Advertisement
ยาย "น้องอ้อม ดักแด้" สะอื้น "นาธาน" ลวงหลานเชิดเงินแสน โอดทำได้แม้คนพิการ
|
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |
11 พฤศจิกายน 2552 20:43 น. |
|
1 | 2 |
|
|
|
|
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
|
|
สุดๆ! ยาย "น้องอ้อม" มนุษย์ดักแด้สู้ชีวิตเผย "นาธาน" อาศัยความรัก-ไว้ใจหลานลวงยืมเงินเก็บกว่าแสนบาท พร้อมกำชับห้ามบอกใคร แฉ ตั้งแต่หลานทรุด ตาย จนถึงวันเผาไม่เคยโผล่หัว อ้างอยู่ต่างประเทศ ทั้งที่ "เจเจ" หุ้นส่วนร้านคู่กรณีเคยยัน ช่วงเวลานั้นนาธานอยู่เมืองไทยตลอด ก่อนโอดทั้งน้ำตาทำได้แม้คนพิการ เจ้าตัวไม่หวังได้คืน แต่อยากให้เห็นใจคนแก่ เชื่อหลานไปดีแต่อีกฝ่ายกำลังจะตายทั้งเป็น
ดูท่าจะกลายเป็นมหากาพย์ไปเสียแล้วสำหรับเรื่องราวพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับอดีตนักร้องจากค่ายอาร์เอสฯ "นาธาน โอร์มาน" หลังเจ้าตัวออกมาให้ข่าวว่าได้ไปเล่นหนังฟอร์มใหญ่ประกบดาราดังของฮอลลีวูดก่อนจะถูกเปิดโปงตั้งข้อสงสัยว่าเรื่องราวดังกล่าวมีความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด?
ไม่นานหลังจากนั้นหลายต่อหลายคนก็ได้ออกมาแฉถึงพฤติกรรมที่เข้าข่ายการเป็นคนลวงโลกพร้อมยื่นฟ้องร้องไปยังตัวเขาหลายราย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของลูกทัวร์, ดีเจเจเจ จามจุรี แคสเชอร์ เพื่อนร่วมหุ้นทำร้านกาแฟ, กรณีของ "น.ส.อรทัย ยิ้มละม้าย" สาววัย 27 อดีตพนักงานบัญชีโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่ถูกอดีตนักร้องลวงว่าจะฝากให้ทำงานที่ ททท.
รวมไปถึงกรณีของ "นางสมาน สุขเสริม" แม่บ้านของหนุ่มนาธาน พร้อมลูกชาย "แจ็ค อาทิตย์ กุลฝ้าย" ที่ได้ออกมาแฉว่าถูกอดีตนักร้องโกงเงินไปกว่า 3 แสนบาท
อย่างไรก็ตามในบรรดาผู้ที่ตกเป็นเสมือนเหยื่อของหนุ่มนาธานหาได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้แต่อย่างใด เมื่อทีมข่าว "ASTVผู้จัดการออนไลน์" ได้รับแจ้งว่า ในอดีตเจ้าตัวเคยหยิบยืมเงินจากครอบครัว "น้องอ้อม เสาวนีย์ ฤทธิโชติ" หญิงสาวที่ป่วยมีอาการผิดปกติทางร่างกายคล้ายตัวดักแด้และเป็นที่รู้จักขึ้นมาจากรายการ "คนค้นฅน" ซึ่งเคยทำกิจกรรมเรียลลิตี้ร่วมกันในรายการ "เจาะใจ" เป็นจำนวนกว่า 1 แสนบาทไปตั้งแต่ปี 48
กระทั่งน้องอ้อมได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มีนาคม(52) ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ อดีตนักร้องหนุ่มก็ยังมิได้มีท่าทีที่จะคืนเงินดังกล่าวให้กับครอบครัวของน้องอ้อมแต่อย่างใด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อทีมงานได้ลงพื้นที่ไปยัง จ.ราชบุรี บ้านเกิดของน้องอ้อมเพื่อพูดคุยกับ "นางฉลอง จันทร์นาค" ผู้เป็นยาย ก็พบว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง พร้อมเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า...
"เขายืมไปตอนปี 48 เฉพาะที่เอากับตาไปแปดหมื่น แล้วเป็นเงินที่ตากับยายสะสมเอาไว้ เป็นเงินจากการเล่นแชร์ ตอนแรกเขายืมของอ้อม แต่ยายกลัวของอ้อมหมดก็เลยให้มาเอาของเรา ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนกับอ้อม ยายก็ไห้ไป ตอนแรกให้ไปสามหมื่น ตอนหลังมาเอาอีกห้าหมื่น เงินสองก้อนที่เอาไปก็ภายในปีเดียวกันนั่นแหละ หลังจากมาเอาก้อนแรกไป หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็มาเอาก้อนที่สอง ยายเป็นคนเอาตังค์ใส่ซองเพราะกลัวคนจะรู้ เราก็ให้เป็นเงินสดเลย"
"แล้วตอนหลังก็มาหลอกอ้อมอีก บัญชีนั้นมีอยู่สองหมื่นกว่าบาท เงินของอ้อมก้อนนั้นเป็นเงินที่อ้อมเขียนหนังสือกับรายการเจาะใจ แล้วพี่แมว(โปรดิวเซอร์รายการเจาะใจ)ก็ให้ยายมาสองหมื่นกว่าบาท เราก็เอาเงินนั้นเข้าบัญชีของธนาคารกรุงศรีฯ เป็นชื่ออ้อม แล้วอ้อมเขาก็มาหลอกยายว่าบัตรเอทีเอ็มเขาหาย ก็ไม่มีใครรู้ว่าใครเอาไป อ้อมก็โวยวายๆ ซึ่งจริงๆ แล้วอ้อมเขาเก็บอะไรไว้ตรงไหนเขาจะรู้ ถ้ามีใครเอาอะไรของเขาไปเขาจะรู้หมดเลย"
"เขามาบอกทีหลังว่าให้นาธานไปทั้งหมดน่ะแหละ ให้บัตรไปกดกันเอง รวมๆ แล้วก็แสนกว่า นี่คือที่ยายรู้นะ ยายเป็นคนเอาให้เองแต่ไม่เคยจดไว้ เพราะเห็นกับอ้อมว่าเป็นเพื่อนอ้อม เห็นว่าดังมาด้วยกันจากรายการเจาะใจ ก็เลยคิดว่าให้ไปเถอะ เดี๋ยวคงคืน เพราะเขาบอกว่าจะคืนให้และจะให้ดอกด้วย"
"ตอนแรกก็ไม่ยอมบอกหรอก บอกแค่ว่าเอทีเอ็มหาย แต่หลังๆ ตอนที่นอนโรงพยาบาลก่อนเขาจะเสียถึงได้บอกมาทีละหน่อยๆ ว่าเขาให้นาธานยืม เขาก็เชื่อใจนาธาน เพราะตอนนั้นยังไม่มีข่าวเสียๆ ของนาธานเลย ถ้ามีข่าวออกมาตอนนั้นกำลังใจคงเสียเหมือนกัน"
พร้อมเผย ด้วยความที่เห็นว่าเป็นเพื่อนรักหลานจึงให้ยืมเงินก้อนโตไป โดยไม่มีการทำสัญญาใดๆ ซึ่งนอกจากอ้อมแล้วมีเพียงเพื่อนของนาธานเท่านั้นที่รับรู้ในฐานะคนค้ำประกัน พร้อมกำชับหลานตนว่าห้ามบอกใคร
"ยายให้ไปโดยที่ไม่ทำสัญญาอะไรเลย แต่เขาเอาคนค้ำประกันมาด้วยนะ แต่ไม่อยากเอ่ยชื่อเดี๋ยวเขาจะเสีย แต่ยายก็อยากโทรไปปรึกษาคุณตาล ที่เขาเคยอยู่รายการคนค้นฅน แต่ตอนนี้ไปอยู่เวิร์คพ้อยท์แล้ว ยายก็อยากจะโทรไปปรึกษาว่าจะเอายังไงดี จะพูดถึงคนคนนี้มั้ย เพราะกลัวเขา(คนที่ค้ำประกันให้นาธาน)จะเสีย เพราะเขาก็ทำงานในวงการนี้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ดารา คือคนนี้เขาเป็นคนพานาธานมา"
"ที่ไม่ทำสัญญาเพราะเห็นแก่อ้อมไง เห็นว่าเป็นเพื่อนอ้อม อ้อมก็สงสารเห็นว่านาธานเขาอดอยาก เห็นว่าไม่มีญาติพี่น้อง เป็นคนต่างประเทศ ตาก็เลยเอาของตาไปเลยละกัน ก็เอาเงินที่ตากับยายเก็บหอมรอมริบไว้ แต่ตอนแรกคนที่พามาจะให้ทำสัญญา แต่ยายเห็นว่าเป็นคนที่รู้จักกันดี เห็นๆ กันอยู่ ยายก็เลยไม่กล้าทำสัญญา"
"ฝั่งเรามีน้องอ้อมคนเดียวที่รู้เห็น แต่น้องอ้อมเป็นคนบอกว่าให้ปิด แม้กระทั่งน้าๆ ที่บ้านๆยังไม่รู้เลย อ้อมเขาขอไม่ให้พูด แล้วตากับยายจะกล้าพูดได้ยังไง ตอนอ้อมตายน้าๆ ถึงได้รู้ว่านาธานเอาตังค์ไป ก็ตอนที่อ้อมยังอยู่เขาขอไว้ เดี๋ยวไปลงสื่อกลัวนาธานเสีย เพราะเขารักนาธานมาก ถ้าอ้อมยังอยู่คงเสียใจน่าดู ที่โดนหลอกแบบนี้ แล้วเงินไม่ใช่น้อย"
"แล้วนาธานเขาก็อ้างกับอ้อมว่าไม่อยากให้ใครรู้เพราะเป็นดารา แล้วถ้าไปหยิบยืมเงินเพื่อน(ในวงการ)คนเขาก็จะรู้กันหมด กลัวชื่อเสียงเขาจะเสีย ก็เลยต้องยืมเงินคนทางนี้ เพราะตอนนั้นอ้อมได้เงินจากรายการคนค้นฅนแล้ว"
ระบุ อดีตนักร้องหนุ่มให้เหตุผลที่ยืมว่า เพราะเงินบริจาคที่เกี่ยวกับสึนามิมีปัญหา จึงต้องมาหยิบยืมเพื่อนำไปช่วยเหลือส่วนนั้น ซึ่งเห็นว่าเอาไปทำการกุศลจึงได้ช่วยเหลือไป
"เขาคุยกับอ้อม แล้วอ้อมก็มาสื่อกับยายอีกที ยายก็เห็นแก่อ้อมน่ะแหละถึงให้ไป เขาบอกเขาเดือดร้อน เรื่องของเรื่องคือตอนสึนามิ เพื่อนเขาเอาเงินไป ซึ่งเป็นเงินที่เขาจะเอาไปช่วยซ่อมเกาะมอร์แกนที่เขาเคยไปติดตอนเจอสินามิกับอ้น(สราวุธ) แต่เขาบอกอ้อมว่าไม่มีก็เลยมายืมอ้อมไปจ่ายตรงนั้น เขาบอกว่าเพื่อนๆ กลุ่มนี้เอาเงินที่คนบริจาคตรงนี้ไป เขาบอกกับอ้อมแบบนี้นะ ส่วนหนึ่งก็เพราะเห็นว่าเอาไปทำการกุศล ก็เลยให้ไปโดยที่ไม่ทำสัญญาอะไรเลย"
บอก ถึงกับเสียความรู้สึก ทั้งที่น้องอ้อมทั้งรักและไว้ใจนาธานมาก แต่ช่วงที่อ้อมป่วยหนักกระทั่งเสียชีวิตไปวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา จนถึงวันเผา อีกฝ่ายไม่เคยมาแม้สักครั้งเดียว อ้างอยู่ต่างประเทศทั้งที่ "ดีเจเจเจ จามจุรี แคสเชอร์" เพื่อนร่วมหุ้นทำร้านกาแฟอดีตคู่กรณีเคยยืนยันว่า ช่วงระยะเวลานั้นนาธานอยู่ร้านกาแฟตลอด
"ขนาดอ้อมตายยังไม่มาเลย เขาก็รู้ข่าวนะเพราะน้องสาวอ้อมเป็นคนโทรไปบอก เขาบอกว่าอยู่ต่างประเทศ อ้อมตายวันที่ 1 มีนาฯ(2552) สวดศพ 5 วันแต่เขาไม่เคยมาเลย ตัวแทนอะไรก็ไม่ได้ส่งมาเลย เขาบอกวันที่ 15 เมษาฯจะมาก็ไม่เห็นมา และไม่เคยโทรมาเลยนะ ทั้งที่ทุกทีเขาก็โทร ตอนวันเกิดตาอ้อมก็บังคับให้โทรมาอวยพรตา เบอร์โทรตาเขาก็มีนะ แต่เขาไม่เคยโทรหาตาเลย"
"ตอนอ้อมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์มาได้สบายเลย แต่เขาก็ไม่เคยมาเยี่ยม กระทั่งน้องอ้อมเสียที่โรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ เขาก็ไม่มาเลย ก็อยู่ตรงนั้นเองทำไมเขามาไม่ได้ ขนาดพี่บีม(บีม กวี เป็นนักร้องที่น้องอ้อมปลื้มมาก) เขาไม่มีเวลาแต่เขายังปลอมตัวใส่แว่นมาเยี่ยมเลยนะ คิดดูสิ งานศพที่ราชบุรีพี่บีมก็มาตั้งสองวัน แต่เขากลับไม่มาเลย"
|
|
|
|
|
|
วันที่ 12 พ.ย. 2552
ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด ในราคา ฿368 - ฿999 ที่ Shopeehttps://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6
Advertisement
เปิดอ่าน 7,179 ครั้ง เปิดอ่าน 7,154 ครั้ง เปิดอ่าน 7,153 ครั้ง เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง เปิดอ่าน 7,191 ครั้ง เปิดอ่าน 7,157 ครั้ง เปิดอ่าน 7,157 ครั้ง เปิดอ่าน 7,163 ครั้ง เปิดอ่าน 7,159 ครั้ง เปิดอ่าน 7,436 ครั้ง เปิดอ่าน 7,218 ครั้ง เปิดอ่าน 7,164 ครั้ง เปิดอ่าน 7,182 ครั้ง เปิดอ่าน 7,154 ครั้ง เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,152 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,238 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,280 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,164 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 10,678 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,111 ครั้ง |
เปิดอ่าน 7,446 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,527 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,694 ครั้ง |
|
|