นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ.ได้ประสานงานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกระทรวงการคลัง เพื่อเข้าไปสุ่มตรวจสอบบริษัทขายตรงที่ทำธุรกิจแอบแฝ งในลักษณะของการระดมทุน หรือแชร์ลูกโซ่ทั่วประเทศ
เนื่องจากในช่วงนี้ผู้บริโภคจำนวนมากร้องเรียนเข้ามา ว่าได้รับความเดือดร้อน จากบริษัทขายตรงเหล่านี้ ชักชวนให้ร่วมลงทุนในสินค้าประเภทต่างๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ชวดเงินหนีไปหมด หากพบว่ากระทำผิดจริง สคบ.จะเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจขายตรงทันทีพร้อมจ ะแจ้งความดำเนินคดีใน ข้อหาฉ้อโกงประชาชน
"ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงบางราย ใช้วิธีการหลอกลวงผู้บริโภคที่ตกงาน เพราะต้องการรายได้เพิ่ม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว สคบ.จึงเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ด้วยการเร่งตรวจสอบ บริษัทที่จดทะเบียนทำ ธุรกิจขายตรงกับ สคบ. 300 แห่ง แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจ โดยได้ มอบอำนาจให้กองบังคับการตำรวจคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าไปดำเนินการแล้ว และหากพบว่าเป็นธุรกิจไม่มีตัวตน ไม่มีการเคลื่อนไหวทางธุรกิจ หรือดำเนินธุรกิจผิดวัตถุประสงค์จากการขึ้นทะเบียนจะ ถอนใบอนุญาตทันทีเช่น กัน"
นายนิโรธกล่าวต่อว่า ได้เร่งแก้ไขปัญหาในเชิงรุกด้วยการร่วมมือกับสมาคมขา ยตรงไทย เพื่ออบรมให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจขายตรงกับประชาชน ทั่วไป รวมถึงเยาวชนด้วย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงเพื่อสร้างภ ูมิคุ้มกันให้กับตนเอง และปกป้องสิทธิของตนเองไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากไทยรัฐ