>>>มารู้จัก,ไม้ดอก...ไม้ประดับ.กันเถอะ..<<<,,ครูบ้านนอกดอทคอม">
ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

>>>>มารู้จัก"ไม้ดอก...ไม้ประดับ.กันเถอะ..<<<


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,179 ครั้ง
Advertisement

>>>>มารู้จัก"ไม้ดอก...ไม้ประดับ.กันเถอะ..<<<

Advertisement

 

                    ไม้ดอกไม้ประดับ

 
*








                   ไม้ประดับ หมายถึงพืชที่ปลูกไว้เพื่อความสวยงาม ใช้ประดับตกแต่งอาคารบ้านเรือนให้เกิดความเจริญตา ส่วนใหญ่ไม้ประดับมักเป็นพืชดอก จึงเรียกรวมกันว่า ไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม้ประดับไม่จำเป็นต้องมีดอกก็ได้ เพียงมีใบที่ดูดีหรือมีสีสันสวยงามก็ใช้ได้ ไม้ประดับมีขนาดเล็กหรือขนาดย่อมพอเหมาะแก่พื้นที่จัดตกแต่ง อาจปลูกไว้ในกระถาง ปลูกลงดิน หรือแขวนห้อยไว้ก็ได้ ไม้ประดับมีหลายชนิด ดังเช่น

 



                      ปาล์ม ไม้ประดับประเภท ปาล์มเป็นพืชที่มีอยู่ในโลกมานานกว่า 80 ล้านปี ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กระจัดกระจายในเขตร้อนของโลกรวมทั้งประเทศไทย ปาล์มมีอยู่ทั่วโลกเกือบ 4,000 ชนิด มีไม่กี่ชนิดขึ้นอยู่ในเขตอบอุ่น ทุก ๆ ปี จะพลปาล์มชนิดใหม่ ๆ 1-2 ชนิดอยู่เสมอ และมีการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติด้วย ปาล์มเป็นพืชที่มีวงศ์ใหญ่ที่สุด(รองจากหญ้า) ทั้งจำนวน ชนิด ละปริมาณ ปัจจุบันพบในหลายพื้นที่ทั่วโลก สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพภูมิอากาศที่หลากหลาย จำแนกได้กว่า 210 สกุล ปาล์มจัดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ไม่แตกกิ่งก้านสาขา ก้านใบยาวและใหญ่ ลักษณะใบแตกต่างกัน ลำต้นเป็นข้อ ดอกหรือจั่นขนาดเล็กและแข็งแรงไม่มีกลิ่นหอม ผลโดยมากมีเปลือกแข็ง มีขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจปลูกปาล์มเป็นไม้ประดับมากขึ้น รวมทั้งมีการนำพันธุ์ปาล์มจากต่างประเทศเข้ามาขยายพันธุ์มากขึ้น ซึ่งปาล์มแต่ละชนิดมีลักษณะที่เด่นและสวยงามแตกต่างกัน เช่น ปาล์มพันธุ์อ้ายหมี พันธุ์เชอรี่ และพันธุ์คาร์พ็อกซีลอน ปาล์มเคราฤๅษี ปาล์มช้างร้องไห้ ปาล์มบังสูรย์ ปาล์มเจ้าเมืองถลาง ปาล์มพระราหู ปาล์มเจ้าเมืองตรัง ปาล์มศรีสยาม เป็นต้น

ปรง



                      ปรงถูกกล่าวถึงว่าเป็นพืชโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ มีเมล็ดแต่ไม่มีดอก ปรงส่วนใหญ่อยู่ในตระกูล Cycadaceae เป็นพืชเมล็ดเปลือย(gymnosperm) ตระกูลปรงจัดอยู่ในอันดับ Cycadales ร่วมวงศ์กับ Zamiaceae ตระกูลปรงมีประมาณ 10 สกุล ในประเทศไทยพบเฉพาะสกุล Cycas ซึ่งมีอยู่ประมาณ 100 ชนิด มีการกระจายพันธุ์ในเอเชีย ออสเตรเลีย และมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกเฉียงใต้แถบหมู่เกาะนิวคาเลโดเนียและตองก้า ‘‘ลักษณะเด่น’’ มีใบประกอบแบบขนนกเรียงหนาแน่นเป็นเรือนยอด แยกเพศต่างต้น

                     พืชตระกูลปรงมีลักษณะคล้ายพืชตระกูลปาล์ม มีลำต้นเหนือพื้นดิน ใบแฉกแบบขนนก เรียงเวียนสลับใบย่อยด้านล่าง มีกลดลูกเป็นหนามแหลม ใบย่อยรูปแถบหนามีจำนวนมาก เส้นกลางใบนูนเด่นชัด ไม่มีเส้นแขนงใบ มีเกล็ดหุ้มยอด ใบสร้างอับไมโครสปอร์โคนเพศผู้มีจำนวนมาก รูปลิ่มปลายแหลมคล้ายหนาม เรียงเวียนเป็นรูปโคน ตั้งขึ้นที่ยอดลำต้น เรียกว่า male cone หรือ pollen cone ใบสร้างอัเมกาสปอร์โคนเพศเมียเรียงเป็นกลุ่มคล้ายใบกระจุกแบบกุหลาบซ้อน แต่ละสปอร์โรฟิลล์มีก้านปลายเป็นแฉกแบบขนน กรองรับโอวุล เมล็ดทรงกลมหรือรี ผิวส่วนมากเรียบ ขนาดค่อนข้างใหญ่ มีเนื้อสดหนา ด้านนอกด้านในแข็งเป็นเนื้อไม้ มีใบเลี้ยง 2 ใบ ปรงในประเทศไทยมีอยู่ 12 ชนิด ได้แก่ ปรงญี่ปุ่น ปรงป่า ปรงเขา ปรงเขาชะเมา ปรงตากฟ้า ปรงทะเล ปรงเท้าช้าง ปรงเหลี่ยม ปรงผา ปรงหิน ปรงปราณบุรี ปรงเดอบาวเอนซิส

ไม้ในร่ม

                  เป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกในโรงเรือนหรือในร่ม มีทั้ง ‘ไม้ยืนต้น’ เช่น หมากแดง หนวดปลาหมึก ปาล์มหลายชนิด เป็นต้น ประเภท ‘ไม้พุ่ม’ เช่น กวนอิม ขิงแดง คล้า จั๋ง วาสนา สาวน้อยประแป้ง หมากผู้หมากเมีย เอื้องหมายนา อโกลนีมา เป็นต้น ประเภท ‘ไม้คลุมดิน’ เช่น เฟิร์น กำแพงเงิน สับปะรดประดับ เป็นต้น และประเภท ‘ไม้เลื้อย’ เช่น พลูด่าง ฟิโลเดนดรอน โฮย่า เป็นต้น โดยพันธุ์ไม้เหล่านี้สามารถอาศัยอยู่ในสภาพร่มเงาได้ดี



พันธุ์ไม้หอม


                   พันธ์ไม้หอมมีความสำคัญทางศิลปวัฒนธรรมของไทยที่บ่งบอกถึงความเป็นชาติที่มี อารยธรรมอันยาวนาน ซึ่งปรากฏในวรรณคดีไทยหลายยุคหลายสมัย มีการนำพรรณไม้หอมมาปลูกเลี้ยงกันตั้งแต่สมัยสุโขทัยเรื่อยมาจนถึงกรุงรัตน โกสินทร์ แรกเริ่มสมัยสุโขทัยส่วนใหญ่เป็นไม้ต้นที่คัดเลือกมาจากป่า เป็นไม้ไทยพื้นเมือง เช่น จำปี พุด ลำดวน สารภี บุนนาค มะลิ เมื่อนำมาปลูกเลี้ยงก็สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพถิ่นที่อยู่ใหม่ได้ดี ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเริ่มมีการนำพันธุ์ไม้หอมจากต่างประเทศเข้ามา ปลูกในประเทศไทย ดังปรากฏในหลักฐานทางวรรณคดีที่กล่าวถึงไม้หอมต่าง ๆ ได้แก่ การเวก กระดังงา กุหลาบมอญ ส้มโอ พุทธชาด พุดซ้อน สายหยุด พิกุล เป็นต้น ต่อมาความนิยมได้เพิ่มมากขึ้น จึงมีการนำเข้าพรรณไม้จากต่างประเทศโดยเฉพาะสมัยรัตนโกสินทร์และจนถึงทุก วันนี้ ทำให้ลักษณะของไม้หอมมีหลากหลายชนิดและหลากหลายสกุล มีทั้งที่เป็นไม้พื้นเมืองหรือกระจายพันธุ์มาจากประเทศใกล้เคียง เช่น ไม้หอมวงศ์กระดังงา ไม้หอมวงศ์โมก วงศ์จำปา วงศ์มะลิ วงศ์เข็ม พันธุ์ไม้หอมที่เกี่ยวกับพระนามของพระบรมวงศานุวงศ์ของประเทศไทย ได้แก่ กุหลาบควีนสิริกิต์ โมกราชินี จำปีสิรินธร

ไม้มงคล


ไม้มงคลที่ใช้ในพิธีวางศิลาฤกษ์ ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ก่อนทำการก่อสร้างนิยมทำพิธีวางศิลาฤกษ์โดยใช้ไม้มงคล 9 ชนิด ปักกับพื้นดิน ไม้ทั้ง 9 ชนิดมีชื่อเป็นมงคลนาม  ดังนี้

ไม้ราชพฤกษ์ หมายถึง ความเป็นใหญ่และมีอำนาจวาสนา
ไม้ขนุน หมายถึง หนุนให้ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น ทำอะไรจะมีผู้ให้การเกื้อหนุน
ไม้ชัยพฤกษ์ หมายถึง การมีโชคชัย ชัยชนะ
ไม้ทองหลาง หมายถึง การมีเงินมีทอง
ไม้ไผ่สีสุก หมายถึง มีความสุข
ไม้ทรงบาดาล หมายถึง ความมั่นคง หรือทำให้บ้านมั่นคงแข็งแรง
ไม้สัก หมายถึง ความมีศักดิ์ศรี ความมีเกียรติ
ไม้พะยูง หมายถึง การพยุงฐานะให้ดีขึ้น
ไม้กันเกรา หมายถึง ป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ หรืออีกชื่อหนึ่งว่าตำเสา ซึ่งอาจหมายถึง ทำให้เสาเรือนมั่นคง

ไม้มงคลเหล่านี้จะลงอักขระที่เรียกว่า หัวใจพระอิติปิโส ได้แก่ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ลงบนท่อนไม้ชนิดละอักขระ พร้อมทั้งปิดทองทั้ง 9 ท่อน โดยปักวนจากซ้ายไปขวา (ทักษิณาวรรต)


*************************************************************

ไม้ราชพฤกษ์







                ต้นไม้บางชนิดจะให้ดอกที่มีสีสันสวยงามและให้คุณประโยชน์ มีไม้บางชนิดที่กำหนดให้เป็นไม้มงคล จากความเชื่อว่าทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของหรือผู้ปลูก และมีไม้มงคล 9 ชนิด ที่ใช้ในพิธีวางศิลาฤกษ์ ก่อนการสร้างอาคารบ้านเรือน โดยปักไม้มงคลลงพื้นและลงอักขระที่เรียกว่า หัวใจพระอิติปิโส ได้แก่ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ลงบนท่อนไม้ชนิดละอักขระ พร้อมทั้งปิดทองทั้ง 9 ท่อน โดยปักวนจากซ้ายไปขวา(ทักษิณาวรรต) ไม้มงคลทั้ง 9 ชนิด ได้แก่ ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ กันเกรา สัก ทองหลาง พยุง ขนุน ทรงบาดาล และไผ่สีสุก

ไม้ดัด

 

                 ไม้ดัด คือ ไม้ที่นำมาปลูกลงในกระถางหรือปลูกลงดิน แล้วตัดกิ่ง ก้านและตัดแต่งใบให้เป็นพุ่มหรือตัดแต่งให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ตามต้องการ หรือตามแบบแผนที่เป็นที่นิยมกันมาในหมู่ผู้ชื่นชอบไม้ดัดมาแต่โบราณ ไม้ดัดจัดได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทนำต้นไม้ใหญ่มาทำให้เป็นต้นไม้เล็ก เช่น ไม้เอนชาย ไม้ญี่ปุ่น และประเภทนำไม้ใหญ่มาตัดให้เป็นรูปทรงแบบต่าง ๆ การเลือกพันธุ์ไม้ดัดมาปลูกเลี้ยงนั้น จำเป็นจะต้องคำนึงถึงคุณลักษณะที่สำคัญของพันธุ์ไม้ชนิดนั้น ๆ คือ มีกิ่งเหนียวสามารถดัดให้โค้งงอได้ตามต้องการ ไม่เปลี่ยนแปลงรูปทรงหลังจากดัดแล้ว ไม่เจริญเติบโตเร็วเกินไป ใบมีขนาดเล็กเพื่อเหมาะสมกับหุ่น เปลือกควรมีความสวยงาม เช่น ผิวขรุขระหรือมีรอยแยก เป็นพันธุ์ไม้ที่มีอายุยืนนาน ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศ เป็นพันธุ์ไม้ที่หาง่ายในท้องถิ่น ไม้ที่นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ดัด ได้แก่ ตะโก ตะโกนา ตะโกสวน ตะโกพนม มะสัง ข่อย ไกร ไทรย้อยใบแหลม ไทรย้อยใบทู่ โพธิ์ มะเดื่ออุทุมพร โมกบ้านโมกป่า เฟื่องฟ้า มะเกลือ มะขาม มะขามเทศ ชาปัตตาเวีย มะนาวเทศ ทับทิม ทับทิมหนู ฮกเกี้ยน เป็นต้น



                  ในส่วนของการส่งเสริมวิชาชีพเกษตรของ วิทยาลัยเกษตรกรรมทั่วทั้งประเทศไทยก็ได้มีการส่งเสริมให้ความรู้กับเกษตรกร ในพื้นที่มีความสนใจในการปลูกเลี้ยงไม้ประดับชนิดต่าง ๆ เพื่อประดับบ้านเรือนหรือเพื่อเป็นการหารายได้


ที่มา..วิกิพีเดีย


ลิงค์หัวข้อ: http://www.trytodream.com/topic/5799

ไม้ถักประดับ

วิธีการทำไม้ถักประดับ

ัสิ่งที่น่าภูมิใจของคนไทยโดยเฉพาะชาวสวนที่เป็นเกษตรกรปลูกต้นไม้ดอกไม้ประดับที่ได้นำเอาศิลปะมาประยุกต์
ประดิษฐ์ประดอยให้เกิดความสวยงาม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านของชาวเกษตรกรอย่างแท้จริง จากเป็นไม้ประดับ
ธรรมดานี้เอง ที่วางจำหน่ายขายตามร้านขายของชำประเภทไม้ดอกไม้ประดับทั่วไป ดูแล้วมันก็เป็นไม้ธรรมดาที่
เห็นอยู่โดยทั่วไปนั้นเอง แต่เมื่อนำเอาจินตนาการในทางศิลปะ มาดัดแปลงต้นไม้ดอกไม้ประดับแปรรูปด้วยการ
ประยุกต์ไขว้กันไปมาแล้วตกแต่งกิ่งและใบเสียก็จะได้ไม้ถักที่มีความสวยงามแปลกตาแฝงด้วยความสวยและน่ารัก
ต้นไม้ที่นำมาถักนั้นมีหลายชนิด เช่น ต้นโกศลทุกชนิด,ต้นขาไก่, ต้นไทรทุกชนิด, ต้นชบา,ต้นรำเพย,ต้นพุทธจีบ

ขั้นตอนและการเตรียม

ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมวัสดุ
จัดหาประเภทไม้ดอกไม้ประดับที่ตามที่ต้องการที่มีความสูงประมาณ 1ฟุตขึ้นไป ให้ทำการตกแต่งกิ่งที่เราไม่ต้องการออกไปเลือกที่เฉพาะต้นที่มี
ความตรงมากที่สุด
ขั้นตอนทที่ 2 เตรียมอุปกรณ์
- กระถางดิน-พลาสติก ตามขนาดที่ต้องการ
- กรรไกร,เชือกฟาง,ปุ๋ยหมัก
- เก้าอี้สำหรับวางกระถาง ถ้าเป็นเก้าอี้หมุนได้จะเหมาะสมดีและสดวกในการทำ
-เก้าอี้สำหรับนั่งตัวเล็ก
-น้ำ
ขั้นตอนที่ 3 วิธีทำ
-นำกระถางมาวางไว้บนเก้าอี้ที่เตรียมไว้
-เอาปุ๋ยหมักมาเทใส่ลงไปในกระถาง
-นำต้นไม้มาริกิ่งใบออก ให้เหลือส่วนปลาย
-นำเอาถุงพลาสติกออก พร้อมทั้งเขย่าดินออกบ้างเพื่อสะดวกในการใส่กระถาง
-นำมามัดรวมกัน โดยประมาณ 3 - 4 หรือ 5ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้
- ได้จำนวน 12 มัด
-จากนั้นก็ฝังรากและโคลนลงในกระถาง ลักษณะเรียงเป็นแถวเดี่ยวกัน จำนวน 12 ต้น เป็นวงกลมรอบกระถาง
ขั้นตอนที่ 4 วิธีการถัก
-ให้ใช้มือรวบต้นไม้ที่เรียงไว้แล้วแยกออกจากกันเป็นสองส่วนแล้วจับไขว้ไว้ก่อนจึงใช้เชือกฟางมัดตรงบริเวณ
ไขว้กัน เพื่อใช้เชือกรัดส่วนที่ไขว้ ไว้ไม่ให้หลุด จากนั้นก็ไขว้ขั้นมาเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นให้มีเชือกรัดไว้เช่นเดิม
จนกว่าจะถึงยอด ชั้นสุดท้ายให้มัดตายตัวไปเลย เพื่อจะได้มีรูปทรงเหมือน เดิม จากนั้นให้แก้เชือกที่อยู่ชั้นล่าง
ออก ก้จะได้ต้นไม้ถักประดับ

 

การดูแลรักษา

การรดน้ำสำหรับไม้ถักประดับ ตามปกติแล้วต้นไม้จะมีอยู่ในกระถางเพียงหนึ่งหรือสองต้น แต่เมื่นำมาถักรวมกัน
แล้ว ในกระถางจะมีต้นไม้ถึง 20 ต้น หรือ 36 ต้น ก็มี ฉะนั้น การรดน้ำควรที่จะรดน้ำให้กับต้นไม้ในกระถางชุ่ม
และโชกเป็นพิเศษอาจจะ 1 - 2 วันต่อครั้ง ถ้าเป็นฤดูฝนไม่ควรที่จะรดน้ำให้บ่อย มากนัก ถ้าเป็นหน้าร้อนควรจะ
เพิ่มการรดน้ำให้บ่อยขึ้นเพราะต้นไม้ต้องการความชุ่มชื้นมากขึ้น สาเตุเพราะเวลากลางคืน ความร้อนจะดูดซึม
ซับเอาความเย็นในกระถางระเหยไป สำหรับปุ๋ยที่ใช็จะเป็นปุ๋ยชีวภาพ ที่มีกากน้ำตาลชนิดแกลลอน 1 ลิตร ปลาสดๆ
ที่เหลือจากขายตามท้องตลาตนำมาหมักเอาเนื้อที่ยุ่ย และวัชพืชจำพวกผักตบชวา หรือพืชใบผักชนิดต่างๆ ทุกชนิด
หอยเชอร์รี่ หรือจะใช้ปุ๋ยวิทยาศาตร์ 16 - 16 - 16



โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3113 วันที่ 2 พ.ย. 2552

ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด ในราคา ฿368 - ฿999 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6


>>>>มารู้จัก"ไม้ดอก...ไม้ประดับ.กันเถอะ..<<<>>>>มารู้จักไม้ดอก...ไม้ประดับ.กันเถอะ..<<<

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ประเภทของผลงานทางวิชาการ

ประเภทของผลงานทางวิชาการ


เปิดอ่าน 9,526 ครั้ง
โปรดระวังไวรัสร้าย

โปรดระวังไวรัสร้าย


เปิดอ่าน 7,165 ครั้ง
..น้ำสี..ดำ

..น้ำสี..ดำ


เปิดอ่าน 7,156 ครั้ง
รูป ศิลปะกับภาพลวงตา

รูป ศิลปะกับภาพลวงตา


เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง
อดีตรัก....ดอกสเลเต..

อดีตรัก....ดอกสเลเต..


เปิดอ่าน 7,212 ครั้ง
บ้านไม้...สไตล์รีสอร์ท...

บ้านไม้...สไตล์รีสอร์ท...


เปิดอ่าน 7,210 ครั้ง
มีใครสอบ"TKT" Module 3 บ้างคะ?

มีใครสอบ"TKT" Module 3 บ้างคะ?


เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง
บทบาท ICT กับการเรียนรู้....

บทบาท ICT กับการเรียนรู้....


เปิดอ่าน 7,307 ครั้ง
บทเรียนสำเร็จรูป

บทเรียนสำเร็จรูป


เปิดอ่าน 7,159 ครั้ง
๒๐ คำถามกับ ว.วชิรเมธี

๒๐ คำถามกับ ว.วชิรเมธี


เปิดอ่าน 7,166 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เรื่องเก็บตกจากชีวิตครู

เรื่องเก็บตกจากชีวิตครู

เปิดอ่าน 7,159 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คนเกิดวันที่ 10<> 11 <>12 <>   ใครเจ้าชู้ที่สุด ครับ..ทายถูกรับรางวัลด่วน
คนเกิดวันที่ 10<> 11 <>12 <> ใครเจ้าชู้ที่สุด ครับ..ทายถูกรับรางวัลด่วน
เปิดอ่าน 7,169 ☕ คลิกอ่านเลย

ข้อคิดดีๆ
ข้อคิดดีๆ
เปิดอ่าน 7,161 ☕ คลิกอ่านเลย

 เรื่อง หน่วยงานของอเมริกา ใน ภาพยนตร์
เรื่อง หน่วยงานของอเมริกา ใน ภาพยนตร์
เปิดอ่าน 7,196 ☕ คลิกอ่านเลย

เเด่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ชื่อว่า " แม่ "
เเด่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ชื่อว่า " แม่ "
เปิดอ่าน 7,154 ☕ คลิกอ่านเลย

ประกาศรับสมัครครู
ประกาศรับสมัครครู
เปิดอ่าน 7,175 ☕ คลิกอ่านเลย

อยากลองใช้ CMS ครูบ้านนอกครับ
อยากลองใช้ CMS ครูบ้านนอกครับ
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ความสำคัญของงานกราฟิก
ความสำคัญของงานกราฟิก
เปิดอ่าน 82,528 ครั้ง

รายงานผลการวิจัยเรื่อง การศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก
รายงานผลการวิจัยเรื่อง การศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก
เปิดอ่าน 20,972 ครั้ง

ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-0 เซต คว้าแชมป์เอเชีย 2013 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-0 เซต คว้าแชมป์เอเชีย 2013 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
เปิดอ่าน 14,934 ครั้ง

10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
เปิดอ่าน 16,581 ครั้ง

การจัดรายวิชาเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางอาชีพในหลักสูตรสถานศึกษา
การจัดรายวิชาเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางอาชีพในหลักสูตรสถานศึกษา
เปิดอ่าน 91,389 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ