ลอยกระทงอธิษฐาน น้อมใจถวายพระพร
“ลอยกระทง” เป็นประเพณีที่สำคัญของคนไทย อีกประเพณีหนึ่งไม่แพ้เทศกาลสงกรานต์ (แม้มิได้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เนื่องจากเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ จนเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนไทย โดยนิยมลอยกระทงกันในคืนวันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เนื่องจากเป็นวันสิ้นปีนักษัตรเก่า ตามจันทรคติที่มีดวงจันทร์เป็นศูนย์กลาง และเป็นช่วงที่น้ำขึ้นสูงสุด และเมื่อพ้นไปจากนี้ก็เริ่มขึ้นปีนักษัตรใหม่ เรียกเดือนอ้าย แปลว่าเดือนหนึ่ง ตามคำโบราณ ลอยกระทง เป็นพิธีกรรมร่วมกันของผู้คนในชุมชนทั้งสุวรรณภูมิ หรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ เพื่อขอขมาต่อธรรมชาติ อันมีดินและน้ำที่หล่อเลี้ยง ตลอดจนพืชและสัตว์ที่เกื้อกูลให้พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตเจริญเติบโตอยู่ได้
ในปัจจุบันรูปแบบของการลอยกระทงในแต่ละภูมิภาคมีลักษณะที่เกือบจะคล้ายคลึงกัน แต่จะแตกต่างกันบ้างก็คงเป็นเพียงวัสดุ รูปแบบกระทงที่นำไปลอย และความเชื่อเท่านั้น อาทิ เป็นการบูชาพระเกศแก้วจุฬามหาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ การบูชารอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานทีหรือเป็นการขอบคุณต่อแม่พระคงคาที่ได้ให้ใช้น้ำในการอุปโภค บริโภค รวมถึงการขอขมาที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำลำคลอง นอกจากนี้ ยังเป็นการลอยเพื่อส่งสิ่งของแก่ญาติหรือบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว การลอยเคราะห์หรือสะเดาะเคราะห์ และการอธิษฐานเพื่อขอสิ่งที่ตนปรารถนา
ดังนั้น เนื่องในโอกาสวันลอยกระทงที่จะมาถึงในวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ นี้ กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และสืบสาน ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ให้คงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมให้กับประเทศชาติแล้ว ยังได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กรมประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สมาคมสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด สำนักงานเทศบาลนครนครศรีธรรมราช สำนักงานเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี สำนักงานเทศบานครเชียงใหม่ และมูลนิธิเมาไม่ขับ ในการร่วมรณรงค์ ส่งเสริมให้ประชาชนร่วมลอยกระทงเพื่อสืบสานประเพณีไทย และเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยร่วมกันตั้งจิตอธิษฐาน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงอธิษฐาน น้อมใจถวายพระพร”
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวถึงแนวคิด “ลอยกระทงอธิษฐาน น้อมใจถวายพระพร” ว่า
“วันลอยกระทง ในปีนี้จะเป็นปีที่พิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากเราคนไทยไม่เพียงแต่จะลอยกระทงเพื่อสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การแสดงความขอบคุณหรือขอขมาต่อแม่พระคงคา การลอยเคราะห์ตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่นเท่านั้น แต่ในปีนี้เราคนไทยจะได้ร่วมลอยกระทงเพื่อสืบสานประเพณีไทย และร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงและมีพระชนมายุยิ่งยืนนานเป็นมิ่งขวัญของปวงพสกนิกรชาวไทยตราบนานเท่านาน”
ในการนี้ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(สวช.) ได้จัดทำสื่อเพื่อรณรงค์ ส่งเสริมประเพณีลอยกระทง อันได้แก่ หนังสือ “ลอยกระทง” เพื่อให้ความรู้ถึงสาระคุณค่าที่แท้จริงของประเพณีลอยกระทง และจะได้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยเน้นในเรื่องของสาระคุณค่าทางวัฒนธรรม อันได้แก่คุณค่าต่อครอบครัว : ทำให้สมาชิกในครอบครัวได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน คุณค่าต่อชุมชน : ทำให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีในชุมชน การส่งเสริมและสืบทอดศิลปกรรมด้านงานช่างฝีมือ ทั้งยังเป็นการพบปะสังสรรค์ สนุกสนานรื่นเริง คุณค่าต่อสังคม : ทำให้มีจิตสำนึกเอื้ออาทรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการช่วยกันรักษาความสะอาดแม่น้ำ ลำคลอง โดยการขุด ลอก เก็บขยะในแม่น้ำลำคลองให้สะอาด และไม่ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงไปในแม่น้ำลำคลอง คุณค่าต่อศาสนา : ช่วยทำนุบำรุงศาสนา โดยจัดให้มีการทำบุญให้ทาน การปฏิบัติธรรม และฟังเทศน์ อันจะเป็นแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนในการสืบสานคุณค่าของประเพณีให้คงอยู่สืบไป โดยสามารถดาวน์โหลด หนังสือ “ ลอยกระทง” (E-book) ได้ที่เว็บไซต์ ของสวช. www.culture.go.th และสปอตโทรทัศน์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าและความงดงามของประเพณีลอยกระทงและเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมลอยกระทงอธิษฐาน น้อมใจถวายพระพร นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากบริษัท บัณฑิต เซ็นเตอร์ จำกัด ในการจัดทำกระทงออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมลอยกระทงถวายพระพร ผ่านเว็บไซต์ ของสวช. และเว็บไซต์กระปุกดอตคอม www.kapook.com ซึ่งจะเป็นการเปิดช่องทางในการร่วมลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทางหนึ่ง
ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีที่งดงาม เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตา และสร้างความภาคภูมิใจให้คนไทย ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนและทุกภาคส่วนของสังคม ได้ร่วมกันรณรงค์ รักษา ส่งเสริม สิ่งที่ดีงามให้คงอยู่ เพื่อสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” และที่สำคัญยังเป็นโอกาสดีที่ประชาชนคนไทยจะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาและเทิดทูนเหนือสิ่งอื่นใด
๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ นี้ มาร่วมกัน “ลอยกระทงอธิษฐาน น้อมใจถวายพระพร” แสงเทียนในคืนเดือนเพ็ญ จะส่องสว่างทั่วหล้า อันเป็นแสงเทียนแห่งความจงรักภักดี ที่พสกนิกรชาวไทยมีต่อองค์พระประมุขซึ่งทรงเป็นที่รักยิ่ง...ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ศูนย์ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(สวช.)
|