Advertisement
เชื่อหรือไม่ว่า สัญชาตญาณในการดมกลิ่นของคุณหรือความยาวของนิ้วมือคุ ณ สามารถทำนายถึงสุขภาพในอนาคตของคุณได้ นักวิทยาศาตร์พบว่า ลักษณะทางกายภาพที่แน่นอนของคนเรา สามารถแสดงให้เห็นถึงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคอัลไซเมอร์ เบาหวาน หรือมะเร็ง ซึ่งถ้าคุณมีลักษณะบางอย่างที่จะกล่าวต่อไป ขอให้อย่าเพิ่งตกใจ เพียงแค่เป็นข้อควรระวังเท่านั้น เริ่มจาก
1. ความยาวของนิ้วมือ
จากผลการวิจัยของอังกฤษ พบว่าคุณสุภาพสตรีท่านใดที่มีความยาวของนิ้วชี้น้อยก ว่านิ้วนางหล่ะก็ นั่นแสดงว่า คุณมีโอกาสตกอยู่ในภาวะโรคข้อกระดูกเสื่อมที่หัวเข่า มากกว่าคนที่ีนิ้วชี้ ยาวกว่านิ้วนางถึง 2 เท่า
นอกจากนี้ผลการวิจัยยังพบอีกว่า สำหรับผู้ชายที่มีนิ้วชี้สั้นกว่านิ้วนาง แสดงว่ามีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในระดับต่ำ ซึ่งเจ้าฮอร์โมนนี้มีบทบาทสำคัญในการก่อให้เกิดโรคไข ข้อกระดูกอักเสบ
ข้อแนะนำ พยายามทำให้กล้ามเนื้อรอบๆ หัวเข่าของคุณแข็งแรงขึ้น ขณะที่นั่งอยู่ก็ให้พยายามยืดขาของคุณแต่ละข้างให้ตร งในแนวที่ขนานกับพื้น ประมาณ 10 ครั้ง และหดขาเข้ามาประมาณ 5-10 วินาที
2.ความยาวของขา
ถ้าขาทั้ง 2 ข้างของคุณมีลักษณะสั้นม้อต้อ คำเตือนคือ คุณต้องหมั่นดูแลรักษาตับของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดีอย ู่เสมอ
จากผลการศึกษาเมื่อปี 2008 พบว่า ผู้หญิงที่มีความยาวของขาระหว่าง 20-29 นิ้ว มีแนวโน้มว่าจะมีอัตราของเอนไซม์ 4 ตัวที่สูงเกินไปจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตับ นักวิจัยยังระบุอีกว่า ปัจจัยเรื่องของอาหารการกินในวัยเด็กนั้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ ไม่ได้ส่งผลเฉพาะต่อการเจริญเติบโตเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงพัฒนาการของตับในตอนโตอีกด้วย
ข้อแนะนำ หลีกเลี่ยงกระบวนการที่จะส่งสารพิษไปยังตับของคุณ เพราะนั่นจะช่วยทำให้ตับของคุณมีสุขภาพดีและยืดอายุก ารทำงานของมัน และคุณไม่ควรลืมสวมถุงมือหรือหน้ากากทุกครั้งที่ต้อง สัมผัสกับสารอันตราย หรือสารเคมี ที่สำคัญต้องจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกฮอล์ต่อวันด้ วย
3.สัญชาตญาณในการดมกลิ่น
จากผลการศึกษาเมื่อปี 2008 พบว่า ไม่ว่าจะเป็นคนแก่หรือวัยรุ่นที่ไม่สามารถระบุกลิ่นของกล้วย มะนาว ชินนามอน (อบเชย) หรือกลิ่นของสิ่งอื่นๆได้ แน่นอนว่าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคพาร์กินส ันภายใน 4 ปีมากกว่าคนปกติถึง 5 เท่า ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่า พื้นที่ของสมองที่รับผิดชอบประสาทสัมผัสการดมกลิ่นเป ็นส่วนที่แรกที่จะส่งผล ต่อการเกิดโรคพาร์กินสัน บางครั้งอาจต้องใช้เวลาถึง 2-7 ปีกว่าจะแสดงอาการออกมาให้เห็น
4.ความยาวของแขน
ผลการวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัย Tufts พบว่า สำหรับผู้หญิงที่มีแขนค่อนข้างสั้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์มากกว่าคนที่มีท ่อนแขนยาว ซึ่งคุณผู้หญิงสามารถทดสอบได้โดยการกางแขนของคุณขนาน ไปกับพื้นแล้ววัดความ ยาว หากน้อยกว่า 60 นิ้วถือว่ามีความยาวของแขนค่อนข้างน้อย
ข้อแนะนำ พยายามทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายอะไรที่ต้องใช้การยืด แขนของคุณ เช่น การวาดภาพ ทำงานปั้น เป็นต้น จากผลการศึกษากว่า 5 ปี ของศูนย์อัลไซเมอร์ มหาวิทยาลัยศูนย์การแพทย์รัช พบว่า วัยรุ่นที่ใช้เวลาส่วนมากทำกิจกรรมที่ใช้พลังงาน หรือสมอง มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์น้อยกว่าคนที่ไ ม่ทำกิจกรรมอะไรเลย 2.5 เท่า
5.รอยพับหรือรอยย่นที่ใบหูส่วนล่าง
ลักษณะรอยย่นที่เป็นเส้นตรงที่ปรากฏบนใบหู ไม่ว่าข้างเดียวหรือสองข้าง สามารถทำนายอัตราการเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับหัว ใจ ซึ่งหากเป็นรอยพับที่หูข้างเดียว นั่นแสดงว่าคุณมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรค 33% แต่ถ้าเป็นทั้งสองข้างนั่นแสดงคุณมีอัตราเสี่ยงต่อกา รเกิดโรค 77% อย่างไรก็ตามแม้ลักษณะดังกล่าวจะไม่ได้รับการยืนยันจ ากผู้เชี่ยวชาญ แต่อย่างน้อยอาการดังกล่าวที่ปรากฏให้เห็นก็เป็นสัญญ าณเตือนว่าคุณกำลังขาด ไฟเบอร์ที่ช่วยด้านความยืดหยุ่น
ข้อแนะนำ พยายามช่วยให้หัวใจของคุณแข็งแรงด้วยการควบคุมน้ำหนั ก และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดคอลเรสเตอรอลและความดันในเลือด
6.ขนาดกางเกงยีนส์
จากรายงานด้านประสาทวิทยา พบว่าวัยรุ่นที่มีพุงค่อนข้างใหญ่ จะเสี่ยงต่อการเกิดอาการทางจิต หรือโรคจิตเสื่อม เพราะจากการศึกษาพบว่าในคนที่มีพุงหรือหน้าท้องใหญ่ เท่ากับว่าพวกเขามีไขมันที่เป็นอันตรายอยู่ใต้ผิวหนั ง และเกาะอยู่ตามระบบอวัยวะต่างๆ ที่ส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมระบบของความรู้สึกนึกคิด
ข้อแนะนำ ใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารมากขึ้น หันมาเลือกทานพวกน้ำมันมะกอก ถั่ว เมล็ดอโวคาโด และดาร์กช็อกโกแลต เพื่อป้องกันไขมันที่เป็นอันตราย
7.ขนาดของหน้าอก
จากผลการศึกษาของฝรั่งเศสพบว่า ผู้หญิงที่มีหน้าอกขนาดเล็กขนาด 13 นิ้วหรือน้อยกว่า มีแนวโน้มจะเกิดคราบหรือตัวสกัดกั้นเส้นเลือดสำคัญบร ิเวณลำคอ อันจะก่อให้เกิดภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลัน นักวิจัยบอกว่า ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังในผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่จะมี มากกว่าคนที่หน้าอกเล็ก ซึ่งไขมันเหล่านี้จะทำหน้าที่ดึงไขมันตามเส้นเลือดแล ะเก็บมันไว้ เพื่อลดอัตราเสี่ยงการเกิดอาการดังกล่าว
ข้อแนะนำ จากผลการวิจัยพบว่าหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นที่ดื่มชาเขียว วันละ 5 แก้วหรือมากกว่านั้น จะช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ หรือภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลันได้
ที่มา ไทยรัฐ
วันที่ 6 พ.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,127 ครั้ง เปิดอ่าน 7,127 ครั้ง เปิดอ่าน 7,132 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,130 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,130 ครั้ง เปิดอ่าน 7,130 ครั้ง เปิดอ่าน 7,128 ครั้ง เปิดอ่าน 7,127 ครั้ง เปิดอ่าน 7,133 ครั้ง เปิดอ่าน 7,127 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,221 ครั้ง เปิดอ่าน 7,131 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,127 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,129 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,131 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,128 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,132 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,132 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,129 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 11,873 ครั้ง |
เปิดอ่าน 17,762 ครั้ง |
เปิดอ่าน 3,735 ครั้ง |
เปิดอ่าน 33,639 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,615 ครั้ง |
|
|