ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กินยาให้ถูกโรค


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 18,123 ครั้ง
กินยาให้ถูกโรค

Advertisement

❝ ยังมีคนไทยอีกหลายคน ไม่แน่ใจว่าเวลาเจ็บป่วยหรือปวดตามร่างกายควรจะเลือกกินยาอะไร ระหว่าง พาราเซตามอล แอสไพริน ความรู้เรื่องนี้ของคนไทยก็ไม่ต่างจากคนอังกฤษ ❞          จากงานวิจัยชิ้นล่าสุดของ ประเทศอังกฤษ ได้ข้อสรุปที่น่าประหลาดใจว่า 1 ใน 3 ของคนอังกฤษไม่รู้ถึงความแตกต่างของ ยาแก้ปวด แต่ละชนิด เวลาไปซื้อยาที่ร้านหมอ คนอังกฤษก็มักจะเรียกหายาที่ต้องการจากชื่อยี่ห้อ โดยไม่รู้ว่ามีตัวยาอะไรอยู่ในยานั้นบ้าง

         ยาแก้ปวดที่เราคุ้นชื่อกันดีและหาซื้อได้ตามร้านขายยานั้น ส่วนใหญ่เป็นยา "สูตรเดี่ยว" ชื่อเราค่อนข้างคุ้นหูมาตั้งแต่เด็กๆ เช่น แอสไพริน พาราเซตามอล

         ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หาก ต้องกินยาแก้ปวดให้เลือกกินพาราเซตามอล หรืออะเซตามินโนเฟน (Acetaminophen) เพราะมีสรรพคุณแก้ปวดลดไข้ ไม่กัดกระเพาะ เหมือนยาแก้ปวดทั่วไป และมีผลข้างเคียงน้อย แต่ก็ไม่ควรกินต่อเนื่องนานเกิน 7 วัน เพราะหากกินเกินปริมาณมากและติดต่อกันนานๆ จะมีผลต่อตับและไต

         แอสไพรินถือเป็นยาแก้ปวดตำรับเก่าแก่ที่สุดและราคาไม่แพง มีสรรพคุณแตกต่างจากพาราเซตามอลตรงที่แก้ปวดและลดการอักเสบ

         งาน วิจัยหลายชิ้นแนะนำให้กินยาแอสไพรินวันละเม็ด เพื่อช่วยให้หลอดเลือดหัวใจไม่แข็งตัว แต่การกินยาแอสไพรินมากเกินไป ก็อาจทำให้เป็นแผลในกระเพาะอาหารและไตวายได้

         อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระมัดระวังก่อนกินยาก็คือ ยาทุกชนิดมีผลข้างเคียงมากน้อยต่างกัน หากกินผิดขนาด (กินมากหรือน้อยเกิน) หรือผิดประเภท เพราะนอกจากไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้ป่วยหนักขึ้นไปอีกก็ได้ และยิ่งช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว พากันเป็นหวัดไปตามกัน

         พอเป็นแล้วก็มักจะหันหน้าเข้าพึ่งยาแก้หวัดกันอย่างอัตโนมัติ โดยเฉพาะยาแก้หวัดบรรจุแผงหลายยี่ห้อที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดหรือร้านหมอตี๋ ทั่วไป เนื่องจากมีคุณสมบัติครอบจักรวาล ทั้งบรรเทาอาการ ปวดหัว ลดไข้ คัดจมูก ลดน้ำมูก ลดเสมหะ เจ็บคอ ฯลฯ

         ยาประเภทนี้มีส่วนผสมของฟีนิลโปรปาโนลามีน (Phenylpropanolamine) หรือพีพีเอ ที่เชื่อว่าอาจเป็นสาเหตุทำให้ผู้ใช้ยาเกิดภาวะเลือดออกในสมอง (Hemorrhagic stroke) เมื่อ 5 ปีก่อนยาแก้หวัดเหล่านี้ จึงถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศสั่งถอนออกจากท้องตลาด

         อย.แนะ นำว่า ถ้าเป็นหวัดควรเลือกกินยาเดี่ยว นอกจากจะถูกกว่าแล้ว ยังไม่ต้องรับผลข้างเคียงจากยาโดยไม่จำเป็น เป็นต้นว่า เมื่อมีไข้ ไม่มีน้ำมูก ให้กินพาราเซตามอล ซึ่งใช้แก้ไข้ปวด หากคัดจมูก จึงค่อยกินยาแอนตี้ฮิสทามิน เช่น คลอร์เฟนิรามีน เพราะตัวยานี้มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงซึม ดังนั้น หากมีไข้อย่างเดียว ไม่ต้องกินให้ง่วงกันไปเปล่าๆ

         ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ถ้าไม่หนักหนาอะไรก็นอนพักผ่อนแทน ดีกว่ากินยาแก้ปวดแบบพร่ำเพรื่อนะคะ

ข้อมูลจาก  :  สยามดารา


กินยาให้ถูกโรค

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ลูกบาศก์ของรูบิค

ลูกบาศก์ของรูบิค


เปิดอ่าน 13,459 ครั้ง
มารู้จัก Flower Ball กันเถอะ

มารู้จัก Flower Ball กันเถอะ


เปิดอ่าน 24,642 ครั้ง
10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566

10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566


เปิดอ่าน 8,110 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

กระบอกน้ำสแตนเลสกับกระบอกน้ำอลูมิเนียม แบบไหนปลอดภัยมากที่สุด ?

กระบอกน้ำสแตนเลสกับกระบอกน้ำอลูมิเนียม แบบไหนปลอดภัยมากที่สุด ?

เปิดอ่าน 23,876 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
นวัตกรรมใหม่น่าสนใจของ Power Bank ในรูปแบบเข็มขัด แปลกแค่ไหน
นวัตกรรมใหม่น่าสนใจของ Power Bank ในรูปแบบเข็มขัด แปลกแค่ไหน
เปิดอ่าน 595 ☕ คลิกอ่านเลย

3 steps พุงยุบใน 2 weeks
3 steps พุงยุบใน 2 weeks
เปิดอ่าน 21,466 ☕ คลิกอ่านเลย

5 ผักธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กินมากไประวังอาการเหล่านี้!!
5 ผักธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กินมากไประวังอาการเหล่านี้!!
เปิดอ่าน 43,940 ☕ คลิกอ่านเลย

แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย
แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย
เปิดอ่าน 7,823 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
เปิดอ่าน 790 ☕ คลิกอ่านเลย

ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากไททานิค
ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากไททานิค
เปิดอ่าน 11,726 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

แผนภูมิแสดงขั้นตอนการประเมินครูผู้ช่วย
แผนภูมิแสดงขั้นตอนการประเมินครูผู้ช่วย
เปิดอ่าน 112,290 ครั้ง

วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว
วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว
เปิดอ่าน 13,583 ครั้ง

กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
เปิดอ่าน 1,587 ครั้ง

ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : อาร์คีมีดีส : Archimedes
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : อาร์คีมีดีส : Archimedes
เปิดอ่าน 37,748 ครั้ง

หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
เปิดอ่าน 22,806 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ