ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

คุมกำเนิด วิธีไหนเหมาะสุด !!!


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,141 ครั้ง
Advertisement

คุมกำเนิด วิธีไหนเหมาะสุด !!!

Advertisement

สกัดกั้นการเกิดวิธีไหนเหมาะสุด 

          ถึงแม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีการคุมกำเนิดชนิดใดที่ดีที่สุด และสมบูรณ์แบบที่สุด แต่เพื่อชีวิตคู่ที่ราบรื่น และเพื่อตัดปัญหาที่อาจติดตามมาจากความไม่พร้อม อันเนื่องมาจากการมีบุตร อีกทั้งสำหรับบางคนภาวะการตั้งครรภ์อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการเรียน อาชีพหรือการปฏิบัติหน้าที่การงานบางอย่าง ทำให้คู่รักหลายคู่จำเป็นต้องเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดแบบใดแบบหนึ่ง ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมาะสมกับคู่ของตนเอง

ยาคุมกำเนิดชนิดฝังใต้ผิวหนังเป็นอย่างไร

          ยาคุมชนิดนี้มีลักษณะเป็นแท่งซิลิโคนเล็ก ๆ ขนาดเท่าไม้ขีดไฟ บรรจุตัวยาซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไว้ภายใน วิธีการใช้จะต้องให้แพทย์เป็นผู้ทำการฝังแท่งยานี้ให้ ด้วยการฝังไว้ใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขน ใช้เวลาฝังเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น แต่ฤทธิ์ของยาจะสามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้นาน 3-5 ปี โดยตัวยาหรือฮอร์โมนดังกล่าวจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่กระแสเลือดทีละน้อย เพื่อไปคอยกระตุ้นทำให้มดลูกมีสภาพไม่เหมาะสม สำหรับการฝังตัวของไข่ที่ผสมกับสเปิร์มแล้ว อีกทั้งยังมีผลยับยั้งการตกไข่ด้วย

การคุมกำเนิดด้วยวิธีฝังมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

          ข้อดีของการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้คือ สะดวกสบายปลอดภัย และไม่ต้องห่วงพะวงว่าจะลืมทานยา ใส่ครั้งเดียว แต่สามารถป้องกันไปได้นานหลายปี

          อย่างไรก็ดีวิธีการนี้มักไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก ทั้งนี้เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่อาจเห็นว่าต้องเจ็บตัวขณะฝังยา ถึงแม้จะทราบว่าแพทย์ฉีดยาชาให้ก่อนที่จะทำการฝังก็ตาม นอกจากนั้นบางรายอาจจะรู้สึกกลัวเกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังจากที่ฝังยาไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ปวดศีรษะคลื่นไส้อาเจียน และรอบเดือนมาผิดปกติ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากฝังแล้วไม่พอใจ ก็ต้องกลับไปให้แพทย์เอาออกให้หรือมิฉะนั้นก็ต้องทนอยู่กับอาการดังกล่าวไปนานเป็นปี

ถ้าเช่นนั้นยาฉีดคุมกำเนิด น่าจะเข้าท่ากว่าแบบฝัง ใช่หรือไม่

          ใช่ ในแง่ที่ว่ามีผลให้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้แน่นอน เพราะตัวยาที่ฉีดเป็นชนิดเดียวกับแบบฝัง และฉีดเพียงหนึ่งเข็มก็สามารถจะคุมไปได้นานถึง 2-3 เดือนจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบลืมรับประทานยา

          อย่างไรก็ดีผลข้างเคียงก็ไม่ต่างไปจากยาคุมแบบฝัง

ฮอร์โมนในยาคุมชนิดเม็ดจะให้ผลข้างเคียง เช่นเดียวกับแบบฉีดและแบบฝังหรือไม่

          การคุมกำเนิดด้วยการทานยาเม็ดเป็นประจำทุกวัน นับเป็นวิธีการคุมที่สะดวกและปลอดภัยซึ่งผู้หญิงจำนวนมากเลือกใช้ ส่วนใหญ่แล้วแทบจะไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ถ้ารู้จักใช้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร แต่สำหรับยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ๆ อาจจะให้ผลข้างเคียงในระยะ 2-3 เดือนแรกที่เริ่มรับประทาน เช่น ทำให้คลื่นไส้อาเจียน ซึมเศร้า บวมน้ำ ปวดศีรษะ หรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและมีรอบเดือนมาไม่ปกติ

          นอกจากนี้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สูบบุหรี่ เป็นโรคอ้วนมีความดันโลหิตสูง หรือมีอายุเกิน 35 ปีแล้ว ก็ไม่ควรเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด เพราะจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคโลหิตแข็งตัวง่าย อย่างไรก็ดีผู้หญิงที่อยู่ในข่ายดังกล่าวก็สามารถเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยซึ่งมีทั้งแบบที่ใช้กับฝ่ายชาย และแบบที่ใช้กับฝ่ายหญิง

หากอยู่ในระหว่างการให้นมบุตรควรเลือกคุมกำเนิดด้วยวิธีใด

          ในช่วงเวลานั้นควรจะเลือกใช้วิธีฉีดยาคุมกำเนิด หรือรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีโปรเจสเตอโรนอย่างเดียวซึ่งมีชื่อว่า มินิพิล (minipill) หรือถ้าหากคุณมีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อยนักก็อาจเลือกใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งจะปลอดภัยและเหมาะสมกว่า ทั้งยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับยาฆ่าเชื้ออสุจิชนิดที่สามารถฆ่าเชื้อเอดส์ได้

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุมกำเนิด

เมื่อก้าวสู่ฝั่งฝันเรียบร้อยโดยไม่ได้ป้องกันไว้ก่อน จะยังมีทางใดที่ช่วยสกัดกั้นการตั้งครรภ์ได้อีก

          สำหรับกรณีเช่นนี้ยังพอมีวิธีแก้ไขได้ด้วยยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน หลังจากมีเพศสัมพันธ์ “Postinor” ซึ่งจะต้องทานทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์อย่างช้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่หากช้าไปกว่านั้นอาจเลือกรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดที่ชื่อ “Ovral” 2 เม็ดทันทีและกินอีก 2 เม็ด ใน 12 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งจะได้ผลหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามสำหรับยา Postinor ถือว่าเป็นยาอันตราย เพราะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในปริมาณสูง อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ ฉะนั้นไม่ควรใช้ยาชนิดนี้เกิน 4 เม็ดต่อเดือน ทางที่ดีควรรีบพบแพทย์หรือปรึกษาคลินิกวางแผนครอบครัวภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากการร่วมเพศ



          



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://health.kapook.com/view6643.html

 

 
… ครายกานน๊า=====tissue52
 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 923 วันที่ 11 พ.ย. 2552


คุมกำเนิด วิธีไหนเหมาะสุด !!!คุมกำเนิดวิธีไหนเหมาะสุด!!!

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ส้วม สยอง

ส้วม สยอง


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
ทำ 4 ข้อ ก็สุขได้

ทำ 4 ข้อ ก็สุขได้


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
เผยแพร่ผลงานวิชาการ

เผยแพร่ผลงานวิชาการ


เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง
^๐^  เปาบุ้นจิ้น ^๐^

^๐^ เปาบุ้นจิ้น ^๐^


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
รูปร่าง...บอกสุขภาพ

รูปร่าง...บอกสุขภาพ


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
บริหารอารมณ์

บริหารอารมณ์


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ (น้ำนมข้าวโพด)

การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ (น้ำนมข้าวโพด)

เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สุดยอด....อาหารต้านชรา
สุดยอด....อาหารต้านชรา
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

"ลักเด็ก"ส่อวุ่น 2บ้าน-แย่งลูก
"ลักเด็ก"ส่อวุ่น 2บ้าน-แย่งลูก
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

รายงานการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้านความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
รายงานการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้านความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย

 เอกสารประกอบการนิเทศ เทคนิคและการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้
เอกสารประกอบการนิเทศ เทคนิคและการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

อ่านแล้วสบายใจ
อ่านแล้วสบายใจ
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ไทยมีสิทธิ์เจอ แผ่นดินไหวเกิน 6 ริกเตอร์
ไทยมีสิทธิ์เจอ แผ่นดินไหวเกิน 6 ริกเตอร์
เปิดอ่าน 12,052 ครั้ง

เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 12,950 ครั้ง

วิธีการปลูกผักชี
วิธีการปลูกผักชี
เปิดอ่าน 26,003 ครั้ง

หากท่านต้องยกกล่องหนักๆ ลองวิธีนี้ดูสิ จะช่วยให้เบากว่าเดิม
หากท่านต้องยกกล่องหนักๆ ลองวิธีนี้ดูสิ จะช่วยให้เบากว่าเดิม
เปิดอ่าน 15,017 ครั้ง

ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ
เปิดอ่าน 19,591 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ