ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

อาบน้ำร้อน หรือ อาบน้ำเย็น ดีกว่ากัน?....


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,145 ครั้ง
Advertisement

อาบน้ำร้อน  หรือ  อาบน้ำเย็น  ดีกว่ากัน?....

Advertisement


อาบน้ำร้อน  หรือ  อาบน้ำเย็น  ดีกว่ากัน?


อาบน้ำ



     อาบน้ำ เป็นกิจวัตรที่แสนจะผูกพันกับผู้คนมาตั้งแต่เกิด หลายคนอาจจะให้เวลากับการอาบน้ำนานนับชั่วโมง ขณะที่บางคนใช้เวลาเพียงแค่วิ่งผ่านน้ำ ไม่ว่าจะอย่างไร หลังอาบน้ำ ทุกคนก็จะได้ความสะอาด ฉ่ำชื่นกันทุกที

    

                                     

 

                

                                คลิกฟังเพลงกุหลาบปากซัน http://www.youtube.com/watch?v=FXPCpvSRkpU

นอกจากวัตถุประสงค์เพื่อชำระล้างคราบไคลจากร่างกายแล้ว ปัจจุบันมีคนนำการอาบน้ำเข้ามาเป็นการผ่อนคลาย บำบัดเครียด ช่วยทำให้กระปรี้กระเปร่าได้ โดยจะใช้เป็นฝักบัว หรือแช่อ่างก็ไม่ต่างกัน เพราะสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่อุปกรณ์ แต่อยู่ที่ อุณหภูมิของน้ำ ที่ความร้อน-เย็นล้วนมีผลต่อร่างกายทั้งสิ้น


ใน Be Magazine บอกไว้ว่า

     น้ำร้อน สำหรับการอาบน้ำนั้น อุณหภูมิจะอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส ขึ้นไป อุณหภูมิระดับนี้จะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น จึงเหมาะกับใช้กระตุ้นอาการขี้เกียจ แต่ไม่ควรจะอาบนานเกินไป เพราะหลอดเลือดขยายตัวจนทำให้ผิวแห้ง มีผื่นขึ้น ผิวเหี่ยว ร้ายไปกว่านั้น อาจทำให้เลือดคั่ง ประสาทอ่อนล้า กระวนกระวาย ง่วงเหงา ซึมเซา ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้มีความดันผิดปกติ 
ถ้าเป็น  น้ำอุ่น  อุณหภูมิจะอยู่ที่ 27-37 องศาเซลเซียส ระดับนี้จะช่วยกระตุ้นประสาทอัตโนมัติ ทำให้ร่างกาย จิตใจสบาย ลดเครียด ลดไข้ได้  น้ำเย็น  อุณหภูมิจะ ต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส  ความเย็นจะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อ ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า ผิวเต่งตึง รูขุมขนกระชับ ระหว่างอาบน้ำถ้าใช้มือตบเบาๆ ไปทั่วร่างกาย จะช่วยกระตุ้นผิวและผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้

    
วิธีการอาบน้ำ นั้น ให้เริ่มไล่จากปลายเท้าไปถึงกลาง ลำตัว เพื่อปรับอุณหภูมิ แล้วจึงเริ่มอาบน้ำ ถ้าใช้ฝักบัว ควรเปิด น้ำแรง ๆ แล้วฉีดไปทั่วตัวช่วยในการผ่อนคลาย

    
ส่วน การแช่น้ำอุ่น นั้น ควรแช่ราว 10 นาที แล้วค่อยลุกขึ้นมาขัดตัว อาบน้ำ สระผม แปรงฟัน แล้ว ลงไป แช่ใหม่อีกครั้ง จะช่วย ยืดเส้นสายในร่างกาย สบายตัว ผิวสวย ลดอาการมือเท้าเย็น บวม เส้นเลือดขอดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดไขมันได้ แต่อย่าใช้น้ำที่ร้อนเกินไป และอย่าแช่นานเกินไป อาจทำให้ผิวเปื่อยลอกได้

    
ส่วน เวลาอาบน้ำที่ดีที่สุด นั้น ถ้าออกกำลังกาย ก็หลังไปแล้วไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง และไม่ควรจะอาบน้ำหลังรับประทานอาหารทันที เพราะอาจทำให้อาหารไม่ย่อย ทางที่ดี ควรอาบก่อน หรือหลังอาหารไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง นี่แหละศิลปะของการอาบน้ำ


ขอบคุณที่มาบทความจาก 
women.thaiza.com

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 12 พ.ย. 2552


อาบน้ำร้อน หรือ อาบน้ำเย็น ดีกว่ากัน?....อาบน้ำร้อนหรืออาบน้ำเย็นดีกว่ากัน?....

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

การลดน้ำหนักด้วยตะเกียบ

การลดน้ำหนักด้วยตะเกียบ


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
รักหลากแบบ

รักหลากแบบ


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
Amazing the Great wall of China‏,   ในมุมมองใหม่

Amazing the Great wall of China‏, ในมุมมองใหม่


เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง
เผยแพร่ผลงาน

เผยแพร่ผลงาน


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
ฝึกอีกนานน้อง...!!

ฝึกอีกนานน้อง...!!


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
๙๐ปี ... ยังไหว !!!

๙๐ปี ... ยังไหว !!!


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
15 ชนิดมนุษย์ ...MSN

15 ชนิดมนุษย์ ...MSN


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

วันพ่อแห่งชาติ

วันพ่อแห่งชาติ

เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สิ่งที่ไม่ควรทำหลังอาหาร
สิ่งที่ไม่ควรทำหลังอาหาร
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

(Beauty Tips) เดรสแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ
(Beauty Tips) เดรสแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

บุพเพสันนิวาส......หรืออินเตอร์เน็ตอาละวาด (ฟังเพลงวิมานสีชมพู)
บุพเพสันนิวาส......หรืออินเตอร์เน็ตอาละวาด (ฟังเพลงวิมานสีชมพู)
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย

ระวัง....อาหาร....ทำให้คุณขาดน้ำ
ระวัง....อาหาร....ทำให้คุณขาดน้ำ
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

เมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์
เมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย

การดื่มน้ำเมื่อท้องว่าง ได้ประโยชน์อย่างที่คิดไม่ถึง !!
การดื่มน้ำเมื่อท้องว่าง ได้ประโยชน์อย่างที่คิดไม่ถึง !!
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"
คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"
เปิดอ่าน 3,717 ครั้ง

ภาษาไทย ภาษาชาติ และการสอนของครู
ภาษาไทย ภาษาชาติ และการสอนของครู
เปิดอ่าน 64,193 ครั้ง

7 คำถามที่ควรถามลูก...หลังลูกจากกลับจากโรงเรียน
7 คำถามที่ควรถามลูก...หลังลูกจากกลับจากโรงเรียน
เปิดอ่าน 10,379 ครั้ง

Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)
Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)
เปิดอ่าน 317,657 ครั้ง

"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์
เปิดอ่าน 17,444 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ