ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้
เรื่องวินัยครูสนุก สนุก...ถ้าเกิดเลือกม่ได้..ผิดทางรักเกิดไปหลงรักคนที่มีเจ้าของ..รักลวงลวงจะเป็นอย่างไร...
วันนี้ดิฉันได้อ่านวารสารข้าราชการครู ฉบับที่ 27 ประสานงานข้อมูลโดยคุณอุดม อินทรเวศน์วิไล..ชอบใจมากอยากนำมาเขียนเป็นบทความให้เพื่อน ๆ ข้าราชการได้ศึกษาดูในอีกมุมมองหนึ่ง...
<<<<ฟังเพลงไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้>>>>
ชายคู่หญิง ขาวคู่ดำ มีกลางวันต้องมีกลางคืน มีคนรักก็ต้องมีคนชัง มีผิดก็ยังมีถูก ในเรื่องหัวใจกับความรักก็เช่นกัน
สติ คือ การรู้เท่าถึงการณ์อย่างชาญฉลาดและแก้ปัญหาอุปสรรคได้
น.อ.ช.......คือคำย่อมาจากนักโทษอาจารย์ชาย
น.อ.ญ........คือคำย่อมาจากนักโทษอาจารย์หญิง
กรณีครูชายโสดกับสตรีโสด รักชอบพอกันแต่ชายนั้นรอไม่ไหวมีพฤติกรรมร่วมประเวณี โดยการข่มขืน ต่อมายินยอมรับผิดชอบ และจดทะเบียนสมรสกับสตรีโสด และจดทะเบียนสมรสกันและสตรีโสดต้องยินยอมด้วยเป็นระดับความผิดไม่ร้ายแรง ระดับโทษตัดเงินเดือนหรือภาคทัณฑ์ ตามความร้ายแรงแห่งกรณี แต่ตรงกันข้ามหากฝ่ายสตรีโสดไม่ยินยอม ครูชายโสดรายนี้ต้องย้ายสังกัดจากกระทรวงศึกษาธิการ ไปสังกัดกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม หลังเสื้อปักตัวอักษรชัดเจนว่า น.อ.ช คือนักโทษอาจารย์ชาย และแถมวินัยข้าราชการครูด้วยไล่หรือปลดออกจากราชการ
กรณีครูชายโสดกับสตรีมีสามีมีพฤติกรรมร่วมประเวณี โดยข่มขืนระดับความผิด เป็นความผิดวินัยร้ายแรง ระดับโทษไล่ออกจากราชการอย่างเดียวและแถว ซี ดับเบิลโอ เค (COOK) หากประนีประนอมยอมความได้ในคดีอาญา แต่หากเป็นครูชายโสดกับสตรีมีสามี พฤติกรรมสมัครใจถึงขั้นได้เสีย ระดับความผิดร้ายแรง โทษปลดออกจากราชการ แล้วหากคู่สมรสฝ่ายชายไม่ยินยอมอาจจะต้องถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งอีกต่างหาก หากฝ่ายคู่สมรสพบภาพบาดตาบาดใจ หยับยื่นปืนพร้อมกระสุนลั่นไกเกิดใหม่ ครูชายโสดอาจจะตายฟรี โดยเขาอ้างเหตุการณ์กระทำบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 บัญญัติไว้ว่า "ผู้ใดบันดาลโทสะโดยการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้"
กรณีครูชายมีภริยาแล้วกับสตรีมีสามีแล้ว มีพฤติกรรมร่วมประเวณี ระดับโทษร้ายแรงมาก คือไล่ออกจากราชการ และหากคู่สมรสของทั้งฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายก็สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง และอาจจะอ้างการป้องกันสิทธิอันชอบธรรม โดยกระทำโดยบันดาลโทสะได้เช่นกัน
กรณีครูสตรีโสดกับคู่กรณีศิษย์ชาย มีพฤติกรรมถึงขั้นร่วมประเวณีระดับความผิดร้ายแรงมาก ระดับโทษไล่ออกจากราชการ หรือกระทำอนาจารล่วงละเมิดทางเพศอันต้องของสงวน (เขาสงวนไว้เฉพาะคู่สมรสเท่านั้น") จึงเรียกว่า ของสงวน ระดับโทษปลดออกจากราชการ หากศิษย์ชายค่ำกว่าสิบห้าปี ยินยอม ไม่ยินยอม ครูสตรีโสดรายนี้เปลี่ยนชุดครูไปเป็นชุดกรมราชทัณฑ์ ปักเสื้อด้านหลังว่า น.อ.ญ. คืแนกโทษอาจารย์หญิง
กรณีครูสตรีมีสามี ครูชายมีภริยา มีพฤติกรรมสนิทชิดเชื้อชอบกันเกินควรจนทำให้เสียชื่อเสียง เช่นไปไหนมาไหนสองต่อสองในยามวิกาล รับประทานอาหารสองต่อสองจนผิดปกติ นั่งรถยนต์ส่วนตัวสองต่อสองโดยไม่มีเหตุอันควรยกเว้น พฤติกรรมนี้อาจทำเสื่อมเสียจนเป็นที่ครหานินทาได้ เป็นความผิดไม่ร้ายแรง อาจถูกภาคทัณฑ์ หรืองดโทษให้ว่ากล่าวตักเตือน โดยเฉพาะถูกคู่สมรสของอีกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดร้องเรียนได้ โดยเฉพาะภริยาหลวงหรือเมียหลวงร้องเรียนขึ้นมา แล้วละก็ลิเกเลิกได้เลยหล่ะ กลับกลางเปลี่ยนเป็นละครชีวิตเรื่องใหม่ทันที
สิ่งเหล่านี้ที่ได้อ่านแล้วรู้สึกจริง ๆ ว่า ถ้าไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้จริง ๆ เห็นอย่างนี้แล้ว ความเป็นครู บทบาทของครู การวางตัวของครู ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อีกต่อไปแล้ว รู้สึกทันทีว่าทะเบียนสมรสที่เราได้จดทะเบียนแต่งงานกันไปนั้นช่างมีค่าเสียเหลือเกิน หากใครที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกันเกิน 30 ปีแล้วก็แสดงความยินดีด้วยที่เป็นของคุณตลอดกาลแล้วหล่ะ เพราะไม่ว่าจะฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง หากอายุย่างเข้าวัยชราเมื่อไหร่แล้วครอบครัวจะมีคามสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดเสมอ...
แหน่ะยังไม่หมดมีกรณีตัวอย่างความผิดที่ ก.ค.ศ. ได้พิจารณาและมีมติรับทราบหรือมติเพิ่มโทษเป็นปลดออกจากราชการตามอำนาจมาตรา 19 แห่งกระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2551 เรื่อง มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้อื่น
ข้อเท็จจริง นางสะอิ้งเริ่มมีความสนิทสนมกับนายปาน สามีองนางทอง เป็นพิเศษ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 และนายปาน ไม่กลับมานอนที่บ้าน นางทองพร้อมกับบุตร จึงเดินทางไปพักบ้านพักของนางสะอิ้ง พบว่าสามีของตนกับนางสะอิ้งอยู่ด้วยกันที่บ้านพักของนางสะอิ้ง ซึ่งทั้งสองก็รับปากว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวซึ่งกันและกัน แต่หลังจากนั้นบุคคลทั้งสองกลับยังคงไปไหนมาไหนด้วยกัน และแสดงเป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไปว่า มีความสัมพันธ์กันในทางชู้สาว และนายปาน ก็ยังคงไปนอนค้างอยู่กับนางสะอิ้งที่บ้านพัก เป็นเหตุให้นางทองได้รับความเดือดร้อนต้องจดทะเบียนหย่าขาดกับนายปานในที่สุด พฤติการณ์เป็นความผิดตามมาตรา 94 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติระดบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กรณี กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ระดับโทษปลดออกจากราชการ
ยังมีกรณีตัวอย่างอีกเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัย ฉันชู้สาว แต่แค่ที่เล่ามานี้ก็โดนใจหลาย ๆ คนทีเดียวเชียว..... หวังว่าคงจะรักลูกผูกจิต และถนอมน้ำใจคนที่บ้านไว้มาก ๆ หน่อย เพราะ ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้จริง ๆ
อ้างอิงจาก วารสารข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ปีที่ 29 ฉบับที่ 2
parrot.