ท.ทักษิณและพวกพ้อง ว่ามิได้มีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชวงศ์เลย แต่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัวเป็นสำคัญ โดยประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังยากจน ข้นแค้นอยู่เหมือนเดิม

ยะใสโวพันธมิตรชุมนุมครึ่งแสน

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าที่เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ เปิดเผยถึงการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในช่วงเย็นวันที่ 15 พ.ย.ว่าเพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันของชาติ โดยมีกลุ่มเครือข่ายจากภาคต่างๆ ทั่วประเทศตอบรับเข้าร่วมชุมนุมแล้วไม่ต่ำกว่า 20-30 เครือข่าย แกนนําประเมินสถานการณ์ว่าหากฝนไม่ตกคาดจะมีผู้ร่วมชุมนุมไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคนแน่นอน ทั้งนี้จะปักหลักชุมนุมอยู่ที่ท้องสนามหลวงโดยไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ใดทั้งสิ้น และจะสลายการชุมนุมเวลา 23.00 น.

นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า การชุมนุมครั้งนี้จะไม่เป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้าใดๆ ส่วนการปราศรัยบนเวทีจะเน้นการอธิบายข้อเท็จจริง เบื้องหน้าเบื้องหลัง ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ขณะนี้ทุกฝ่ายไม่ควรห่วงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ต้องช่วยกันคิดว่าประเทศไทยจะตัดความสัมพันธ์กับกัมพูชาแบบใดไม่ให้เสียเปรียบ เพราะการประคับประคองความสัมพันธ์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเวลาแล้วที่ต้องพูดกับกัมพูชาอย่างตรงไปตรงมา

"เด็จพี่"แฉคนใกล้มาร์คปลุกม็อบ

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรว่า ทราบมาว่ามีนักการเมืองในรัฐบาลอักษรย่อ "ส" "ช" "บ" ที่ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี กระทำการปากว่าตาขยิบ เป็นอีแอบการเมือง ร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร โดยปลุกระดมชาวบ้านและเกณฑ์ให้มาร่วมชุมนุมในวันดังกล่าว ในจังหวัดเล็กจำนวน 500 คน จังหวัดใหญ่ 1,000 คน รวมประมาณ 5 หมื่นคน เพื่อปลุกลัทธิคลั่งชาติแบบชาตินิยม โดยจะนำคำสัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณที่ลงในไทมส์ออนไลน์มากล่าวหาว่าพ.ต.ท.ทักษิณ หมิ่นสถาบัน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการปลุกกระแส เพื่อหวังดิสเครดิตขั้วอำนาจฝั่งตรงข้าม ทั้งที่ความจริงนายอภิสิทธิ์เติบโตอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้ผูกพันกับสถาบันเหมือนพ.ต.ท.ทักษิณที่โตในเมืองไทยและเรียนโรงเรียนนายร้อย

มอบกระจกให้ปชป.ส่องเหตุสภาล่ม

นายพร้อมพงศ์แถลงถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าสาเหตุการที่การประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 13 พ.ย.เพื่อพิจารณากรอบการเจรจาระหว่างประเทศต้องยุติเพราะส.ส. พรรคเพื่อไทยโดดประชุมสภา เพื่อเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณว่า ขอย้อนถามกลับไปยังพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะนายสาทิตย์ว่าเคยสำรวจพรรคตัวเองและพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ในฐานะที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก เพราะตั้งแต่พรรคประชาธิปัตย์บริหารงานเป็นรัฐบาลมา 11 เดือน ทำให้การประชุมสภาล่มไปแล้ว 10 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถคุมเสียงของพรรคร่วมได้ เพราะส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 4 คนและส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นจำนวนมากยังขาดประชุมในวันดังกล่าว

"การแถลงข่าวแบบขาดวุฒิภาวะ โยนบาปให้คนอื่นแบบนี้ ผมขอฝากกระจกไปให้พรรคประชาธิปัตย์เอาไปส่องดูตัวเองก่อนว่าเหตุที่สภาล่มเป็นเพราะใคร สาเหตุมาจากความไม่เป็นเอกภาพในการทำหน้าที่หรือไม่ การที่สภาล่มยังสะท้อนให้เห็นว่าการ ทำหน้าที่ของนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาลมีปัญหา จึงขอเรียกร้องไปยังประธานวิปรัฐบาลให้ลาออกจากตำแหน่ง อย่าโยนบาปมาที่ฝ่ายค้าน ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ควรยุบสภาเช่นกัน อย่าอยู่แบบหน้าด้านๆ ซื้อเวลาไปวันๆ" นายพร้อมพงศ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยจะอธิบายกับประชาชนอย่างไรที่ส.ส.ของพรรคไม่ทำหน้าที่ส.ส.แต่กลับเดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่าส.ส. พรรคเพื่อไทยมีจำนวน 187 คน แต่คนที่ลาไปมี 50 คนเท่านั้น การควบคุมองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และเหตุการณ์สภาล่มไม่ได้เกิดขึ้นแค่เมื่อวันที่ 13 พ.ย.เท่านั้น แต่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ถึง 9 ครั้ง ขอถามไปถึงฝ่ายบริหารว่าการเร่งให้ฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณากรอบการเจรจาระหว่างไทย-สิงคโปร์ เพราะนายกรัฐมนตรีต้องไปประชุมเอเปกจึงต้องรีบผ่านกฎหมายให้ทัน เป็นการทำแบบสุกเอาเผากิน

พท.ปูดสินบนตั้งรองอธิบดีเกษตร

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคเพื่อไทยว่า ตนขอถามกลับว่าช่วง 11 เดือนที่พล.ต.สนั่นบริหารงานมามีผลงานเป็นรูปธรรมหรือไม่ ถ้ามีกรุณาช่วยตอบที ตามพรรคเพื่อไทยได้ข้อมูลสำคัญชิ้นหนึ่ง มีนักการเมืองผู้มากด้วยบารมี 2 คน อักษรย่อ "ส" และ "ท" ทั้ง 2 คนนี้พล.ต.สนั่นรู้จักดี ทำตัวเป็นเจ้าหน้าที่เก็บเงินค่าทางด่วนราคาถึง 8 หลัก จำนวนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านขึ้นไปเพื่อแลกกับตำแหน่งรองอธิบดีในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.ต.สนั่นจะตอบเรื่องนี้อย่างไร

ชวนตอกกลับพท.ถึงอยู่ก็ไม่โหวต

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาที่มีปัญหาล่มบ่อยครั้งว่าปกติส.ส. พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปกัมพูชาหรือไม่ไปก็จะไม่เสียบบัตรลงคะแนนอยู่แล้ว ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ทั้งที่ส.ส.นั่งอยู่จำนวนมาก เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์พูดคุยกันว่าต่อไปต้องปรับปรุงแก้ไขเรื่องการนับองค์ประชุม ทั้งนี้ การประชุมร่วมรัฐสภาเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย เพราะองค์ประชุมต้องประกอบไปด้วยสมาชิก 2 สภา ในส่วนของประชาธิปัตย์จะไม่ไปดูพรรคอื่น แต่จะดูแลกันในส่วนของพรรค หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรขาดประชุม โดยทั่วไปถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี มีคนที่ป่วยชัดเจนก็คือนายทิวา เงินยวง ส.ส.กทม. ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล คนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ขาดมีจำนวนไม่มาก ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่สภาล่มหลายครั้งเป็นเกมการเมืองเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตรงนี้รู้กันอยู่แล้ว ถึงแม้เขาอยู่เขาก็ไม่กด เขาประกาศชัดเจน ไม่มีการปกปิด เป็นการบอกให้รู้ชัดว่าเพื่อให้ทำงานไม่ได้

เชื่อฮุนเซนได้ข้อมูลผิดพลาด

"มีกฎหมายบางฉบับที่มีความแค้นส่วนตัว เช่น กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เห็นได้ชัดเจนว่ามีเจตนาเล่นงานศาลรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการอภิปรายทุกครั้งมักจะกล่าวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ เหมือนเป็นศัตรูมาตั้งแต่หลายชาติ อันนี้จึงพอจะเข้าใจว่ายุคนี้วิ่งเต้นศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ ทำให้เกิดมีความรู้สึกอคติ ซึ่งไม่ยุติธรรมต่อศาลรัฐธรรมนูญ เช่น การไปให้ข้อมูลที่ผิดๆ กับผู้นำกัมพูชา จนกระทั่งออกมากล่าวพาดพิงในทางที่ไม่ให้เกียรติศาลไทย" นายชวนกล่าว

นายชวนกล่าวว่า ศาลไทยเป็นศาลที่ได้รับการยอมรับในภูมิภาคนี้ และมีความต่อเนื่องของสถาบันที่เข้มแข็งเป็นเวลานับร้อยปี การให้ข้อมูลกับผู้นำต่างประเทศแล้วมาวิจารณ์ศาลไทยเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง คนที่ไปให้ข้อมูลอย่างนั้นต้องถูกประณาม สมเด็จฮุนเซนคงไม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เราในทางที่เสียหายหากไม่มีคนให้ข้อมูลที่ผิดพลาด เพราะฉะนั้นอยากฝากเตือนไปถึงรัฐบาลว่าการดำเนินการต่างๆ จะต้องทำตามขอบเขตกฎหมาย อย่าไปทำอะไรที่ผิดๆ ถึงแม้วิธีที่เขาทำเราจะไม่เห็นด้วยก็ตาม เพราะในวันข้างหน้ามันจะผูกมัดเรา

ชี้ให้ดูศาลแคนาดาเป็นตัวอย่าง

เมื่อถามถึงกรณีสมเด็จฮุนเซนปฏิเสธที่จะส่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากในอดีตไทยเคยไม่ส่งนายซก เยือน ผู้ต้องหาคนสำคัญของกัมพูชาตามที่สมเด็จฮุนเซนร้องขอ นายชวนกล่าวว่าไม่เกี่ยวกันโดยสิ้นเชิง เพราะประเทศไทยให้ความร่วมมือกับนานาประเทศเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาโดยตลอด

"ขอให้กัมพูชาดูการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศแคนาดาเป็นตัวอย่าง การดำเนินการจะต้องเป็นอำนาจของศาล ไม่ใช่อำนาจของรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีที่จะบอกว่าจะให้หรือไม่ให้ ทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกระบวนการของศาล ซึ่งเป็นระบบสากล ผมไม่ทราบว่ากฎหมายกัมพูชาว่าไว้อย่างไร เรื่องของความร่วมมือกับประเทศชาติ แต่รัฐบาลต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อกัมพูชาไม่ให้เราก็ต้องดูว่าในข้อกฎหมายนั้นทำอะไรได้ ข้อตกลงส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเขียนไว้อย่างไร ประเทศเขาว่าอย่างไร การวินิจฉัยว่าส่งหรือไม่ส่งกฎหมายเขาเหมือนกับเราหรือไม่ ต่างกับเราหรือไม่ แต่กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ กัมพูชาพูดล่วงหน้าก่อน แสดงว่าตั้งใจไม่ส่งตัว" นายชวนกล่าว

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEUxTVRFMU1nPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09TMHhNUzB4TlE9PQ==