Advertisement
|
|
|
ธรรมะธรรมโม ไหว้พระไหว้เจ้าเป็นนิจศีล กลับเสี่ยงมะเร็งปอด กลิ่นหอมจากควันธูปอันตรายไม่น้อย
แม้ในคนที่กลัวมะเร็งจากบุหรี่ ไม่แตะไม่ต้อง เจอที่ไหน พยายามหนีให้ไกล แต่ควันธูปมีผลร้ายไม่แตกต่างจากควันบุหรี่
คุณหมอ ดร.Jeppe T. Friborg หัวหน้าคณะวิจัยในโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก บอกว่า การที่มีโอกาสสูดดมกลิ่นควันธูปเป็นประจำ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่ปอด แม้คน ๆ นั้นจะเป็นคนที่สูบหรือไม่สูบบุหรี่ก็ตาม
|
ควันธูปกลิ่นหอมซ่อนพิษร้าย
คนเราส่วนใหญ่มักจะไม่รังเกียจกลิ่นหรือควันของธูป โดยเฉพาะคนไทยและคนในภูมิภาคเอเชีย เราจะเห็นศาสนสถานที่อบอวลไปด้วยควันธูปในเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา
เรามักจะไม่หนี ไม่รังเกียจเหมือนกับเจอกลิ่นหรือควันบุหรี่ แต่ผลลัพธ์ของสองสิ่งกลับก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบหายใจของเรา และอาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปอดได้
ธูป ทำมาจากส่วนผสมของพืชหลายชนิดเติมกับสารแต่งกลิ่นหอม แต่เมื่อจุดให้ติดไฟเพื่อบูชา ส่วนผสมหลากหลายนี้จะก่อให้เกิดสารคาร์ซิโนเจน ( Carcinogens) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการก่อมะเร็งให้กับร่างกายของเราเหมือนกับสารที่ประกอบอยู่ในควันบุหรี่
ในช่วงก่อนหน้านี้ยังไม่มีผลสรุปอะไรที่บอกได้ว่าควันธูปมีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปอด
แต่นักวิจัยก็ไม่วายสงสัยติดตามดูว่า ถ้าเราสูดเอาควันธูปเข้าไปในปอดบ่อย ๆ ครั้ง จะมีผลอย่างไรกับปอด แหล่งฟอกเลือดสำคัญในร่างกายของเรา
|
การวิจัยอีกชิ้นหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ โดยติดตามสอบถามคนจีนในสิงคโปร์ 60,000 คน ให้ทำแบบสอบถามถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การกิน การอยู่ พร้อมถึงความถี่ที่ไหว้พระไหว้เจ้าที่สัมผัสกับควันธูป (เราจะไม่แปลกใจเลยที่เวลาเราไปที่เมืองลอดช่องแห่งนี้มักจะเห็นชาวสิงคโปร์กำธูปเต็มกำมือสวดมนต์ไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป)
ทั้ง 60,000 คน เริ่มตอบแบสอบถามตั้งแต่ปี 1993 ทุกคนไม่มีใครเป็นมะเร็ง แต่ใน 60,000 คนนี้มี 75% ที่บอกว่าไหว้เจ้าเป็นประจำ เจอกับควันธูปบ่อย ๆ เมื่อจบการติดตามในปี 2005 ผลปรากฏว่ามีคนเป็นมะเร็งในระบบทางเดินหายใจ 328 คน และอีก 821 คนที่เป็นมะเร็งปอด
|
|
ทำให้มีข้อสรุปได้ว่า ยิ่งไหว้มากยิ่งเป็นมะเร็ง ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า หากสูบดมควันธูปอยู่เป็นประจำและเป็นระยะเวลายาวนาน จะยิ่งเพิ่มการเป็นมะเร็งปอด เป็นข้อเตือนภัยให้รับรู้ถึงพิษร้ายที่เข้ามาหาเราในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง ในอดีตธูปไม่ได้ประกอบด้วยสารสังเคราะห์ที่แสนพิสดารแต่งกลิ่นกันหลากหลาย ยิ่งจุด ยิ่งหอม ยิ่งถูกมะเร็งถามหา กลิ่นธูปหอมที่ถูกใจ นาน ๆเจอกันที ไม่สามารถทำอะไรเราได้มากนัก แต่ถ้าทุกวัน หรือประจำทุกอาทิตย์ แม้จะเป็นกิจกรรมที่สบายใจเป็นบุญแต่ต้องระมัดระวังการใช้ให้ดี
เดี๋ยวจะมานั่งสงสัยว่าไหว้พระไหว้เจ้ามาตลอดชีวิต ทำไมเป็นมะเร็งได้ ส่วนคนอื่น
ที่ไม่เคยเข้าวัดเข้าวาเลย ไม่เห็นเป็นอะไร เพราะเราประมาทไป กับการสูดสารเคมีก่อมะเร็งทุกวัน ๆ แล้วหลงไปว่ากำลังดื่มด่ำสร้างบารมีกับบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์
ท่ามกลางควัน (พิษของ) ธูป
|
|
ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ
ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ
ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) โดย นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าไอซียู รพ.วิชัยยุทธ แถลงข่าวผลงานวิจัยเรื่อง “สารก่อมะเร็ง : ภัยเงียบที่มากับควันธูป” ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยร่วมกับ น.ส. พนิดา นวสัมฤทธิ์ นักวิจัยห้องปฏิบัติการพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
โดยทำการศึกษาถึงอันตรายของควันธูป ที่ประชาชนชาวพุทธนิยมใช้จุดเพื่อบูชาพระ ทั้งนี้ เนื่องจาก จากสถิติการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอดในเพศหญิงพบว่ากว่าร้อยละ 50 ไม่พบประวัติสูบบุหรี่ หรือใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ และยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็ง
แม้ว่าร้อยละ 80 - 90 ของผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาวิจัยในครั้ง ได้ผลสรุปที่น่าตกใจว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับปัจจัยที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง กลับมีสาเหตุมาจากภัยที่เพิ่งค้นพบคือ สารพิษก่อมะเร็งจากควันธูป ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
นพ.มนูญ กล่าวต่อว่า จากการศึกษาควันธูปมีสารก่อมะเร็ง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน มีส่วนประกอบมาจากกาว ขี้เลื่อย น้ำมันหอม และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม เป็นต้น โดยสารก่อมะเร็งเกิดจากการเผาไหม้ของกาวและน้ำหอม เป็นสำคัญ
ทั้งนี้ ในการศึกษาวิจัย ทีมวิจัยได้ออกทำการสำรวจหาสารก่อมะเร็งในบริเวณวัดชื่อดังในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ จำนวน 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งเป็นวัดที่มีคนเข้าไปบูชากราบไหว้พระกันมาก โดยเริ่มดำเนินการสำรวจพร้อมตรวจสุขภาพคนงานที่ปฏิบัติงานในวัดจำนวน 40 คน เปรียบเทียบกับคนงานในหน่วยงานที่ไม่มีการจุดธูปจำนวน 25 คน
โดยการตรวจเลือดและปัสสาวะ พบว่า คนงานที่ทำงานในวัดทั้งหมดมีสารก่อมะเร็งผสมอยู่ในเลือดและปัสสาวะสูงกว่าคน ที่ไม่ทำงานในวัดถึง 4 เท่า โดยในวัดมีสารดังกล่าวสูงกว่าสถานที่ที่ไม่จุดธูปถึง 63 เท่า ที่สำคัญจากการตรวจร่างกายในคนงานในวัด 40 คนยังพบการแตกหักของรหัสพันธุกรรมสูงกว่าคนปกติถึง 2 เท่าอีกด้วย
“นอกจากนี้สำหรับการจุดธูปในบ้านตามความเชื่อและ ประเพณีที่ทำกันมาของคนไทย ที่ต้องการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดควันธูปในบ้านมาก ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะ ธูป 3 ดอกสามารถปล่อยมลพิษและสารก่อมะเร็งได้เทียบเท่าสี่แยกไฟแดงที่มีการจราจร คับคั่ง” นพ.มนูญ กล่าว และว่า
ผลการวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Chemico –biological/ interactions ของประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือน ก.พ.2551 ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเป็นหนึ่งในทีมวิจัยด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของธูปที่ไร้ควัน หรือธูปอโรมา มีสารก่อมะเร็งหรือไม่ นพ.มนูญ กล่าวว่า ธูปทุกชนิดล้วนมีสารก่อมะเร็งทั้งสิ้น ธูปไร้ควันและธูปอโรมา เคยมีงานวิจัยออกมาพบว่า มีการปล่อยสารเบนซินมากกว่าธูปธรรมดาด้วยซ้ำไป
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐควรมีการรณรงค์เรื่องนี้ให้ระมัดระวังกันถ้วนหน้า และต้องมีการรณรงค์ดับควันธูป โดยหลังจากจุดธูปแล้วควรมีการจุ่มธูปลงในน้ำหรือทรายก่อนปักลงในกระถางจะ ช่วยลดควันธูปได้ และในอนาคตภาคอุตสาหกรรมควรมีการผลิตธูปที่เมื่อจุดแล้วดับได้ทันทีภายในไม่ กี่วินาที
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
อ่านเรื่องอื่นๆหรือแวะทักทายที่
http://อาจารย์เข่.kroobannok.com
วันที่ 25 ต.ค. 2552
ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด ในราคา ฿368 - ฿999 ที่ Shopeehttps://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6
Advertisement
เปิดอ่าน 7,155 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,160 ครั้ง เปิดอ่าน 7,153 ครั้ง เปิดอ่าน 7,411 ครั้ง เปิดอ่าน 7,160 ครั้ง เปิดอ่าน 7,155 ครั้ง เปิดอ่าน 7,175 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,153 ครั้ง เปิดอ่าน 7,169 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,181 ครั้ง เปิดอ่าน 7,190 ครั้ง เปิดอ่าน 7,182 ครั้ง เปิดอ่าน 7,188 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,159 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,182 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,179 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,186 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,163 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,152 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 24,834 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,810 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,353 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,945 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,389 ครั้ง |
|
|