ในช่วงนี้ จะมีข่าวแก๊งปาหินใส่รถยนต์อยู่บ่อยครั้ง ทำให้ประชาชนผู้สุจริตทั่วไปหวาดผวา ขาดความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ทำให้การเดินทางไปในท้องถิ่นต่าง ๆ ที่ห่างไกล จะต้องเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น
การกระทำความผิด ผู้ร้ายชอบจะลงมือทำในช่วงเวลากลางคืน และเป็นที่เปลี่ยว เพราะง่าย สะดวก ปลอดจากผู้คนสำหรับกระทำผิด และยากในการที่จะหาพยานและหลักฐานมัดตัวผู้กระทำความผิดเพื่อนำมาลงโทษ
สาเหตุของการกระทำความผิด อาจจะเกิดจากสาเหตุหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเพราะความคึกคะนองของวัยรุ่น หรือลัทธิการเลียนแบบเหมือนกับข่าวทางสือต่าง ๆ หรือเพราะความมึนเมา และสุดท้ายคือต้องการทรัพย์สินของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการกระทำดังกล่าว ดังคดีต่อไปนี้
ข้อเท็จจริงได้ความว่า...เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน เวลากลางวัน จำเลยใช้ก้อนหินขนาดโตเท่ากำมือจำนวน ๑ ก้อน เป็นอาวุธขว้างถูกผู้เสียหายที่ ๑ ขณะกำลังขับรถยนต์สวนมา ได้รับบาดเจ็บ เกิดบาดแผลถลอกฉีกขาด และกระดูกไหปลาร้าหักเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย
นอกจากนี้ ก้อนหินดังกล่าวได้ถูกกกระจกบังลมหน้ารถยนต์ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหายที่ ๒ ที่ผู้เสียหายที่ ๑ ขับมาได้รับความเสียหายแตก ๑ บาน คิดเป็นเงิน ๖,๐๐๐ บาท
พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย และทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐,๒๙๕,๓๕๘ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๕,๓๕๘ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดให้จำคุก ๘ เดือน ริบก้อนหินของกลาง
จำเลยฏีกา และศาลฏีกาเห็นว่า...เหตุในคดีนี้เกิดในเวลากลางวัน ผู้เสียหายที่ ๑ และพยานเคยเห็นจำเลยมาก่อนเกิดเหตุ จึงเชื่อว่่าสามารถจดจำจำเลยได้ พยานหลักฐานของโจทก์จึงมั่นคงเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายืน... (ฏีกาที่ ๓๔๑๑/๒๕๕๒)
คดีนี้เหตุเกิดในเวลากลางวันแท้ ๆ หากเป็นเวลากลางคืน ก็ยากที่จะจับตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ ผู้สุจริตชนเช่นเรา ก็คงต้องระวัง! ระวัง ! ครับ