Advertisement
สงสัยไหม....ทำไมง่วงซึมหลังมื้อเที่ยง ที่นี่มีคำตอบค่ะ....
คาร์โบไฮเดรต สาเหตุแรกคือมื้อเที่ยงของคุณนั้นอุดมไปด้วยอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรตปริมาสูงแต่กินโปรตีนต่ำ
คือไม่ค่อยเน้นเนื้อสัตว์ หรือถั่ว ประเด็นนี้นักวิจัยจาก University of Sussex ในอังกฤษ ได้สังเกตการณ์นักเรียนที่มีประสบการณ์การกินมื้อเที่ยงอย่างเต็มคราบ หลังจากนั้นเขาจะมีอาการเหมือนกับอดนอนมา นักวิจัยเล่าว่าเป็นเพราะการกินอาหารมื้อใหญ่ๆ นั้นทำให้เลือดส่วนใหญ่ระดมไหลมาที่กระเพาะอาหารเพราะต้องทำการย่อยอาหารปริมาณมากให้เสร็จสิ้น ทำให้เลือดไหลหมุนเวียนไปสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายน้อยลง จึงทำให้พลังงานโดยรวมลดลง โดยเฉพาะในส่วนสมองจึงทำให้รู้สึกง่วงซึม เฉื่อยชา
งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งพบว่าอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงและโปรตีนต่ำ ยังเป็นตัวบ่งชี้ว่าทำให้มีการหลั่งสารเคมีในสมองที่มีความสัมพันธ์กับความง่วงนอนออกมามากด้วย เช่น เซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทสมองที่สัมพันธ์กับการนอนหลับ
เมื่อเร็วๆ นี้นักวิทยาศาสตร์ของ Food and Nutrition Research Institute ในมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ให้ความสนใจเจาะจงลงไปในเรื่องของระดับน้ำตาลในเลือดว่ามีผลเกี่ยวพันกับอาหารที่กินเข้าไปซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงหรือเฉื่อยชาหลังการกินอาหาร ซึ่งพบว่าข้าวก็เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่สามารถเพิ่มและลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็วด้วย
แต่อาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ค่อนข้างต่ำ คืออาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน รวมทั้งผัก ขนมปังธัญพืช ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ซึ่งพบว่าอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดต่ำนี้กลับจะให้พลังงานแก่ร่างกายได้ในระยะยาว คุณจะมีพลังงานที่มีประสิทธิภาพอยู่ไปได้ทั้งวัน นักวิชาการยังได้แนะนำอีกว่าการกินอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดต่ำและมีไขมันต่ำด้วยแล้ว จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มนาน และป้องกันอาการเฉื่อยชา ง่วงงุนหลังอาหารเที่ยงได้อย่างดีอีกด้วย อีกทั้งอาหารแบบนี้ยังจะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันและโรคอ้วนด้วย
ระดับน้ำตาลขึ้นๆ ลงๆ เป็นที่ชัดแจ้งว่าระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นๆ ลงๆ มีผลต่อระดับการสำรองพลังงานของคนเรา รวมทั้งความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหรือเซื่องซึม อ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง ซึ่งโดยปกติร่างกายของเราจะมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดอยู่ระหว่าง 70-110 มิลลิกรัม แต่ในคนที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป (Hypoglycemia) เป็นเพราะกินคาร์โบไฮเดรตประเภทของหวานและน้ำตาล แอลกอฮอล์ในปริมาณสูง แต่กินผัก ผลไม้ และธัญพืชในปริมาณต่ำ ซึ่งการกินอาหารลักษณะนี้จะทำให้ระดับน้ำตาลและพลังงานขึ้นๆ ลงๆ อารมณ์และสมาธิก็แกว่งไกวไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากเกิดความไม่สมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด
นอกจากนี้สัญญาณของระดับน้ำตาลในเลือดต่ำอีกอย่าง คือความรู้สึกอ่อนเพลีย วิงเวียน หัวงงๆ อาจเป็นลม ใจสั่น มีเหงื่อนออกมาก กระวนกระวาย ฉุนเฉียวหงุดหงิด เหตุผลของทั้งปวงมาจากสมองเป็นส่วนที่ไวต่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ และกลูโคสคือหลักสำคัญของพลังงานของสมองนั่นเอง ดังนั้นเพื่อให้มีพลังตลอดวันโดยไม่ง่วงควรเลือกกินอาหารที่รักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้สม่ำเสมอ ด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และโปรตีนไขมันต่ำ ในปริมาณที่พออิ่ม
ควรจะกินอย่างไรให้ได้พลังงานทั้งวันและไม่ง่วงซึม กินอาหารเช้าให้ถูกหลัก คือกินภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังจากตื่นนอน อาหารเช้าที่ดีจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีความสมดุลไปตลอดวัน แถมด้วยอาหารประเภทโปรตีนไขมันต่ำปริมาณเล็กน้อยในตอนเช้า และทุกมื้อระหว่างวัน เพราะจะให้พลังงานได้ยาวนาน เช่น ไข่ นมสักแก้ว โยเกิร์ต กับขนมปังธัญพืชปิ้งสักแผ่น
กินอาหารเที่ยงที่ให้พลังงานสูง ประกอบด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งโปรตีนจะกระตุ้นสารในสมองคือ catecholamines ที่จะทำให้คุณกระฉับกระเฉง ลองเลือกไก่(ต้องทำให้สุกๆ ก่อน) อาหารทะเล เนื้อ เต้าหู้ ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ ผักต่างๆ เช่น บล็อกโคลี ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง และผลไม้สัก 1 ส่วน
เลี่ยงสารกระตุ้น เช่น คาเฟอีน บุหรี่ เพราะเป็นตัวทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งไกว การดื่มกาแฟยังทำให้ปัสสาวะบ่อยด้วยซึ่งเป็นสาเหตุให้ร่างกายสูญเสียน้ำและระดับเกลือแร่
ดื่มน้ำเปล่า เพราะน้ำเปล่าไม่มีแคลอรี่ ไม่มีไขมัน ไม่มีโคเลสเตอรอล แต่จะช่วยระบบการเผาผลาญไขมัน และฟื้นชีวิตชีวาคืนพลังงานให้กับร่างกายด้วย น้ำยังช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย ลำเลียงออกซิเจน ฮอร์โมน สารอาหาร ภูมิต้านทาน และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรตีนและเอนไซม์ที่จำเป็นต่อระบบเมธาบิลิซึมด้วย
หยุดแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้คุณรู้สึกเซื่องซึม เหตุผลคือร่างกายสูญเสียสารอาหารโดยเฉพาะวิตามินบี (ไธอามีนและโฟเลท) ซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นที่สมองต้องการ
เลือกกินเมื่อรู้สึกหิว ถ้าคุณรู้สึกเพลียให้กินผลไม้หรืออาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชต่างๆ แทน การกินของขบเคี้ยวที่มีน้ำตาลจะทำให้คุณกระชุ่มกระชวยเพียงชั่ววูบแล้วก็จะหมดแรงลงอย่างรวดเร็ว ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงโซดาหรือน้ำหวาน ของขบเคี้ยวแก้หิวเพื่อสุขภาพที่ขอแนะนำ เช่น คุ้กกี้ที่ผสมผลไม้ คุ้กกี้ผสมข้าวโอ้ต องุ่นสักพวง โยเกิร์ต แครอท เซเลอรี่ ถั่วอัลมอนด์ เป็นต้น
หลับตาสักงีบ ถ้าคุณรู้สึกว่าง่วงมากจริงๆ อย่าเลือกที่จะดื่มกาแฟ แต่ลองหลับตาหรืองีบสัก 10-15 นาที ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาก
อยู่ห่างๆ อาหารไขมันสูง เช่น ชีส เนย มาการีน ครีม อาหารทอดทั้งหลาย เพราะจะมีแคลอรี่สูงร่างกายต้องใช้พลังงานเผาผลาญมาก และจะทำให้คุณรู้สึกเฉื่อยชา
ออกกำลังกาย เป็นทางที่ดีที่จะชาร์ตแบตเตอรี่คืนมาอีกครั้งให้ร่างกายตื่นตัว เมื่อรู้สึกเหนื่อยจนเอนดอร์ฟินหลั่งในระดับสูง ก็จะช่วยให้อัตราการเผลาผลาญของร่างกายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งก็จะช่วยฟื้นพลังงานให้คุณ ลองง่ายๆ เดินรอบๆ สำนักงานสัก 10 นาที นั่งอยู่กับโต๊ะทำงานแล้วยืดกล้ามเนื้อ บิดบริหารร่างกายสักครู่ก็จะช่วยเพิ่มความตื่นตัวให้คุณได้พอควร
ที่มา .. eduzones.com
วันที่ 4 พ.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,219 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,409 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 18,527 ครั้ง |
เปิดอ่าน 5,856 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,607 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,765 ครั้ง |
เปิดอ่าน 32,743 ครั้ง |
|
|