เมื่อสอบปลายภาคมาถึง ผลสองนักเรียนสอบผ่านไม่ถึงร้อยละ 5 นอกนั้นตกเรียบ ก็มาวิเคราะห์สาเหตุคืออะไร ดูจากข้อสอบแล้ว ภาษาอังกฤษของนักเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่แย่ บางคนเขียนชื่อตัวเองเป็นภาษาอังกฤษยังไม่เป็น ทั้งที่มีการเรียนภาษามาตั้งแต่ ม.1 (เป็นไปได้ไงเนี่ย) แต่ก็อาจจะเพราะฐานไม่แน่นไม่เป็นไร มาแปลกใจกับพวกที่ตกเนี่ยสิ มาถึงมาถามว่าครูอยากได้อะไร จะได้เอามาแลกเกรด ไอ้คำถามนี่สิทำให้เราแปลกสุด ๆ มีด้วยเหรอ เลยแกล้งเซ่อถามไปอีกว่า เธอหมายความว่าอะไร เด็กก็ตอบว่า ก็ครูอยากให้พวกผมซื้ออะไรให้ก็บอก ผนจะซื้อให้แล้วแลกเกรด 1 เพื่อเค้าจะได้จบเอาใบ รบ.ไปหาที่เรียนต่อ เลยถามว่า มีด้วยเหรอ เค้าก็บอกว่าหลายวิชาก็แก้กันแบบนี้ ตอนนี้ผมเริ่มถึงบางอ้อ เลยบอกว่าไม่เอาให้สอบใหม่ เค้าบอกว่าเสียเวลา ผมก็ไม่ยอม สุดท้ายก็บอกว่าพบกันครึ่งทาง ครูจะเอาข้อสอบเก่ามาให้ทำ แล้วแก้ข้อที่ผิด เค้าก็บอกว่าเสียเวลายังมีอีกหลายวิชาที่ยังไม่ได้แก้ เลยถามว่าตกทั้งหมดกี่ตัว เค้าบอก 33 ตัว (กรี๊ด) เนี่ยหมายถึงเจ้าหมอนี่ติด 0 มาตั้งแต่ ม.1 เลยอะดิ แล้วโรงเรียนให้มันผ่านมาได้ไง โดยไม่แก้นะ ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์จะถามแล้ว เลยต้องดำเนินการให้สอบด่วน ไม่เรียกว่าสอบแก้ตัวหรอก สอนวิธีให้ตอบคำถามในข้อสอบ จนเสร็จ มานั่งนึกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับโรงเรียนนี้ นี่ไม่ใช่แค่รายเดียวนะ พวกที่สอบตกน่ะ ร้อยละ 60 เลยที่เป็นอย่างนายคนแรก (งงอะ) วันนั้นเราเห็นนักเรียนตามหาครูผู้สอนกันวุ่นไปหมด ก็แน่ล่ะ เล่นติด 0 กับ ร. บางวิชาก็ มส. กันตั้งแต่ ม.1 นี่ มันเป็นไปได้ไงนะ
จนผ่านเข้าปีการศึกษาใหม่ ตอนแรกกะว่าจะถอดใจ แต่ด้วยความอยากรู้น่ะ ว่าระบบมันเป็นไรแปลกดี เลยสอนในปีถัดมา คราวนี้เราจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เลยไปคุยกับครูใหญ่ ถามให้แน่ในเลยว่าหน้าที่ของผมน่ะ ในฐานะครูพิเศษ ทำไรได้ ครูใหญ่บอกมีศักดิ์และสิทธิ์เหมือนครูทุกคนในโรงเรียนนี้ ก็โอเค เริ่มดำเนินการสอนตามแผนที่วางไว้ ปีนี้เริ่มที่จะมีการทำแผนการสอน แรก ๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าเขียนไง (ไม่ได้เรียนครูมานี่) แต่ก็ดูตามตัวอย่างก็พอเข้าใจ เขียนแผน ปกติเค้าบอกให้ส่งสัปดาห์ละครั้ง แต่แปลกอีกครูบางคนทำแผนเสร็จตั้งแต่ยังไม่เปิดสอนเลย แถมสรุปเรียบร้อยว่า นักเรียนมีความเข้าใจเป็นอย่างดี (มันเป็นไปได้ไง) แถมแผนเล่นนี้ได้เป็นแผนโชว์เวลามีผุ้ใหญ่มาตรวจงานด้วย(แปลกไหมอะ) แต่ช่างเหอะ ผมก็ส่งรายสัปดาห์ แต่ตอนประเมินบาทบทผมบอกว่าต้องมีการสอนซ้ำ หรือสอนเพิ่ม โดยการสอนเสริม วิชาการก็เรียกไปคุยว่าเขียนแบบนี้ไม่ได้ เพราะครูต้องสอนให้ครบตามบทเรียนที่กำหนด ในแต่ละภาค (ไรวะ ก็นักเรียนมันยังไม่รู้เลยจะข้ามไปได้ไง) ก็โอเค แก้ก็แก้ การสอนก็ไปถึงสอบเก็บคะแนน นักเรียนเราก็ตกตามระเบียบ เลยเรียกมาสอบแก้ตัว สิ่งที่ผมคาใจก็ได้กระจ่างทันที เพราะเด็กให้คำตอบกับผมว่า ยังไม่มีอารมณ์สอบแก้ตัว เอาไว้ก่อน (มันน่า...จริงๆ) เลยใช้วิธีให้ทำรายงาน โดยกำหนดวันส่ง ได้ผลเหมือนเดิม ไม่มีเด็กนำรายงานมาส่ง (มันไรกันนักกันหนา) แถมสถิติการขาดเรียนของนักเรียนมากผิดปกติ ครูบางท่านก็ใช้วิธีนั่งเทียนว่าเด็กมา บางคนเช็คให้ มส.แล้ว แต่ถึงเวลาสอบก็มาสอบหน้าตาเฉย (ทำยังกะเรียนทางไกล) การแต่งตัวของนักเรียนก็ไม่มีระเบียบ แถมครั้งหนึ่งเห็นกับตา พ่อเจ้าประคุณเอารองเท้าขว้างใส่กัน เฉี่ยวครูผู้หญิงไป ครูก็เรียกมาต่อว่าว่าทำไมไม่ขอโทษ เด็กตอบว่าแล้วมันถูกครูยัง (นี่หมายถึงโดนก่อนถึงจะขอโทษ) เวลาขึ้นลงบันได้แทบจะวิ่งชนครู เรื่องทำความเคารพเหรอ แทบไม่เห็นจนกระทั่งมาประชุมครู ครั้งนี้ครั้งแรกที่มีโอกาสได้เข้าร่วมประชุม เลยเสนอโรงเรียนว่าปัญหาคือเด็กขาดวินัย ขอให้เน้นวินัยก่อน ถ้าเด็กมีวินัย อะไรต่าง ๆ ก็จะดี ได้ผลมาก ครูเกือบครึ่งห้องไม่ทักไม่คุยผมเป็นสัปดาห์ โดยเหตุว่า เป็นแค่ครูพิเศษ สาระแน แต่แล้วแต่จะคิด ตอนนั้นผคิดถึงว่าจะทำอย่างไรให้เด็กดีก็พอ วันหนึ่งเป็นวันเรียนชดเชย ผมไม่ต้องไปทำงานประจำ ก็เลยมาโรงเรียนแต่เช้า โอ้โห นักเรียนไม่ยอมเข้าโรงเรียน ยืนหลบอยู่แถวหน้าโรงเรียน เลยถามว่าไม่เข้าไปเรียนเหรอ เด็กบอก รอดูก่อนถ้าเพื่อนขาดแยะก็ไม่เข้า (มีงี้ด้วย) จากนั้นก็สลายตัวกันไปร้านเกมส์ที่อยู่ใกล้โรงเรียน จนต้องตามไปไล่บ่อย ๆ ร้านเกมส์เนี่ยก็เป็นปัญหา เพราะช่วงกลางวันหรือเย็นพอโรงเรียนเลิกเนี่ย มันอะไรกันนักหนา วิ่งแข่งกันไป กลัวจะไม่มีที่นั่ง แต่เวลาเข้าเรียน นั่งหลับราวกับวิญญาณออกจากร่าง แปลกดี จากการประชุมวันนั้นผมก็ไม่คิดที่จะออกความเห็นอะไรอีก เพราะดูท่าว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า เราทำของเราในส่วนของเราดีกว่า ผมก็เริ่มที่จะดำเนินการแก้ไขด้วยวิธีของผมต่อไป