ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

การบริหารจิต...เพื่อชีวิตที่เป็นสุข


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,137 ครั้ง
Advertisement

การบริหารจิต...เพื่อชีวิตที่เป็นสุข

Advertisement

 

การบริหารจิต...เพื่อชีวิตที่เป็นสุข

          นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล

 

          ชีวิตคนเรามีทั้งหมด 4 ส่วน เปรียบเหมือนสี่เหลี่ยมด้านไม่เท่า ซึ่งด้านทั้งสี่ประกอบด้วยชีวิตการงาน (work life) ชีวิตครอบครัว (family life) ชีวิตส่วนตัว (private life) และชีวิตสังคม (social life)...สุขและทุกข์ก็เกิดขึ้นอย่างน้อยด้านใดด้านหนึ่งในชีวิตสี่ด้านนี้

                ความสุขและความทุกข์ ก็เป็นเหมือนดั่งเมฆบนท้องฟ้าหรือคลื่นในมหาสมุทร มาแล้วก็ไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด...เวลามีความสุขก็ต้องตระหนักว่าความสุขมิได้อยู่กับเราตลอดไป ตอนมีความทุกข์เราก็มิได้จมจ่อมกับทุกข์นั้นตลอดชีวิต

                ชีวิตต้องมีทั้งสุขและทุกข์ต้องสลับกันไป...คนที่อยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีความตื่นเต้นหรือความเครียดเลย ก็ขาดรสชาติของชีวิต มีชีวิตแต่ไม่มีชีวา

                สมอง คืออวัยวะที่ทำงานในเรื่องจิตใจ...เป็นที่ตั้งของจิต คือออฟฟิตของใจ ซึ่งมีองค์ประกอบอยู่ 2 ส่วน คือ อารมณ์ความรู้สึก (emotions) กับความคิด (เช่น ความจำ การตัดสินใจ การใช้เหตุผล การคำนวณ)

                ธรรมชาติที่สำคัญของจิตใจประการแรก คือความคิดกับความรู้สึกโน้มนำกันได้...เมื่อใดก็ตามที่เราคิดในทางบวก ความคิดทางบวกก็โน้มนำใจให้เรารู้สึกมีความสุข ภายใต้จิตที่สบายก็นำใจให้เกิดความคิดดีๆ เช่นเดียวกันความคิดทางลบก็กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเป็นทุกข์               

 

                คิดดีใจก็มีสุข คิดไม่ดีใจก็เป็นทุกข์...สุขหรือทุกข์ขึ้นอยู่กับตัวความคิด

                มนุษย์จึงต้องเรียนรู้ในการฝึกสติให้รู้เท่าทันความคิดกับความรู้สึกของตัวเอง เพื่อมิให้เกิดการปรุงแต่งให้ใจเป็นทุกข์

                ไม่ใช่สิ่งที่เราเจอ แต่เป็น ความหมาย ของสิ่งที่เราเจอต่างหาก ซึ่งเป็นตัวกำหนดความรู้สึกของเราต่อสิ่งนั้นว่าจะเป็นสุขหรือทุกข์...การมีมุมมองทางบวก (positive thinking) อยู่เสมอ เป็นเหตุปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีความรู้สึกที่ดีๆต่อสิ่งที่เราพบ

               

                ภาพหยิน - หยาง...เป็นวงกลมที่มีสองส่วน ในแถบสีขาวมีจุดดำ ในแถบสีดำมีจุดขาว เปรียบเหมือนกับสิ่งดีที่เราได้รับอาจมีความโชคร้ายแฝงเร้น ในขณะที่ความโชคร้ายที่เราประสบก็มีความโชคดีที่เราต้องค้นให้พบ

 

 

·       สมบัติเงินทองที่เรามีอาจเป็นเครื่องล่อใจให้คนอื่นปองร้ายเราเพื่อหวังชิงทรัพย์นั้น

·       ผู้หญิงที่หน้าตาสวย ก็อาจกระตุ้นความใคร่ เร้าใจให้ผู้ชายบางคนล่วงละเมิดทางเพศต่อตัวเรา

·     ผู้ป่วยที่รู้ตัวว่าป่วยด้วยโรคร้ายแรง ชีวิตหลังจากนั้นอาจมีคุณภาพมากขึ้น เพราะเมื่อรู้ตัวแล้วก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น กลายเป็นชีวิตที่มีสติและความสุขมากกว่าเดิม

·     เศรษฐกิจขาลงครั้งที่ผ่านมา อาจมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจขาขึ้นครั้งใหม่ที่มีความมั่นคงและรอบคอบกว่าเดิม...เราจะขึ้นสู่ภูเขาลูกใหม่ที่สูงใหญ่กว่าเดิมได้อย่างไร ถ้าหากเราไม่เดินลงจากภูเขาลูกเก่าเสียก่อน เหมือนประเทศญี่ปุ่นซึ่งแพ้ย่อยยับในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน

·     อุปสรรคทั้งหลายคือการบ้านจากพระผู้เป็นเจ้า วิกฤตของชีวิตคือการสอบไล่ครั้งใหญ่ เมื่อผ่านพ้นได้ จิตใจจะเกิดพัฒนาการ...ความทุกข์คือเครื่องมือในการฝึกจิตให้มีความเข้มแข็ง เหมือนการยกของหนักทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง คนที่ผ่านปัญหาของชีวิตมาต่อเนื่องทำให้กลายเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยแบบทานทน (hardy character)

                จากเศษเหล็กที่ไม่มีค่า ต้องเข้าเตาหลอมรนไฟให้ร้อนแดง หลังจากนั้นจึงนำไปทุบตี จึงจะกลายเป็นดาบเล่มงาม...จงถือเอาความเร่าร้อนและเจ็บปวดเป็นเครื่องมือในการยกระดับจิตวิญญาณของมนุษย์

                คนใดก็ตามที่โปรแกรมสมองตัวเองด้วยความคิดทางลบตลอด เป็นเหตุทำให้จิตใจอ่อนกำลัง เกิดความย่อท้อ ไม่สามารถต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆในชีวิต...เราจึงต้องสร้างสัมมาทิฐิคือความคิดทางบวก เพื่อนำพาชีวิตไปสู่จุดมุ่งหมายที่เราตั้งไว้ เพราะคิดดี แล้วจึงพูดดี ทำดี

                บุคคลจำนวนมากที่จิตใจอุดมไปด้วยความคิดทางบวก จึงทำให้ชีวิตตัวเองมีความสุข และสามารถเผื่อแผ่ความสุขนั้นไปสู่ผู้อื่นได้ ยกตัวอย่างเช่น

                Lena Maria นักร้องชาวสวีเดนเจ้าของหนังสือเรื่อง บันทึกจากปลายเท้า เธอเคยมาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตในกรุงเทพฯเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2543 ณ โรงละครแห่งชาติ เธอได้กล่าวในการแสดงของเธอตอนหนึ่งว่า เมื่อตอนแรกเกิด ฉันไม่มีแขน และขาข้างซ้ายของฉันก็ยาวเพียงครึ่งหนึ่งของขาข้างขวา แต่กระนั้นก็ดี ความพิการของฉันไม่เคยยับยั้งดิฉันจากการทำหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต ฉันเชื่อว่าทุกๆคนบนโลกใบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง และฉันยังเชื่ออีกว่าคนทุกๆคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน ไม่ว่าเขาจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร หรือเขาจะมีเงินมากมายเพียงใด หรือจะมีความสามารถมากน้อยเพียงใด คนทุกๆคนมีคุณค่าและความสำคัญเท่าเทียมกันเสมอ...และยิ่งกว่านั้น ทารกน้อยๆก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้

                หรือกรณีคุณกำพล ทองบุญนุ่ม เจ้าของผลงานหนังสือเรื่อง จิตสดใส แม้กายพิการ ซึ่งอัมพาตทั้งแขนขาจากอุบัติเหตุในวัยหนุ่มก็ยังสามารถมีความสุขในชีวิตได้ด้วยการฝึกสติแนวพุทธ จนนำไปสู่ความเข้าใจชีวิต

                เรื่องทำนองเดียวกันก็เกิดขึ้นกับคุณสุภัทราพร ตันอธิคม อดีตแอร์โฮสเตสผู้กลายมาเป็นคนพิการขั้นรุนแรง เคลื่อนไหวไม่ได้ตั้งแต่หัวไหล่ลงมาถึงปลายเท้า ถึงแม้ว่าเธอไม่มีมือ เธอก็เขียนหนังสือได้ เธอไม่มีเท้า เธอก็เดินหน้าต่อไปภายใต้หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ เรื่องราวชีวิตของเธอได้รับการบันทึกในหนังสือ จากหัวไหล่...ไปถึงเบื้องบน

                มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวเท่านั้นที่มีความทุกข์ ทั้งๆที่มนุษย์ที่มีสมองพัฒนาเหนือสัตว์ทั้งหลาย เพราะสัตว์ต่างๆไม่มีการปรุงแต่งของจิต...ตรงข้ามกับสมองของคนเราที่ความคิดกับความรู้สึกปรุงแต่งกัน แต่ขาดสติ คือการรู้ตัวทั่วพร้อม หรือรู้เท่าทัน ผลพวงของปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นคือสภาพจิตที่เป็นทุกข์

                ปรุงแต่งของจิตที่พบบ่อย เช่น จากการเห็น นำไปสู่ความชื่นชอบ แล้วก็ปรุงแต่งไปเป็นความอยากได้ แล้วก็ต้องเอามาเป็นเจ้าของ...ผู้ชายก็เจ้าชู้มักมากในกาม ผู้หญิงก็ติดนิสัยชอบช้อปปิ้ง เพราะฉะนั้นจากความชอบ (ซึ่งเป็นความสุข) ปรุงแต่งไปเป็นความอยากได้ (ซึ่งเป็นทุกข์)...สติต้องมาทัน จิตจึงไม่ผลิตเป็นความทุกข์

                ธรรมชาติของจิตใจอีกอย่างหนึ่ง เมื่อใดก็ตามที่ใจของเราเต็มไปด้วยอารมณ์ที่รุนแรง อารมณ์นั้นจะรบกวนการทำงานของความคิด ซึ่งทางพุทธศาสนาเรียกสิ่งนี้ว่า นิวรณ์ แปลว่า เครื่องรบกวนสมาธิหรืออุปสรรคขัดขวางการทำงานของปัญญา ได้แก่ พยาบาท ถีนมิทธะ วิจิกิจฉา อุทธัทจะกุกกุจจะ กามฉันทะ...มีผลทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด คิดเลขคูณหารก็ถูกๆผิดๆ อ่านหนังสือก็จำไม่ได้ หรือความลุ่มหลงทำให้มองไม่เห็นความบกพร่องในคนที่เรากำลังหลงรัก (ความรักที่ถูกนำหน้าด้วยคำว่าหลง)

                จิตที่ไม่นิ่งแต่วอกแวกไปสู่เหตุการณ์ในอดีตหรืออนาคต ก็นำไปสู่ความเศร้าหรือกังวล...การมีสติอยู่กับสิ่งที่อยู่ต่อหน้าในเวลาปัจจุบัน (here and now) จึงเป็นสุข...หากรู้ตัวว่าใจกำลังเป็นทุกข์ ก็จงมีสติอยู่กับอารมณ์นั้นๆเสมือนแม่ที่กำลังประคับประคองลูกน้อยในอ้อมแขน แทนที่จะปฏิเสธหรือพยายามกำจัดมัน แต่จงอยู่กับมันอย่างรู้เนื้อรู้ตัว แล้วอารมณ์ทุกข์นั้นจะไม่ปรุงแต่งไปสู่ความคิดในทางลบ (คือตัวสังขาร)

                ความคิดที่ถูกปรุงแต่งมาจากอารมณ์ เรียกว่า สังขาร...แต่ความคิดที่ตกผลึกจากภาวะจิตที่เป็นสมาธิ เรียกว่า ปัญญา

                ความสุข คือความรู้สึกในทางบวกในรูปแบบต่างๆ มีหลายกลุ่ม  ไม่จำเป็นต้องเป็นความสนุกสนานที่ต้องซื้อหาตามแหล่งบันเทิง แต่อาจเป็นความสงบผ่อนคลายทางจิตใจเมื่ออยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ หรือความภาคภูมิใจในการงานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น รวมไปถึงความปิติอิ่มเอิบเมื่อจิตใจบังเกิดความรู้

                จิตที่เป็นทุกข์ คือสภาพจิตที่เต็มไปด้วยขยะทางความคิดและมลพิษทางอารมณ์...จิตที่เป็นสุข คือจิตอันอุดมด้วยสัมมาทิฐิและสามารถแบ่งปันความสุขไปสู่ผู้อื่นได้

                แม้จะยังไม่พบว่าอะไรคือจุดมุ่งหมายของการมีชีวิต ก็จงดำเนินชีวิตอยู่ด้วยการเรียนรู้อย่างรื่นรมย์

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 7202 วันที่ 11 พ.ย. 2552


การบริหารจิต...เพื่อชีวิตที่เป็นสุข

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

นิยามของคำว่า "นักเรียน"

นิยามของคำว่า "นักเรียน"


เปิดอ่าน 7,170 ครั้ง
เหมือนภูมิแพ้...แต่..ชนะ

เหมือนภูมิแพ้...แต่..ชนะ


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
วิจัย ฟ้อนทอผ้าไหม

วิจัย ฟ้อนทอผ้าไหม


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
ขอบคุณนะที่เจอกัน

ขอบคุณนะที่เจอกัน


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
ลุยๆๆๆๆๆๆ............

ลุยๆๆๆๆๆๆ............


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
ทำนายรักจากอายุ.....คูรัก

ทำนายรักจากอายุ.....คูรัก


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
การอ่านตัว  ฤ

การอ่านตัว ฤ


เปิดอ่าน 7,626 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

>...วันไหว้ครู...<

>...วันไหว้ครู...<

เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
หลากหลายวิธีเก็บถนอมอาหาร......ให้ใหม่สด
หลากหลายวิธีเก็บถนอมอาหาร......ให้ใหม่สด
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย

5  วิธีคิด......อย่างคนเก่ง
5 วิธีคิด......อย่างคนเก่ง
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

ที่มาของ ขนมครก
ที่มาของ ขนมครก
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

เรื่องจริงของน้าหมู
เรื่องจริงของน้าหมู
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย

วาง "ใจ"       ใส่....ใจ"
วาง "ใจ" ใส่....ใจ"
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

เปิดภาพลับ..คนดัง
เปิดภาพลับ..คนดัง
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์
ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์
เปิดอ่าน 14,027 ครั้ง

ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
เปิดอ่าน 10,844 ครั้ง

ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา พ.ศ.2560
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา พ.ศ.2560
เปิดอ่าน 15,775 ครั้ง

แชร์ซึ้ง! "ฉันเป็นครู ตายแล้วขอเป็นครูต่อไป"
แชร์ซึ้ง! "ฉันเป็นครู ตายแล้วขอเป็นครูต่อไป"
เปิดอ่าน 13,777 ครั้ง

การใช้อินเทอร์เน็ตและผลกระทบต่อคะแนนวิทยาศาสตร์ : FOCUS ประเด็นจาก PISA : ฉบับที่ 33 (กันยายน 2561)
การใช้อินเทอร์เน็ตและผลกระทบต่อคะแนนวิทยาศาสตร์ : FOCUS ประเด็นจาก PISA : ฉบับที่ 33 (กันยายน 2561)
เปิดอ่าน 38,438 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ