เมื่อก่อนนี้โลกมืดมิด ไม่มีแสงอาทิตย์ ผู้คนต้องอยู่กันมืดๆ สัตว์ร้ายก็ชุกชุม
สัตว์ร้ายมาทำร้ายคน อยู่เสมอชาวบ้านจึงคิดจะกำจัดสัตว์ร้าย แต่จะต้องมีแสงสว่าง
ชาวบ้านจึงมาประชุมกันว่าจะทำอย่างไรให้ได้แสงสว่าง ผู้เฒ่าผู้ทรงความรู้บอกว่าจะ
ต้องส่งคนไปหาพระอาทิตย์ให้ส่องแสงมาที่โลกทีนี้มี ปัญหาว่าใครจะไปเพราะระยะ
ทางไกลมาก จะต้องเดินทางอย่างน้อย 70-80 ปี มีชายหนุ่มแข็งแรงหลายคนอาสา
แต่เด็กน้อยคนหนึ่งบอกว่า "ให้หนูไปดีกว่าหนูเพิ่งอายุ 10 ขวบจะได้เดินได้หลายๆปี"
หญิงมีครรภ์ผู้หนึ่งอายุ 18 ปี พูดว่า "ฉันขออาสาไปเองเพราะระยะทางไกลมากอย่างนั้น
ถ้าฉันเดิน ไม่ไหว ลูกก็จะเดินต่อไปได้" ชาวบ้านได้ฟังเช่นนั้นก็เห็นด้วยและช่วยกันจัด
อุปกรณ์เครื่องใช้และอาหารให้แก่นาง
หญิงนั้นก็เดินทางไปทางทิศตะวันออกด้วยความตั้งใจ เดินวันละตั้งหลายลี้เพราะ
นางเป็นคนแข็งแรง หญิงสาวและบุตรชายก็ได้เดินทางต่อไประหว่างทางชาวบ้านใน
ท้องถิ่นที่ผ่าน เมื่อทราบว่านางเดินทางไปขอแสงสว่างจากพระอาทิตย์ก็พากันช่วยเหลือต
ลอดทาง
หญิงสาวกับบุตรชายเดินทางเป็นเวลาหลายปี จนอายุ 70 ปี นางเดินไม่ไหวจึง
ขอหยุดพักและให้บุตรชายเดินทางต่อ ส่วนชาวบ้านที่หญิงสาวอยู่ คอยเป็นเวลา
หลายปีก็คิดว่านางคงเสียชีวิตแล้วแต่แล้ววันหนึ่งทุกคนก็เห็นแสงสว่างขึ้นที่ขอบฟ้า
ทางทิศตะวันออกและพระอาทิตย์จะส่องแสงให้ความร้อนและแสงสว่างตลอดวัน
และลับไปในตอนเย็นทางด้านทิศตะวันตก สัตว์ร้ายทั้งหลายก็ถูกชาวบ้านปราบจน
ต้องหนีเข้าไปอยู่ในป่าทึบ ชาวบ้านรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณของหญิงสาวกับลูกมาก
เพราะฉะนั้น เขาจึงลุกขึ้นทุกเช้าไปทำงานในทุ่งนากับแสงอาทิตย์และกลับบ้านเมื่อ
พระอาทิตย์ตกเพื่อระลึกถึง หญิงสาวและบุตรที่เดินทางไปขอให้พระอาทิตย์ส่องแสง
มาที่โลก