Advertisement
สกัดกั้นการเกิดวิธีไหนเหมาะสุด
ถึงแม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีการคุมกำเนิดชนิดใดที่ดีที่สุด และสมบูรณ์แบบที่สุด แต่เพื่อชีวิตคู่ที่ราบรื่น และเพื่อตัดปัญหาที่อาจติดตามมาจากความไม่พร้อม อันเนื่องมาจากการมีบุตร อีกทั้งสำหรับบางคนภาวะการตั้งครรภ์อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการเรียน อาชีพหรือการปฏิบัติหน้าที่การงานบางอย่าง ทำให้คู่รักหลายคู่จำเป็นต้องเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดแบบใดแบบหนึ่ง ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมาะสมกับคู่ของตนเอง
ยาคุมกำเนิดชนิดฝังใต้ผิวหนังเป็นอย่างไร
ยาคุมชนิดนี้มีลักษณะเป็นแท่งซิลิโคนเล็ก ๆ ขนาดเท่าไม้ขีดไฟ บรรจุตัวยาซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไว้ภายใน วิธีการใช้จะต้องให้แพทย์เป็นผู้ทำการฝังแท่งยานี้ให้ ด้วยการฝังไว้ใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขน ใช้เวลาฝังเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น แต่ฤทธิ์ของยาจะสามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้นาน 3-5 ปี โดยตัวยาหรือฮอร์โมนดังกล่าวจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่กระแสเลือดทีละน้อย เพื่อไปคอยกระตุ้นทำให้มดลูกมีสภาพไม่เหมาะสม สำหรับการฝังตัวของไข่ที่ผสมกับสเปิร์มแล้ว อีกทั้งยังมีผลยับยั้งการตกไข่ด้วย
การคุมกำเนิดด้วยวิธีฝังมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
ข้อดีของการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้คือ สะดวกสบายปลอดภัย และไม่ต้องห่วงพะวงว่าจะลืมทานยา ใส่ครั้งเดียว แต่สามารถป้องกันไปได้นานหลายปี
อย่างไรก็ดีวิธีการนี้มักไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก ทั้งนี้เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่อาจเห็นว่าต้องเจ็บตัวขณะฝังยา ถึงแม้จะทราบว่าแพทย์ฉีดยาชาให้ก่อนที่จะทำการฝังก็ตาม นอกจากนั้นบางรายอาจจะรู้สึกกลัวเกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังจากที่ฝังยาไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ปวดศีรษะคลื่นไส้อาเจียน และรอบเดือนมาผิดปกติ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากฝังแล้วไม่พอใจ ก็ต้องกลับไปให้แพทย์เอาออกให้หรือมิฉะนั้นก็ต้องทนอยู่กับอาการดังกล่าวไปนานเป็นปี
ถ้าเช่นนั้นยาฉีดคุมกำเนิด น่าจะเข้าท่ากว่าแบบฝัง ใช่หรือไม่
ใช่ ในแง่ที่ว่ามีผลให้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้แน่นอน เพราะตัวยาที่ฉีดเป็นชนิดเดียวกับแบบฝัง และฉีดเพียงหนึ่งเข็มก็สามารถจะคุมไปได้นานถึง 2-3 เดือนจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบลืมรับประทานยา
อย่างไรก็ดีผลข้างเคียงก็ไม่ต่างไปจากยาคุมแบบฝัง
ฮอร์โมนในยาคุมชนิดเม็ดจะให้ผลข้างเคียง เช่นเดียวกับแบบฉีดและแบบฝังหรือไม่
การคุมกำเนิดด้วยการทานยาเม็ดเป็นประจำทุกวัน นับเป็นวิธีการคุมที่สะดวกและปลอดภัยซึ่งผู้หญิงจำนวนมากเลือกใช้ ส่วนใหญ่แล้วแทบจะไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ถ้ารู้จักใช้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร แต่สำหรับยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ๆ อาจจะให้ผลข้างเคียงในระยะ 2-3 เดือนแรกที่เริ่มรับประทาน เช่น ทำให้คลื่นไส้อาเจียน ซึมเศร้า บวมน้ำ ปวดศีรษะ หรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและมีรอบเดือนมาไม่ปกติ
นอกจากนี้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สูบบุหรี่ เป็นโรคอ้วนมีความดันโลหิตสูง หรือมีอายุเกิน 35 ปีแล้ว ก็ไม่ควรเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด เพราะจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคโลหิตแข็งตัวง่าย อย่างไรก็ดีผู้หญิงที่อยู่ในข่ายดังกล่าวก็สามารถเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยซึ่งมีทั้งแบบที่ใช้กับฝ่ายชาย และแบบที่ใช้กับฝ่ายหญิง
หากอยู่ในระหว่างการให้นมบุตรควรเลือกคุมกำเนิดด้วยวิธีใด
ในช่วงเวลานั้นควรจะเลือกใช้วิธีฉีดยาคุมกำเนิด หรือรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีโปรเจสเตอโรนอย่างเดียวซึ่งมีชื่อว่า มินิพิล (minipill) หรือถ้าหากคุณมีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อยนักก็อาจเลือกใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งจะปลอดภัยและเหมาะสมกว่า ทั้งยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับยาฆ่าเชื้ออสุจิชนิดที่สามารถฆ่าเชื้อเอดส์ได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุมกำเนิด
เมื่อก้าวสู่ฝั่งฝันเรียบร้อยโดยไม่ได้ป้องกันไว้ก่อน จะยังมีทางใดที่ช่วยสกัดกั้นการตั้งครรภ์ได้อีก
สำหรับกรณีเช่นนี้ยังพอมีวิธีแก้ไขได้ด้วยยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน หลังจากมีเพศสัมพันธ์ “Postinor” ซึ่งจะต้องทานทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์อย่างช้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่หากช้าไปกว่านั้นอาจเลือกรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดที่ชื่อ “Ovral” 2 เม็ดทันทีและกินอีก 2 เม็ด ใน 12 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งจะได้ผลหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามสำหรับยา Postinor ถือว่าเป็นยาอันตราย เพราะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในปริมาณสูง อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ ฉะนั้นไม่ควรใช้ยาชนิดนี้เกิน 4 เม็ดต่อเดือน ทางที่ดีควรรีบพบแพทย์หรือปรึกษาคลินิกวางแผนครอบครัวภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากการร่วมเพศ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://health.kapook.com/view6643.html
วันที่ 11 พ.ย. 2552
🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) ในราคา ฿129 คลิกเลย👇👇https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6
Advertisement
เปิดอ่าน 7,164 ครั้ง เปิดอ่าน 7,165 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,169 ครั้ง เปิดอ่าน 7,163 ครั้ง เปิดอ่าน 7,156 ครั้ง เปิดอ่าน 8,655 ครั้ง เปิดอ่าน 7,248 ครั้ง เปิดอ่าน 7,153 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,271 ครั้ง เปิดอ่าน 7,166 ครั้ง เปิดอ่าน 7,171 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,159 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,157 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,181 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,164 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,284 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 37,302 ครั้ง |
เปิดอ่าน 150,335 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,878 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,619 ครั้ง |
เปิดอ่าน 179,006 ครั้ง |
|
|