โรคเหงือกและฟัน ....กับสมุนไพรไทย
ยาสีพันในลักษณะบีบหลอดที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เพิ่งเป็นที่นิยมใช้กันในระยะเวลาไม่น่าจะเกิน 50 ปีมานี้เอง ส่วนการบันทึกเรื่องการสีฟันนั้น มีมานานนับตั้งแต่สมัยฮิบโปเครติส (400ปีก่อนคริสต์กาล) โดยใช้เกลือแคลเซียมคาบอเนตในการขัดสีฟัน
มีรายงานว่ายาสีฟันเมื่อ2000 ปีก่อนนั้น มีส่วนประกอบของปะการัง หินอ่อน ผงขี้เถ้าจากการเผาพืชหรือสัตว์ นำมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาสีฟัน
ในยุโรปเองยาสีฟันแบบเดิมๆ ที่ทุกวันนี้ยังคงมีใช้กันอยู่ คือ เกลือแกง เกลือโซเดียมคาร์บอเนตหรือที่เรารู้จักกันในนามของผงฟู ผสมกับผงเขม่า นำส่วนผสมเหล่านี้มาบดให้ละเอียดใช้เป็นยาสีฟันแบบผง ในบ้านเราเอง มีการสีฟันด้วยเกลือแกง หรือเกลือแกงบดรวมกับสารส้ม และยังมีการใช้พืชพรรณบางชนิดมาใช้สีฟัน พืชพรรณที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในเมืองไทยเห็นจะไม่พ้นข่อย กล่าวกันว่า การใช้กิ่งข่อยสีฟันมีมาตั้งแต่ในสมัยพุทธกาล โดยใช้กิ่งข่อยที่ทุบให้แตกตอนปลายๆ นำมาสีฟันเป็นทั้งยาสีฟันและแปรงสีฟัน เวลาแปรงก็จะเคี้ยวเนื้อไม้ไปด้วย
ส่วนพรรณไม้ที่นิยมใช้อีกชนิดหนึ่ง คือ สีฟันคนทาซึ่งใช้กิ่งไม้ทำยาสีฟันเช่นเดียวกับข่อย และยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิดที่มีการใช้รักษาโรคเหงือกและฟัน
ยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้น ส่วนประกอบสำคัญก็ยังคงเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต หรือเกลือแคลเซียม เกลืออลูมิเนียม ตัวอื่นที่มีหน้าที่ขัดฟัน และยังประกอบด้วยสารทำความสะอาด ที่นิยมใช้คือ โซเดียมลอริลซัลเฟต ที่มีความสามารถในการทำความสะอาดได้ดีกว่าสบู่ โดยใช้ในการปริมาณที่น้อยไม่เกิน 2% เพื่อขจัดคราบและเศษอาหารในปากและฟัน
นอกจากนั้นยังมีสารเพิ่มความหนืด สารเพิ่มความชุ่มชื้น สารแต่งรส สารกันบูด หลักการของยาสีฟันที่มีขายในท้องตลาดในขณะนี้ คือ การทำความสะอาด และการขัดคราบที่ติดฟันอยู่
ปัจจุบันมียาสีฟันมากมายหลายยี่ห้อในท้องตลาด ทั้งของภายในประเทศและต่างประเทศ มีการผสมสมุนไพรใส่ลงไปในยาสีฟัน ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค สมุนไพรที่มีฤทธิ์ดับกลิ่นปาก สมุนไพรที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ สมุนไพรที่มีฤทธิ์ฝาดสมาน
ทั้งนี้เพื่อยับยั้งเชื้อจุลลินทรีย์ในช่องปาก ช่วยบรรเทาอาการเหงือกอักเสบ ช่วยทำให้เหงือกแข็งแรง เป็นต้น สมุนไพรที่นิยมใช้กัน ได้แก่
เปลือกมังคุด คนยุคก่อนมีการใช้เปลือกมังคุดในการต้ม อมบ้วนปากแก้ปวดฟัน แก้เหงือกอักเสบ แก้เหงือกบวม แก้แผลในปาก ปัจจุบันมีการค้นคว้าศึกษาวิจัยถึงประโยชน์ของเปลือกมังคุดมากมาย พบว่าสารสกัดจากเปลือกมังคุด มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด มีฤทธิ์รักษาแผล มีฤทธิ์ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ฝาดสมาน การผสมเปลือกมังคุดไปในยาสีฟัน จึงได้ประโยชน์หลายอย่าง ทั้งการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในปาก และลดการอักเสบของเหงือก และรสฝาดทำให้เหงือกแข็งแรง
ใบฝรั่ง ใบฝรั่งเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กับโรคเหงือกและฟัน โดยนิยมเคี้ยวใบฝรั่ง เพื่อดับกลิ่นสุราในปาก ใช้เคี้ยวดับกลิ่นปาก ใช้ใบฝรั่งต้มน้ำใส่เกลือเล็กน้อย อมแก้ปวดฟัน ปัจจุบันจากการศึกษาวิจัยพบว่า ใบฝรั่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้หลายชนิด มีฤทธิ์ลดการอักเสบของเหงือก มีฤทธิ์พล๊าคที่จับเป็นคราบที่ฟัน การใช้ใบฝรั่งผสมลงไปในยาสีฟันจึงมีประโยชน์ตามที่กล่าวมาแล้ว
ใบพลู ใบพลูเป็นสมุนไพรที่คนไทยโบราณใช้เคี้ยวกินกับหมาก ด้วยเชื่อว่าจะรักษาปากฟันไม่ให้เป็นโรค แก้แมงกินฟัน มีการวิจัยพบว่าใบพลูมีฤทธิ์ที่สนับสนุนการใช้ดังกล่าวมากมาย เช่น มีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรียและราได้หลายชนิด มีฤทธิ์ระงับการเกิดแผ่นฝ้าที่แก้มด้านในลิ้นและเหงือก มีฤทธิ์เร่งการสมานแผล และยังมีน้ำมันหอมระเหยช่วยให้กลิ่นปากหอมสดชื่น ใบพลูจึงเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะสมที่จะผสมลงไปในยาสีฟัน
นอกจากสมุนไพรที่กล่าวมาแล้ว สมุนไพรที่นิยมนำมาผสมลงไปในยาสีฟันได้แก่ ขิง เปลือกทับทิม ใบข่อย กระชาย ชะเอมไทย เนียมหูเสือ ว่านหางจระเข้ สีเสียดเหนือ แก่นลั่นทม เป็นต้น สมุนไพรที่ส่วนใหญ่ผสมลงไปล้วนแล้วแต่ต้องการฤทธิ์ตามที่ได้กล่าวมา คือ ฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ฤทธิ์ลดการอักเสบ ฤทธิ์ฝาดสมานช่วยทำให้เหงือกแข็งแรงและช่วยรักษาแผล
คนทั่วไปนั้นสามารถที่จะทำยาสีฟันใช้ได้เอง จากการใช้เกลือแกงผสมผงฟู หรือผสมสารส้มสีฟัน โดยไม่ต้องใช้ยาสีฟันจากหลอด ก็ไม่มีใครว่าถ้าขยันหน่อยอาจจะไปหาสมุนไพรที่ตัวเองชอบ มาตากแห้งบดเป็นผงผสมลงไปด้วย เติมพิมเสน การบูรให้สดชื่นสบายใจลงไปด้วยก็ดีอย่างที่รู้ๆ กันองค์ประกอบของยาสีฟันคือผงขัดกับสารซักฟอก เราก็เพียงแปรงฟันให้นานหน่อย แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
แต่ถ้าใครที่อยากใช้ยาสีฟันสมุนไพรก็หาซื้อได้มากมายหลายยี่ห้อ และล่าสุดโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ได้ทดลองพัฒนาตำรับสมุนไพรเปลือกมังคุด ใบพลู ใบฝรั่ง ใส่สารส้มและเกลือลงไปด้วย ใครเป็นแฟนสมุนไพรของโรงพยาบาลนี้ ก็ติดต่อลองหามาใช้กันดู คนที่เคยลองใช้แล้วฝากมาบอกต่อว่าสีของเนื้อยาสีฟันยี่ห้อนี้เหมาะกับท่านที่รักสมุนไพรจริงๆ
คนไทยนั้นรู้จักนำพืชพรรณธรรมชาติมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันมาแต่โบราณ การสืบสานวิธีใช้ประโยชน์เหล่านี้จึงเปรียบเสมือนพันธกิจของพวกเราทุกคนในยุค "คิดใหม่ ทำใหม่"
สงวนลิขสิทธิ์โดย @ เว็บไซต์สมุนไพรดอทคอม( http://www.samunpri.com )
การนำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อ กรุณาทำลิงค์กลับมายังเว็บให้ด้วยนะครับ
บทความนี้มาจาก สมุนไพร-->สมุนไพรดอทคอม
http://www.samunpri.com