เมื่อแจ่มนภารู้จักกับพงศกรใหม่ๆ เธอเห็นว่าเขาเป็นคนหน้าตาดี มีอนาคตไกล มีการศึกษาดีระดับปริญญา เธอรู้สึกทึ่งในตัวเขาและเมื่อเดินไปไหนด้วยกัน เธอก็จะรู้สึกภูมิใจที่เป็นคู่ควงของเขา
แม้ว่าบางครั้งเธอรู้สึกว่าเขาดูจะหลงๆ ตัวเองอยู่บ้าง เธอก็จะให้อภัยและบอกกับตัวเองว่า ก็คนเราถ้ามีอะไรพร้อมทุกอย่าง ก็น่าจะภาคภูมิใจในตัวเอง และเมื่อพงศกรขอแต่งงานกับเธอ เธอก็รู้สึกวา เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก
แต่เมื่อแต่งงานไปได้สักพักเมื่อความ "หลงในรูป" ของเขาได้จางลงไปจากใจของเธอ เธอเริ่มเห็น "ตัวตน" ที่แท้จริงของเขา เธอเพิ่งจะเห็นว่า พงศกร เป็นบุคคลที่ถูกพ่อแม่ตามใจตั้งแต่เล็ก เมื่อเขาต้องการอะไรเขาจะต้องได้ และเขาก็จะคำนึงถึงแต่ความต้องการของตัวเขาเอง มากกว่าความต้องการของเธอ เขาเป็นชายหนุ่มที่ "หลง" ในรูปของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง เขาจะใช้เวลาและเงินทองเป็นจำนวนมาก เพื่อตกแต่งและซื้อข้าวของมีราคามาประดับร่างกายของเขา ของทุกชิ้นมักเป็นของที่มียี่ห้องจากต่างประเทศ
แจ่มนภาเริ่มรู้สึกอึดอัดในการมีชีวิตคู่ร่วมกับเขา ยิ่งกว่านั้นเธอพบว่า ภายใต้เครื่องตกแต่งที่หรูเริ่ดนั้น เขาช่างไม่ใคร่มีอะไรในมันสมองที่จะเทียบเคียงกับเครื่องตกแต่งภายนอกของเขาเสียเลย เธอไม่เข้าใจว่าทำไม เธอจึงไม่เห็นสิ่งนี้ก่อนแต่งงานกับเขา
ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่กำลังเป็นปัญหาสำหรับเธอก็คือ เขามักชอบที่จะมีเพื่อนชายมาหน้าหลายตา มีบางคนเคยเตือนเธอว่า เขาเป็นคนที่ชอบทั้ง 2 เพศ เธอฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ขณะนี้เธอเริ่มไม่มั่นใจและรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำทั้งเป็น
เรื่องของแจ่มนภา เป็นเรื่องที่เคยเกิดแล้วกับผู้หญิงหลายคน ถ้าเราจะวิเคราะห์เรื่องของเธอ เราก็คงจะพูดได้คำเดียวว่า เธอไปหลงรักผู้ชาย "อันตราย" หนึ่งในหลายๆ ชนิดที่จะได้กล่าวถึงต่อไป
ผู้ชายอันตรายที่ผู้หญิงควรจะระวังตัวมีชนิดใดบ้าง ?
ผู้ชายอันตราย ที่คุณผู้หญิงน่าจะพิจารณาให้ดีก่อนเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย มีหลายประเภทเช่น
1. ประเภท "สามีคนอื่น"
ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว ถือเป็นอันตรายสูงสุดประเภทที่ 1 ที่ผู้หญิงโสดอย่าเผลอตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะชั้นเชิงของเขามีมากมาย ความจัดเจนในการมีครอบครัวแล้ว จะทำให้คุณหลงคารมเขาโดยง่าย คำพูดที่มักจะติดปากพวกผู้ชายภรรยาเผลอเหล่านี้ก็คือ
"ภรรยาไม่เข้าใจเขา"
"เขาไม่มีความสุขในครอบครัว"
"คุณเป็นผู้หญิงที่เข้าใจเขาที่สุด" ฯลฯ
เมื่อคุณฟังแล้วก็จะเคลิบเคลิ้มนึกว่าจริงทำให้ผู้หญิงบางคนปล่อยใจกายและบางทีทรัพย์สมบัติ ไปให้แก่ผู้ชายเหล่านี้ และก็ได้แต่เฝ้าคอยว่า เมื่อไรเขาจะเลิกกับภรรยา (ตามที่เขาบอกคุณ) แต่ในที่สุดการรอคอยของคุณก็ล้มเหลวเพราะเขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกกับภรรยาให้คุณเลย
ถ้าคุณเจอกับผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว และเขาแสดงทีท่าสนใจคุณพยายามหลีกหนีไปให้ไกล เพราะถ้าเผลอใจยุ่งเข้าไป คุณจะมีแต่ความทุกข์ เพราะไหนจะต้องมาผจญกับความอาฆาตมาดร้ายจาก "เมียหลวง" ของเขา และยังต้องมาผจญกับความรู้สึกผิดที่เกิดกับจิตใจตัวเอง เสียทั้งขึ้นทั้งล่องจริงๆ
2. ประเภท "ลูกติดแม่"
ถ้าคุณไปเจอปะเภทนี้ ก็เรียกได้ว่า คุณตายทั้งเป็น เพราะคุณกำลังนำตัวเข้าไปแข่งกับแม่ของเขา (ซึ่งคุณไม่มีทางชนะเลย) ถ้าเป็นผู้หญิงอื่น นังนั่น นังนี่ ก็ยังจะพอฟัดพอเหวี่ยงกันไหว แต่เมื่อคุณอาจหาญลง ไปแข่งแรลลี่กับแม่ของเขารับรองคุณมีแต่ทางแพ้กับแพ้
ผู้ชายประเภท "ลูกติดแม่" ไม่เพียงแต่ถูกแม่ตามใจจนเสียเด็กเท่านั้น ในสายตาของแม่เขานั้น ยังมองไม่เห็นว่า จะมีผู้หญิงคนใดเลยที่ดีพอสำหรับลูกชายสุดที่รักของเธอ เธออาจจะทำตัวหวานเย็นกับคุณในระยะแรก แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็จะแสดงความเกลียดชังในเหล่าหญิงสาวทั้งหลาย ที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทำให้คุณเริ่มรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ว่าเธอจะพูดถึงคุณกับคนอื่นๆ ว่าอย่างไร และเมื่อเขาอยู่กับแม่ของเขา เขาก็จะกลายเป็นลูกแหง่ที่แม่จะต้องคอยประคบประหงม และแม่เขาก็จะพูดกรอกหูอยู่ตลอดเวลาว่า ไม่มีใครรักและสามารถปรนนิบัติเขาได้อย่างที่เธอทำให้เขา
เมื่อคุณรู้จักเขาเป็นครั้งแรก คุณแทบจะไม่มีวันรู้เลยว่า เขาเป็นประเภทลูกติดแม่ เพราะท่าทางเขาดูดี มีความรับผิดชอบสูง มีความอ่อนโยน และรู้จักหน้าที่ของพ่อบ้านเป็นอย่างดี แต่แท้ที่จริง ชีวิตเขาจะวนเวียนอยู่กับแม่ของเขาเสมอ เขาจะเป็นลูกชายที่แสนดีพาแม่ไปตากอากาศ ไปซื้อของ ไปทานอาหารและไปหาเธอแทบจะทุกวัน และหากคุณไปแต่งงานกับเขาและเผอิญอยู่ต่างบ้านกัน คุณก็จะได้รับโทรศัพท์จากแม่เขาพูดกับลูกชายอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเผอิญอยู่บ้านเดียวกัน เขาก็จะขลุกกับแม่ของเขามากกว่าคุณ และหากคุณบ่นถึงเรื่องนี้เขาก็จะบอกคุณว่า เขามีแม่เพียงคนเดียว ขอให้คุณเข้าใจเขา แล้วคุณจะทนได้หรือ ?
3. ประเภท "ขุนแผน"
กลุ่มนี้คือ ผู้ชายเจ้าชู้ทุกประเภท เป็นผู้ชายที่ชอบยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงหลายคนในเวลาเดียวกัน เขาอาจจะมีครอบครัวแล้วหรือยังโสดอยู่ก็ได้ เขาจะไม่สนว่าคุณจะมีสามีหรือไม่ เขาสามารถหาเหตุผล ที่จะเข้ามายุ่งกับคุณได้ตลอดเวลา และเขาก็ไม่สนว่าภรรยาและลูกของเขาจะเจ็บปวด เพราะการกระทำของเขาเพียงใด
พวกขุนแผนนี้ มักจะมีบาดแผลทางจิตใจสมัยเด็ก เขามักจะมาจากครอบครัวที่ไม่อบอุ่นนัก ความต้องการทางจิตใจมักจะไม่เคยได้รับการตอบสนองจากพ่อแม่ของเขา การ "ได้" ผู้หญิงคนแล้วคนเล่าของเขาจึงเปรียบเสมือนการแสวงหาสิ่งทดแทนการขาดความรักในช่วงวัยเด็ก แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถกลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้งหนึ่ง การแสวงหาสิ่งทดแทน จึงไม่สามารถทำให้จิตใจ ที่หิวโหยนี้เต็มอิ่มขึ้นมาได้จริงๆ
ถ้าคุณไม่อยากอกหักช้ำใจทั้งชาติ ก็หลีกผู้ชายชนิดนี้ไปให้ไกลๆ แต่คุณต้องระวังว่า ผู้ชายเจ้าชู้มักปากหวาน เอาใจเก่ง คุณไม่ควรไปหลงคารมของเขา ให้จำไว้ว่าหวานเป็นลมขมเป็นยาก็แล้วกัน แต่ถ้าคุณพลาดใจไปแต่งกับเขาเข้าแล้ว คุณก็ต้องทำใจว่า เขาไม่ใช่สมบัติของเรา แต่เป็นของแผ่นดินที่คุณต้อง "แบ่งกันกินกันใช้กับสาวอื่นก็แล้วกัน"
4. ประเภท "ยูงลำพอง"
พวกนี้จะเป็นผู้ชายแบบพงศกร ที่มักจะหล่อเหลา ท่าทางดูดีไปหมด ความหล่อของเขา ทำให้ดูจะหลงตัวเองมากไปหน่อย มองอะไรก็จะตื้นๆ แค่รูปลักษณ์ภายนอก ผู้ชายกลุ่มนี้มักจะแสวงหา ผู้หญิงสวยหรือรูปร่างหน้าตาเข้าทีมาควงคู่หรือแต่งงานด้วย เขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลร่างกายให้หล่อเหลา และ "เนี๊ยบ" อยู่ตลอดเวลา
เมื่อพลังงานของเขาทุ่มอยู่กับการตกแต่งภายนอก ทำให้เขาลืมการ "ตกแต่งภายใน" ผู้ชายเหล่านี้ เมื่อมองผ่านเสื้อผ้าราคาแพงเข้าไป จึงมองไม่เห็นความน่าสนใจในตัวเขาเลย และเมื่อคุณพูดกับเขาสักพัก คุณก็จะรู้สึกเบื่อเพราะดูเหมือนมันสมองของเขามิได้รับการพัฒนาให้เจริญไปพร้อมๆ กับร่างกายเท่าใดนัก
นอกจากนี้เขาก็ยังมีการ "หลง" ในความหล่อของตนเองคล้ายดอกนาซิสซัสที่หลงเงาตัวเอง อย่างไรก็อย่างนั้น ผู้ชายประเภทนี้เหมาะจะเอาไปควงโชว์ในรายการ "โดมอนแมน" มากกว่าจะนำมาเป็นคู่ชีวิต
5. ประเภท "เจ้าเหนือหัว"
พวกนี้ชอบสำคัญตนผิด คิดว่าตนคือผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ ชอบบังคับให้ผู้อื่นมาอยู่ใต้อำนาจของเขา ถ้าคุณไปรักคนประเภทนี้ คุณก็ต้องรับคำสั่งเขาอย่างเดียว เขาอาจจะเข้ามาวุ่นวายกับการคบเพื่อนของคุณ การใช้ชีวิตของคุณ ถ้าไปไหนด้วยกันเขาก็จะเล่นบทผู้ปกครองของคุณและออกคำสั่งกับคุณตลอดเวลา คุณต้องหันซ้ายขวาตามที่เขาต้องการ ถ้าอยู่ห่างจากกัน เขาก็จะต้องพยายามให้รู้ได้ว่า คุณกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหนกับใคร แต่คุณจะต้องไม่หลงผิดคิดว่ามันคือ ความรัก ความห่วงใย เพราะแท้ที่จริงก็คือ เขาเป็นคนที่ชอบครอบงำผู้อื่น และต้องการใช้อำนาจของเขาบังคับให้คุณเป็นไปตามความต้องการของเขาเท่านั้น
ในตอนแรกๆ คุณอาจจะคิดดีใจว่า นี่เป็นลักษณะของผู้นำที่คุณแสวงหามานาน แต่จริงๆ แล้ว เขาแสดงลักษณะเผด็จการออกมาต่างหาก หาใช่การเป็นผู้นำไม่ ผู้ชายที่เป็นผู้นำมักจะให้เกียรติแก่ผู้หญิง ของเขาเสมอ แต่ผู้ชายชนิดนี้ไม่เคยให้เกียรติแก่ใครเลย
บุคคลประเภทนี้มักจะมาจากครอบครัวที่ไม่ใคร่ให้ความสำคัญกับเขามากนัก ทำให้เขาต้องมาแสดงอีโก้ หรือแสนยานุภาพนอกบ้านเอากับคุณ แล้วคุณทนได้หรือ ? รับรองว่าถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่มีความเคารพ ในตัวเองคุณย่อมทนไม่ได้แน่นอน
6. ประเภท "นักกายกรรม"
ประเภทนี้ได้แก่ผู้ชายที่ชอบลงมือลงไม้กับผู้หญิง เห็นผู้หญิงเป็นสมบัติส่วนตัวที่อยู่ในปกครอง คิดจะบีบก็จะตายคลายก็รอด บางทีก็จะเอาภรรยาหรือลูกเป็นแพะรับบาป เมื่อเขาเครียดจากที่ใดก็ตาม เช่น มีเรื่องกับหัวหน้างาน หาทางออกไม่ได้ก็จะนำความหงุดหงิดมาลงกับบุคคลที่เป็น "เหยื่อใกล้มือ" เพราะภรรยาและลูกโต้ตอบไม่ได้
บุคคลชนิดนี้ มักมีจิตวิญญาณคล้ายเด็กที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง แม้ว่าร่างกายเขา จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็ตาม แต่ภายในก็คือเด็กที่ขาดความอบอุ่น มีชีวิตในวัยเด็กที่ไม่รู้จักการได้รับ ความรักจากผู้ใด และไม่รู้จักวิธีที่จะเรียนรู้ที่จะถ่ายทอดความรักความอบอุ่นให้แก่ผู้อื่นโดยไม่ใช้ความรุนแรง เขามักจะมีพ่อแม่ที่ทุบตีกันให้เห็นอยู่เป็นประจำ ทำให้เติบโตมาด้วยภาพเงาของความรุนแรงในครอบครัว
เท่าที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นผู้ชายอันตรายหลายๆ ประเภทที่ผู้หญิงควรจะออกให้ห่าง อาจจะยังมีอีกหลายๆ ประเภทที่ไม่ได้นำมากล่าวทั้งหมด เช่น พวกนักเลงการพนัน พวกดื่มจัด หรือพวกรักร่วมเพศ เป็นต้น ที่กล่าวมาเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ที่ผู้หญิงทั้งหลายควรจะต้องระวังให้ดี ถ้าจะมีความสัมพันธ์กับผู้ชายเหล่านี้ ถ้าคุณยังไม่ได้รักก็ควรพิจารณาให้รอบคอบ เพราะคนเราคิดจะมีแฟนทั้งที สมควรที่จะได้คนรักที่ดีและให้ความสุขแก่เราใช่ไหมคะ ?
โดยนวลศิริ เปาโรหิตย์