อุทยานแห่งชาติิแก่งกระจาน
เช้าวันเสาร์ที่ตั้งหน้าตั้งตารอมานาน เป็นเดือนก็ถึงแล้ว ดีใจเหมือนหัวล้านได้หวี เอ้ย!!! ลิงได้แก้ว เอ้ย!!! ชะนีได้กล้วย ม่ายช่ายยย ดีใจจะได้ไปเที่ยวแก่งกระจานกับเพื่อนๆ ชะนีได้กล้วยทั้งหลาย ยิ้มกริ่ม คนที่จัดการทั้งหมดก็ไม่พ้นหญิงป๊อกผู้อ่อนหวานคนนี้ คราวนี้เราจะไปล่องน้ำเพชรบุรี
ที่แก่งกระจานกัน ปิ๊งป่อง แต่น แตน แต้น แต๊น ขณะนี้เป็นเวลา 8 โมงเช้า ล้อจะเริ่มหมุนจากปั้มบางจาก (พระราม 2) จุดหมายเราคือ อุทยานแห่งชาติิแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี งานนี้ถือเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างแท้จริง ส่งสัตว์สงวนกลับคืนถิ่น อิอิ รถตู้ยังไม่ทันออกจากปั๊มก็มีเสียงร้องเรียกหาป่ากันระงมไปทั่วรถ ด้วยความที่ตื่นเต้นที่ได้กับคืนถิ่น
เดินทางเข้าสู่เขต จ.เพชรบุรี ก่อนจะเข้าแก่งกระจานเราก็หันหน้าไปคุยกันระหว่างสมาชิกว่าจะแวะไหน กันก่อนดี มีเพื่อนเสนอ เขาวัง…ดีมั้ย อืมมมม เราว่าลิงเยอะไปนะ งั้นไปไหนดีล่ะ สมาชิก 1 ใน 15 กางแผนที่เที่ยวเพชรบุรี แล้วเงยหน้าขึ้นมาบอกไป “ถ้ำเขาหลวง” กันดีกว่ามะ คงไม่มีลิงแน่เลย แล้วพวกเราก็มาสุมหัวประชุมกัน ก็สรุปกันได้ว่าที่ประชุมมติเป็นเอกฉันท์ โอเคลุย.. บอก ไม่มีลิงนี่เลย ทำให้ตัดสินใจง่ายเลย บอกโชเฟอร์รถ ไปเลยเพ่ ถ้ำเขาหลวง
ไปยังไงล่ะคราวนี้ไม่รู้จักอ่ะ…ก็เลยต้องแวะถามตลอดทางไปเรื่อย ๆ จนถึงที่ซะที เฮ้อ กว่าจะถึง พอรถได้เข้าไปในเขตของถ้ำเขาหลวงเท่านั้นแหละ โอ้โฮ !!!! เราก็พบกับสิ่งมหัศจรรย์อลังการติดอันดับโลก ลิงเยอะมากกกก ทำไงดีล่ะเนี่ยยย กลัวก็กลัว กลับก็ไม่ได้แล้วมาแล้วนี่ เอาก็เอา สงสัยต้องใช้แผนเด็ดซะแล้ว เราเรียกแผนนี้ว่าแผนเปลี่ยนชะนีเป็นฝูงลิง ฮาา แผนนี้เด็ด มันจะได้นึกว่าเป็นพวกเดียวกัน (ย๊อเย่งน่าาา) ทางป้องกันก็อย่าพกอะไรที่มีค่าเข้าไปเด็ดขาด กล้องเนี่ยต้องระวังให้ดีเลย อย่าได้ถือให้มันเห็นเป็นอันขาด เดี๋ยวมันจะคิดว่าอยากให้มันถ่ายรูปให้ เพราะเราเคยไปเที่ยวที่เขาวัง เห็นลิงกำลังถ่ายรูปนักท่องเที่ยวอยู่บนต้นไม้ ซะงั้นพระัเจ้าค่าาา พอลงจากรถตู้ก็จะมีมักคุเทศก์เข้ามาแนะนำตัวเพื่อที่จะได้เดินบอกประวัติของ สถานที่ เราก็ตัดสินใจง่ายหน่อย เพราะอย่างน้อยก็คงได้พี่เค้านี่แหละเป็นที่พึ่งพิงคอยไล่ลิงให้เรากะว่ารอด แล้วคราวนี้ พร้อมแล้ว…ไปเที่ยวถ้ำกันเลยดีกว่า ระหว่างเดินอยู่ก็จะมีขบวนรับเสด็จจากไหนไม่รู้เต็มบันไดทางขึ้นเลยอ่ะ ไกด์บอกไม่ต้องกลัวนะครับ มันไม่ทำอะไร เราก็เดินไปเรื่อย ๆ แล้วก็มีอะไรบางอย่างมาดึงรั้งแขนเราไว้ เลยหันกลับไปดูลิงเกาะแขนอยู่อ๊าา มันไม่ยอมให้ไป พี่ช่วยด้วยยยค่าาา อ่าวพี่ไปไหนแล้ว เพื่อนบอกว่าพี่เค้าลงถ้ำไปแล้ว ธ่อออพี่ ไม่ได้ช่วยไรนู๋เลย ซักพักเราก็ดิ้นหลุดซักทีแล้วก็รีบหนี
ลงถ้ำ มันก็ไม่ตามลงไปในถ้ำด้วยนะ เหมือนจะรู้เลยว่าเป็นเขตปลอดลิง
เข้าไปภายในถ้ำ ก็จะมีแม่ชีคอยให้บริการ เปิดไฟส่องสว่างภายในให้ เพราะถ้าไม่เปิดไฟคงมืดน่าดูล่ะ เดินไปก็จะ เห็นพระพุทธรูปให้สักการะบูชาเรียงรายเต็มไปหมด และก็ได้ชมหินงอกหินย้อยหน้าตาแปลก ๆ อยู่หลายที่เหมือน กัน ได้เดินดูไปเรื่อย ๆ ก็เพลินดีนะ ที่เพลินเนี่ย ก็เพราะคุณพี่ไกด์ของเราคอยบรรยายให้ฟังตลอดทางเลยได้ความรู้ไปด้วย ก็ว่าจะเอาความรู้ที่ได้มา มาเผย แพร่ให้เพื่อนๆ กัน แต่พอขาเหยียบออกจากถ้ำเท่านั้นแ หละ ความรู้ที่ได้รับมาก็หายไปในบัดดลเหมือนมีม นต์สะกดให้ลบความทรงจำนั้น แหง่ววว (แบบว่าลืมอ๊าา)
พอได้ชมความงดงา มของถ้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็พากันออกมาข้างนอก งานนี้นำโดยผู้กล้าป๊อก หั นหลังบอกเพื่อน ๆ ตามมาเลยไอ้น้อง แล้วเราก็เลยเดินจับเสื้อคุณพี่ไกด์ของเรา แบบว่าไม่มีทางไปไหน ได้ อีกแน่เพ่ พอเริ่มเดินกันออกมาข้างนอก เอ๊ะ!!! เค้ามุงดูอะไรกันน่ะ… สมาชิกของเราเลยเข้าไปมุงดูด้วยความสงสัย แต่เราไม่ได้ดูหรอกนะเพราะพี่ไกด์เค้าไม่ยอมเดินไปอ่ะ เราก็กลัวพี่เค้าหลงก็เลยยืนจับเสื้อเค้าไว้อยู่ ฮาาา ก็ปล่อยให้สมาชิกทั้งหลายเค้าดูกันด้วยความสงสัยและสัญชาติญานของไทยมุง และแล้วก็กลายเป็นเรื่องสลดใจ มีแม่ลิงกำลังนั่งกอดศพลูกลิงอยู่ที่ซอกเขา เหมือนกับว่าไม่คิดว่าลูกตายไปแล้ว หันไปดูเพื่อนน้ำตาไหลกันเลย เศร้ากันเป็นแถว เฮ้อ….อ นี่แหละมันคือวงจรของชีวิต….
ผ่าน เรื่องเศร้า ๆ กันมาแล้ว พอขึ้นรถกันได้ซักพักก็เหมือนได้กับป่ากันอีกรอบ โห่ร้องกันหญ่ายย เหมือนเมื่อกี้ไม่ได้เจอความเศร้ากันมาเลย เลยหันไปถามเพื่อนคนนึงว่า นี่เมื่อกี้ไม่ได้รู้สึกเศร้ากันเลย ชิมิ เพื่อนมันก็ตอบกลับมาว่า จะเศร้าไปทำไมเล่าคนเรา เดี๋ยวก็ตายแล้ว ดูม๊านนนนน แกจะตายก็ตายไปคนเดียวเถอะชั้นยังไม่อยากตาย มาพูดอะไรระหว่างเดินทางเนี่ย เราก็พนมมือ พูดเล่นนะค๊าพูดเล่น เอาล่ะไปกันต่อละกันคุยกับมันนานเดี๋ยวเป็นเรื่อง ไปกันต่อเลยเพ่ เป้าหมายของเราลุย!!! เอ่อ ที่ไหนนะ เออ ใช่ ๆ แก่งกระจาน Go Ahead ลั้ล ลาาา
พอออกเดินทางไปได้ซักพัก เพื่อนก็พูดขึ้นมาว่าพวกเธอจะรีบกันไปทำไมเนี่ย หาที่เที่ยวกันก่อนดีกว่ามั้ย เพื่อนคนอื่นก็รีบประสานเสียงทันทีเอาสิ ๆ เอาเลย นี่!!! พวกเธอ!!! ไม่มีความแน่นอนในชีวิตเลยช่ายม๊ายยย เพื่อนก็ว่าไปเล่นน้ำทะเลกันก่อนดีกว่านะทุกคน เราก็ เฮ้อ ให้อภัยก็ได้ ไม่ได้อยากเล่นน้ำทะเลหรอกนะ แต่สงสารเพื่อน ๆ น่ะ คงได้แต่ห้อยโหนอยู่ในป่า ไม่เคยเจอน้ำทะเล เลยอยากเล่นเป็นธรรมดา อิอิ บทความนี้เพื่อนอ่านไม่ได้นะเนี่ย โดนด่ายับแน่ๆ แต่ถ้าบังเอิญมาอ่านเจอ ก็แบบว่าา ล้อเล่นน๊าาา
และแล้วเราก็ถึงหาดเจ้าสำราญ ที่เป็นที่นี่ก็เพราะมันคือผ่านพอดี นั่นแหละเหตุผล แวะไปกะเล่นน้ำให้มันส์ซะหน่อย พอเพื่อนเห็นทะเลกัน อยู่ดีๆ ก็ไม่เล่นกันซะงั้น นี่!!! ชั้นจะเอายังไงกับพวเธอดีเนี่ย แต่มานั่งนึกดู หรืิอชะนีจะกลัวน้ำเค็ม อืมม..มีเหตุผล มีเหตุผล อ๊ะไม่ว่าก็ได้ เดี๋ยวเอาไว้ไปเล่นจืดที่แก่งกระจาน เลยละกัน
เดินเล่นกันแบบ ชิว..ชิว.. พวกเราก็เริ่มซื้อเสบียงเพื่อประทังชีวิต + น้ำ แล้วก็เดินทางกันต่อ ถามกันไปถามกันมาว่าจะแวะไหนอีกมั้ย ตอบเป็นเสียงเดียวกันอีก ว่าตรงดิ่งไปแก่งศิลป์รีสอร์ทที่แก่งกระจานเลยละกัน งั้นก็…โอเค๊…
ที่พักคืนแรกที่แก่งกระจาน และคืนเดียวของเรา (เพราะไปกันคืนเดียวอ่าา แหะๆ) ที่พักอยู่ติดแม่น้ำเพชร ไปถึงก็เก็บกระเป๋าเสื้อผ้ายัดใส่ห้องเสร็จ ก็รีบเดินไปดูแม่น้ำกันก่อนเลย อยากไปดูว่าน้ำน่าเล่นมั้ย…
สำรวจที่พัก + แม่น้ำ เสร็จแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่คนนึงเดินมาบอกว่าวันนี้น้ำไม่ค่อยใสนะเพราะ เพราะฝนเพิ่งตก น้ำจะขุ่นนิดหน่อย ไม่เป็นไรค่ะ เห็นแล้วให้อภัยได้ แล้วซักพักท้องก็เริ่มร้องเรียกหาอาหารอีกระลอกหนึ่ง งั้นขอไปเติมพลังงานก่อนนะค๊าา เดี๋ยวค่อยลงเล่นน้ำละกัน นั่งทานอาหารกันริมน้ำนั่นแหละได้บรรยากาศดี พอทานอาหารกันเสร็จ ก็…..ลงเล่นน้ำเลยดีกว่าเรา ลั้ล..ลาาา
เล่น กันอยู่ซักพัก เอ… เรือยางผ่านไปลำที่ 1 …….เรืิอยางผ่านไปลำที่ 2 …….เรือยางผ่านไปลำที่ 3…… ทุกคนก็เริ่มมองหน้ากัน จากที่เคยตกลงกันไว้ว่าจะล่องเรือยางวันพรุ่งนี้ พอเห็นลำอื่นแล้ว ความอยากและตัณหาเริ่มเข้าครอบงำ เอาวะ!!! ล่องวันนี้เลยละกัน ดูเวลาก็เกือบบ่าย 3 แล้ว จะทันมั้ยเนี่ย เลยสั่งลูกสมุนไปบอกเจ้าหน้าที่เป็นการด่วน ว่าเราจะเช่าเรือยางทันมั้ย ทางเจ้าหน้าที่ก็ว่าทัน รีบจัดการหาเรือ + ชูชีพให้ (แหม ทำอย่างกะกัปตันแจ๊ค) รอกันอยู่ซักพักนึง เรือยาง + ชูชีพ + นายคัดท้าย ก็เข้าประจำที่ เหล่าสมาชิก..พร้อม….ลุย!!!
เอ่อ ตกลงจะไปทำศึกที่ไหนหรอคะ
พวกเราล่องเรือยางประมาณชั่วโมงกว่า ๆ มีทั้งเสียงชะนีป่าร้องระงมกันไปหมด แบบว่าเหมือนได้กับป่ากัน เลยร้องกันด้วยความดีใจ อิอิ สุดท้ายก็ไปถึงจุดหมายกันซะที ด้วยระยะทางร้อยกิโลกว่า ม่ายช่ายยย 5 กิโลเท่านั้นเอ๊งง….
ที่จุดหมายก็มีรถไปรอรับกลับที่พักแก่งศิลป์ แก่งกระจาน พวกเราก็กลับมาถึงด้วยความอ่อนล้าของกล้ามเล็ก ๆ ที่เห็นป่าเลยทนไม่ไหว กระโดดลงเรือยางไปห้อยโหน คืนนั้นนอนไม่หลับทั้งคืนเลยเพราะห้อยโหนในป่าหนักไปหน่อย นอนปวดแขนปวดขากันเป็น แถว (ล้อเล่นนะ บึ๊ดจ้ำบึ๊ด หนักไปหน่อย เดี๋ยวเพื่อนๆ จะเข้าใจว่าไปห้อยโหนกันจริง ฮาา) เหตุเกิดเพราะช่วงล่องเรือคิดว่าตัวเองแข่งเรือกันอยู่ บึ๊ดจ้ำบึ๊ดกันใหญ่ มันก็ถึงเร็วน่ะซี่ ธ่อ…. ไอ้เราก็หลงไปเป็นแม่ย่านาง เชียร์ไปกับมัน เค้าพายเพื่อชมธรรมชาติกันนะ แต่นี่เล่นแข่งกันไม่ได้ชมธรรมชาติกันเลย ลืมบอกว่าเช่าเรือเค้า 2 ลำ เพราะสมาชิกเราเยอะ แบ่งกันนั่ง 2 ลำ ก็แข่งกันล่ะสิทีนี้ (ตามคำยุ ของนายคัดท้ายเรือ) พอตกดึกกล้ามเนื้อมันเริ่มออกอาการร้องโอด..โอย… ทำเอาเกือบแย่ (ไม่น่าเชื่อนายคัดท้ายเลย..เรา)
ตื่น เช้า ก็มาทานอาหารเช้า (ข้าวต้ม + กาแฟ + ปาท่องโก๋) มื้อนี้รวมอยู่ในแพ็คเก็จที่พัก ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ทานอาหารเสร็จก็เดินถ่ายรูปแบบชิว..ชิว อีกซักที ตามประสาสาว ๆ ที่ชอบถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ เช้านี้แม่น้ำแห้งเพราะเค้าปิดประตูเขื่อน ทำให้น้ำเริ่มลดลง ตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น ๆ จนเช้านี้แห้งมาก ๆ เค้าจะเริ่มปล่อยน้ำอีกทีตอนสาย ๆ หน่อย (เหมือนมีความรู้นะเนี่ย เค้าว่ามางั้นนะ)
ถ่ายรูปกันเสร็จ สมาชิกทั้งหลายก็เก็บสัมภาระส่วนตัว เตรียมอำลาจาก รีสอร์ท เราจะไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกันต่อ ระหว่างทางผ่านสันเขื่อน ก็แวะถ่ายรูปกันอีกแล้วครับท่าน..
ถ่ายกันจะสะใจแล้วก็เดินทางเข้าที่ทำการแก่งกระจานกันต่อ
ส่วนตัวแล้วเราเคยเข้ามาหลายครั้งแล้ว แต่เป็นครั้งแรกที่พาสมาชิกมาเที่ยวทุกคนเลยดูตื่นตาตื่นใจ ถ่ายรูปกันยกใหญ่ บางคนไม่ชอบไปเที่ยวหน้าฝน เพราะมันลำบาก แต่เราลองออกไปเที่ยวหน้าฝนดูซักครั้ง แล้วจะติดใจ สีเขียว ๆ ที่เห็นตลอดทริปการเดินทางทำให้เราหายเหนื่อย อะไร ๆ ที่ทำให้เราอ่อนล้าจากในเมือง แค่ได้นั่งรถออกมานอกเมืองซักนิด ก็ทำให้เราสดชื่นจนลืมความอ่อนล้านั้นได้เหมือนกันนะ (ลองดู) +กับ คนเที่ยวหน้าฝนไม่มาก บางที่เหมือนเป็นที่ส่วนตัวเลย เงียบสงบดีจัง (สำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายนะ)
โอ้ยยยยย มองแต่สีเขียว จนตาจะกลายเป็นสีเขียวแล้ว
เดินถ่ายรูปกันเสร็จ เริ่มหิวแล้วสิ ออกไปหาอะไรกินดีกว่า เกือบบ่ายแล้ว ทริปนี้ได้ไปแค่ที่ทำการแก่งกระจาน ไม่ได้ขึ้นไปเที่ยว พะเนินทุ่ง เพราะช่วงที่ไป เค้าปิดให้ป่าได้พักผ่อน เพื่อเตรียมรับศึกหนักช่วงหน้าหนาว
อิ่มใจ กับบรรยากาศสีเขียว ๆ + อิ่มท้องแล้ว เราไปไหว้พระกันต่อดีกว่า ออกจาก อช.แก่งกระจาน ไม่ไกลมาก มี อุทยานเจ้าแม่กวนอิมพันมือ (ไม่รู้เรียกถูกป่าว) สถานที่กว้างมาก จริง ๆ แล้วเค้าให้จอดรถไว้ที่ลานจอดรถ แล้วนั่งรถรางเล็ก ๆ เข้าไปเที่ยว แต่คันของเราได้สิทธิพิเศษ เพราะมีในรถมีคนใช้ไม้เท้าคนนึง เจ้าหน้าที่เลยอนุญาต ให้เราเอารถเข้าไปได้
ข้างในศาลาที่เจ้าแม่กวนอิมประทับ เย็นสบายมากเลย ไหว้เสร็จ อาศัยนั่งหลบร้อนอยู่พักนึง พอเดินออกมานอกศาลาเท่านั้นแหละ โอ้…..แดดร้อนมั่ก..มากกก แอบไปหลบอยู่ใต้ต้นไม้อีกแล้ว คนอายุมากสู้ไม่ไหว ปล่อยให้เหล่าสมาชิก(อายุน้อย)เค้าเดินไปเที่ยวกัน ได้แต่แอบเอารูปเค้ามาดู คิดซะว่าได้เดินไปดูเองละกันเรา
เดินกันจนเหนื่อยได้ที่แล้ว ก็รวมตัว เตรียมตัวเดินทางกลับไปผจญ กับโลกของความเป็นจริงอีกครั้ง ถึงจะเป็นทริปสั้น ๆ แค่ 2 วัน 1 คืน แต่มันก็สามารถชาร์ทความสดชื่น ให้เราทุกคนในทริปได้กลับไปสู้กับความเหนื่อยล้าในเมืองได้บ้าง ไม่มากก็น้อย……
หนึ่งจุดหมาย…..ที่เราได้เดินทางไป แต่ไม่ใช่ ปลายทาง…..สุดท้าย ที่เราจะไปถึง
ยังมีอีกหลาย….จุดหมาย…ที่อยากจะเดินทางไปหา
สำหรับคนชอบเดินทาง คงเปลี่ยน..จุดหมาย…ไปเรื่อย ๆ แต่คงไม่มี…ปลายทาง…ที่สิ้นสุด
จบทริปแก่งกระจานจ้าา….พบกันใหม่ ทริปหน้าเมื่อมีตังค์…จ้า…..
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@