เผ็นจิ้ง 盆景
ศิลปะการจัดสวนถาดจีน
ศิลปะการจัดสวนถาดของจีนเป็นสิ่งที่น่าศึกษา เพราะเป็นการย่อส่วนภูมิทัศน์ลงไว้ในภาชนะหรือถาด จีนเรียกว่า เผ็นจิ้ง (PENJING) (盆景)
คำว่า เผ็น แปลว่าภาชนะ หรือกระถาง จิ้ง แปลว่า ภูมิทัศน์หรือวิวทิวทัศน์ ทั่วไปมักจัดเป็นภูเขา เกาะ มีต้นไม้เล็กน้อย มีธารน้ำ ทะเลสาบ แล้วแต่จินตนาการ เผ็นจิ้ง ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของ บอนไซ ของญี่ปุ่น บอนไซ (盆栽)แปลว่า ต้นไม้ในกระถาง ดังนั้นแนวคิดหรือความหมายของเผ็นจิ้ง ที่หมายถึง ภูมิทัศน์ในกระถางหรือถาด ความหมายจึงกว้างกว่าบอนไซ
เผ็นจิ้ง ภูมิทัศน์ธรรมชาติของจีน
เผ็นจิ้งแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ เผ็นจิ้งต้นไม้ (SHUMU PENJING) กับ เผ็นจิ้งแผ่นดินและน้ำ (SHUIHAN PENJING) ตามหลักฐานภาพเขียนโบราณเผ็นจิ้งมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-907) ต่อมาในสมันราชวงศ์ซ้อง (ค.ศ.960-1279) ได้พัฒนามากขื้น จนในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ.1644-1911) เป็นที่นิยมเล่นกันมาก โดยเฉพาะปลายราชวงศ์ชิง รูปแบบยิ่งหลากหลายซับซ้อนมากขึ้น แบ่งตามรูปแบบทิวทัศน์ ลักษณะต้นไม้ ประเภทต้นไม้ตามภูมิภาคต่างๆของจีน เรียกว่ามีมากมายหลายสำนัก แต่ละจังหวัด แต่ละภาคมีแนวคิด สไตล์ที่ต่างกันไปตามความนิยมท้องถิ่น แต่ที่สำคัญที่ควรยึดถือคือพื้นฐาน ในปัจจุบันเผ็นจิ้งถือเป็นศิลปะโบราณเก่าแก่แขนงหนึ่งเช่นเดียวกับการแต่งบทกวี การเขียนอักษรจีน การเขียนภาพพู่กันจีน และการจัดสวนจีน
การทำต้นไม้ย่อส่วนได้แพร่หลายถึงญี่ปุ่นเต็มที่ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยประมาณประมาณศตวรรษที่ 6 -7 ญี่ปุ่นได้เริ่มมีการติดต่อและได้ไปศึกษารูปแบบวัฒนธรรมของจีน จนประมาณราชวงศ์ซ้องใต้ (ค.ศ. 1127-1279) ลัทธิชานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพุทธศาสนาแพร่จากอินเดียเข้าสู่จีนผสมผสานกับลัทธิเต๋าของจีน และแนวคิดนี้ได้เริ่มเข้าสู่ญี่ปุ่น จนเป็นลัทธิหรือศาสนาเซ็นของญี่ปุ่นในทุกวันนี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็นการถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมโดยมีจีนเป็นต้นแบบให้ญี่ปุ่น ดังจะเห็นว่าศิลปะแนวคิด และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมีความคล้ายคลึงกับจีนเป็นอย่างมาก
หากเปรียบเทียบ เผ็นจิ้ง กับการเขียนภาพทิวทัศน์ของจีนจะมีแนวคิดที่เหมือนกันมาก เพราะนอกจากจะเน้นภูมิทัศน์ตามธรรมชาติแล้วยังแทรกด้วยปรัชญา หยิน หยาง แสดงความสมดุลย์กลมกลืนอยู่ในตัวชิ้นงาน เผ็นจิ้งภูมิทัศน์แผ่นดินและน้ำ จะมีการจัดวางที่เน้นความสมดุลย์ ใช้ศิลปะในการเลือกต้นไม้ รูปแบบ ประเภทต้นไม้ลักษณะรูปทรงหิน สีหิน การจัดวางต้นไม้ ก้อนหิน หญ้าเล็ก มอส ต้องเป็นไปอย่างสวยงามกลมกลืน รวมทั้งการเลือกใช้ถาดหรือภาชนะที่รองรับต้องเข้ากันได้ดี สร้างจินตนาการได้อย่างเหมาะสมที่มองดูเป็นธรรมชาติเหมือนจริง ที่สำคัญอย่างยิ่งคือการจัดสวนถาดจีนที่สวยงามจะไม่เน้นรูปแบบต้นไม้ที่มีความสมบูรณ์ตามแบบแผนเหมือนบอนไซ แต่จะเน้นชนิดประเภทต้นไม้ รูปทรงลำต้น กิ่งก้านสาขา ใบ การจัดราก ที่มีความเป็นธรรมชาติกลมกลืนกับรูปทรงหินที่จัดวาง เรียกง่ายๆว่ามองดูแล้วจะไม่แข็งกระด้าง
การเลี้ยงเผ็นจิ้ง และบอนไซ เป็นการสร้างสมาธิ สร้างจินตนาการและการได้อยู่ใกล้ภาวะธรรมชาติ การเลี้ยงดูจะช่วยสร้างความมานะพยายาม ความอดทน แต่ที่จริงแล้วหากท่านเป็นคนรักต้นไม้ รักธรรมชาติ ชอบท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวภาพทิวทัศน์ที่พบเห็นมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งหากมีหัวศิลปะ รักศิลปะด้วยยิ่งจะทำให้สามารถสร้างเผ็นจิ้ง และบอนไซ ได้ดี ท่านจะเพลิดเพลินใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เป็นงานอดิเรกที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะถ้าเราสร้างเอง ทำเอง เลี้ยงดูแลเองยิ่งภูมิใจเป็นที่สุด เพราะมันคือ ผลงานศิลปะที่มีชีวิตโดยฝีมือของท่านเอง
การสร้างเผ็นจิ้งของจีนนั้นลึกซึ้งมาก มันเป็นการผนึกเอาพลังความคิดของเต๋าที่สืบทอดมาเป็นพันปี ที่รวมเอาจิตวิญญาณและร่างกายเป็นหนึ่งเดียว ละวางโดยไม่ยึดติดกับหลักเกณฑ์ แต่ยึดถือธรรมชาติสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเป็นสำคัญ เช่นเดียวกันกับลัทธิหรือศาสนาเซ็นของญี่ปุ่น การทำสมาธิของ ชาน เต๋า เซ็นมีที่มาคล้ายกัน การสร้างเผ็นจิ้ง และบอนไซ จึงต้องรวบรวมสมาธิดัด ตัดแต่ง วางรูปแบบในการจัดวางหิน ต้นไม้ สร้างน้ำ ลำธารขึ้นมาในแบบธรรมชาติ ที่กล่าวมาเป็นการกล่าวในหลักการให้สวยหรูเป็นศาสตร์ ลึกซึ้งตามแนวคิดของต้นตำหรับ แต่คงไม่ถึงกับทำให้ท่านเลิกสนใจอยากเลี้ยงอยากทำไปเลยเพราะดูมันยากหนักหนา สำหรับท่านผู้สนใจขอให้พอมีคุณสมบัติดังที่กล่าวมาแล้วก็พอ เพียงรักต้นไม้ รักธรรมชาติ มีความสนใจใฝ่ศึกษา มีจินตนาการสามารถทำได้ครับ มันเป็นศิลปะจริงๆ ไม่ลองไม่รู้
อ่านเรื่องอื่นๆหรือแวะทักทายที่
http://อาจารย์เข่.kroobannok.com