Advertisement
"ลักเด็ก"ส่อวุ่น 2บ้าน-แย่งลูก
พ่อแม่ลูก- พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์ เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. พานายจ่อย ลากุล กับ น.ส.บุญนำ ทิพโสด ไปพบน้องหญิง ลูกสาววัย 6 ขวบ ที่อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี หลังถูกลักตัวจากสนามหลวงเมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อวันที่ 14 พ.ย.
|
คดีลักเด็กส่อเค้าวุ่น หลังพงศพัศพา"พ่อจ่อย-แม่บุญนำ"พบลูกที่อุดรฯแล้ว ส่วนเด็กจะอยู่กับใครยังต้องรอ"พม.-ผู้ว่าฯ"ถกขั้นตอนและตัดสิน ส่วนกรณีน้องอีฟตำรวจยังสับสนไม่รู้เป็นลูกใคร เหตุผู้ต้องหาให้การขัดแย้ง เตรียมตรวจดีเอ็นเอผู้เกี่ยวข้องพิสูจน์ความสัมพันธ์
จากกรณีลักพาเด็กจากสนามหลวงไปขายที่จ.อุดรธานี ความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส.สน.ชนะสงคราม กล่าวว่า ได้เรียกตัวนางช้อน สีส่อง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหา และนายภิราช สารพูลทรัพย์ อายุ 45 ปี มาสอบปากคำ โดยผู้ต้องหาอ้างว่านายภิราชเป็นพ่อของด.ญ.อีฟ (นามสมมติ) เด็กที่อยู่กับนางช้อน จากการสอบปากคำยังไม่มีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการลักพาตัวเด็กเพิ่ม ขณะเดียวกันประสานกับสภ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ช่วยสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่าผู้ต้องหานำเด็กไปเร่ขาย นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนสน.ชนะ สงครามได้เดินทางไปสอบปากคำเด็กที่ถูกลักตัวไปจากสนามหลวงทั้งสองรายที่อยู่จ.อุดรธานี คือ น้องอีฟและน้องหญิง (นามสมมติ) เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีต่อไป
พ.ต.ท.สมยศกล่าวอีกว่า ในส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าน้องอีฟเป็นบุตรสาวของนายภิราช กับอดีตภรรยาเก่าที่มาฝากให้เลี้ยงนั้น ขัดกับคำให้การของนายภิราชที่ให้การไว้ว่า น้องอีฟเป็นบุตรสาวที่เกิดกับผู้ต้องหา ทำให้ยังเกิดความสับสนว่า ในข้อเท็จจริงน้องอีฟเป็นลูกของใคร จึงจะพานายภิราชไปร่วมพูดคุยเรื่องนี้กับผู้ต้องหาในเรือนจำอีกครั้ง หากผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นลูกที่เกิดกับนายภิราชก็จะเกลี้ยกล่อมให้ตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ตามขั้นตอนต่อไปเพื่อให้ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม การตรวจดีเอ็นเอนั้นไม่สามารถบังคับผู้ต้องหาไปตรวจได้
พ.ต.ท.สมยศกล่าวต่อว่า หากพบว่าน้องอีฟไม่ใช่บุตรของนายภิราชกับนางช้อน ก็เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวมาตั้งแต่เล็กๆ และต้องดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป รวมถึงอาจต้องเรียกตัวบุตรชายของนางช้อนกับสามีเก่ามาสอบปากคำ ในประเด็นที่มีข้อมูลว่านางช้อนเป็นหมัน ส่วนในรายของน้องหญิงนั้น ทราบว่าบิดาและมารดาได้เดินทางไปจ.อุดรธานีแล้ว และจะตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์กันที่จ.อุดรธานีเลย
สว.สส.สน.ชนะสงครามกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้จะนำคดีเด็กหายในท้องที่ที่ผ่านมา มาตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีคดีเด็กหายคดีใดที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ในพื้นที่สน.ชนะสงครามโดยเฉพาะท้องสนามหลวงมีแจ้งความเด็กหายบ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการพลัดหลงกับผู้ปกครอง
เวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท. พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษกตร. เดินทางไปที่สภ.ศรีธาตุ จ.อุดร ธานี พร้อมด้วยนายจ่อย ลากุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเช่าเลขที่ 71/4 ต.ไผ่ลิง อ.พระนคร ศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และน.ส. บุญนำ ทิพโสด หรือดาว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 13 ต.บ่อโพธิ์ อ.นคร ไทย จ.พิษณุโลก พ่อแม่ด.ญ.หญิง อายุ 6 ขวบ เพื่อให้พบกับน้องหญิง หลังจากถูกนางช้อนลักพาตัวมาจากสนามหลวง กทม. เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าจะเดินทางไปที่บ้านที่รับเลี้ยงน้องหญิง พล.ต.ท.พงศพัศเกรงว่าพ่อแม่น้องหญิงจะเกิดการทะเลาะกันเพื่อแย่งตัวน้องหญิงไปเลี้ยงดู และจะทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นกับตัวเด็กทางด้านจิตใจ เนื่องจากนายจ่อยและน.ส.บุญนำแยกทางกันแล้ว อีกทั้งภายหลังน้องหญิงหายไป ทั้งคู่ต่างก็มีครอบครัวใหม่แล้ว พล.ต.ท.พงศพัศจึงเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมสังเกตการณ์คือ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.อุดรธานี และศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 71 ปรากฏว่าผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย ต่างก็ยืนยันต้องการพาน้องหญิงไปเลี้ยงดู
จากนั้นเดินทางต่อไปที่บ้านเลขที่ 152 ม.10 ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรฯ ของนายสุทัศน์ บุญสุใส และนางคีม โพธิ์ศรี สามีภรรยาผู้รับซื้อน้องหญิงมาจากนางช้อน และเลี้ยงดูมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อนายจ่อยและน.ส.บุญนำเห็นหน้าน้องหญิงต่างก็ถึงกับร้องไห้ เรียกน้องหญิงให้เข้ามา ซึ่งตอนแรกน้องหญิงยังไม่กล้าเข้าใกล้ ได้แต่ยืนกอดอยู่ในอ้อมอกของนางคีม ผู้เลี้ยงดู ขณะที่นายจ่อย นำตุ๊กตาผู้หญิงที่ซื้อมาฝากลูก พร้อมพาพี่ชายของน้องหญิงมาด้วย และถามน้องหญิงว่า จำพ่อแม่ และพี่ชายได้หรือไม่ สักพักน้องหญิงพยักหน้ารับ พร้อมกับบอกว่าจำได้ จากนั้นน้องหญิงให้พ่อและแม่กอดหอม
พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวว่า วันนี้ถือเป็น การให้พ่อแม่และลูกได้เจอหน้ากัน และน้องหญิงยืนยันว่าจำคุณแม่คุณพ่อได้ จากนี้ไปจะอยู่ในขั้นตอนของสำนักงานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับนายอำนาจ ผการัตน ผู้ว่าฯอุดรธานี เพื่อประชุมกำหนดขั้นตอนและตัดสินว่าจะให้น้องหญิงไปอยู่ในความดูแลของใครต่อไป
โดยพล.ต.ท.พงศพัศมอบเงินสด 10,000 บาท ให้นายสุทัศน์และนางคีมที่เลี้ยงดูน้องหญิงมา พร้อมกับนำตุ๊กตาหมีรูปตำรวจหญิง ที่พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท. ผบ.ตร. ฝากมามอบให้ด้วย บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวในตอนท้ายว่า ในส่วนของน้องอีฟนั้น ขณะนี้อยู่ในความดูแลของสำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.อุดรธานี จนกว่าจะหาพ่อและแม่เจอ จึงขอแจ้งผู้ปกครองหรือญาติที่สงสัยน้องอีฟจะเป็นลูกหลาน ติดต่อได้ที่บก.ภ.จว. อุดรธานี หรือสำนักงานบ้านพักและครอบ ครัว จ.อุดรธานี ได้ตลอดเวลา ส่วนกรณีนางช้อน สีส่อง จะต้องดำเนินคดีต่อไป ตำรวจจะขยายผลการติดตามจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ โดยให้ทุกพื้นที่รวบรวมสถิติการลักพาตัวเด็กย้อนหลังไป 3 ปี แล้วให้ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ดำเนินการอย่างเฉียบขาดต่อไป
จากนั้นพล.ต.ท.พงศพัศเดินทางต่อไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.อุดรธานี เพื่อเยี่ยมน้องอีฟ เด็กที่ถูกนางช้อนขโมยมาอีกคน
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXhNREUxTVRFMU1nPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09TMHhNUzB4TlE9PQ==
วันที่ 15 พ.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,257 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 15,587 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,740 ครั้ง |
เปิดอ่าน 20,164 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,024 ครั้ง |
เปิดอ่าน 3,138 ครั้ง |
|
|