ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ตะลึง!ผลวิจัยชี้ ระวัง!!! ควันธูปมีสาร ก่อ มะเร็ง ...เพียบ..


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,152 ครั้ง
Advertisement

ตะลึง!ผลวิจัยชี้ ระวัง!!! ควันธูปมีสาร ก่อ มะเร็ง ...เพียบ..

Advertisement

 

ระวัง ควันธูป ก่อ มะเร็ง

Text Size
A A A

     ธรรมะธรรมโม ไหว้พระไหว้เจ้าเป็นนิจศีล กลับเสี่ยงมะเร็งปอด กลิ่นหอมจากควันธูปอันตรายไม่น้อย
     แม้ในคนที่กลัวมะเร็งจากบุหรี่ ไม่แตะไม่ต้อง เจอที่ไหน พยายามหนีให้ไกล แต่ควันธูปมีผลร้ายไม่แตกต่างจากควันบุหรี่

    คุณหมอ ดร.Jeppe T. Friborg  หัวหน้าคณะวิจัยในโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก บอกว่า การที่มีโอกาสสูดดมกลิ่นควันธูปเป็นประจำ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่ปอด แม้คน ๆ นั้นจะเป็นคนที่สูบหรือไม่สูบบุหรี่ก็ตาม

ควันธูปกลิ่นหอมซ่อนพิษร้าย

    คนเราส่วนใหญ่มักจะไม่รังเกียจกลิ่นหรือควันของธูป โดยเฉพาะคนไทยและคนในภูมิภาคเอเชีย เราจะเห็นศาสนสถานที่อบอวลไปด้วยควันธูปในเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา

 

    เรามักจะไม่หนี ไม่รังเกียจเหมือนกับเจอกลิ่นหรือควันบุหรี่ แต่ผลลัพธ์ของสองสิ่งกลับก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบหายใจของเรา และอาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปอดได้
    ธูป ทำมาจากส่วนผสมของพืชหลายชนิดเติมกับสารแต่งกลิ่นหอม แต่เมื่อจุดให้ติดไฟเพื่อบูชา ส่วนผสมหลากหลายนี้จะก่อให้เกิดสารคาร์ซิโนเจน ( Carcinogens)  ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการก่อมะเร็งให้กับร่างกายของเราเหมือนกับสารที่ประกอบอยู่ในควันบุหรี่


    ในช่วงก่อนหน้านี้ยังไม่มีผลสรุปอะไรที่บอกได้ว่าควันธูปมีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปอด
แต่นักวิจัยก็ไม่วายสงสัยติดตามดูว่า ถ้าเราสูดเอาควันธูปเข้าไปในปอดบ่อย ๆ ครั้ง จะมีผลอย่างไรกับปอด แหล่งฟอกเลือดสำคัญในร่างกายของเรา

     การวิจัยอีกชิ้นหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ โดยติดตามสอบถามคนจีนในสิงคโปร์ 60,000 คน ให้ทำแบบสอบถามถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การกิน การอยู่ พร้อมถึงความถี่ที่ไหว้พระไหว้เจ้าที่สัมผัสกับควันธูป (เราจะไม่แปลกใจเลยที่เวลาเราไปที่เมืองลอดช่องแห่งนี้มักจะเห็นชาวสิงคโปร์กำธูปเต็มกำมือสวดมนต์ไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป)
     ทั้ง 60,000 คน เริ่มตอบแบสอบถามตั้งแต่ปี 1993 ทุกคนไม่มีใครเป็นมะเร็ง แต่ใน 60,000 คนนี้มี 75% ที่บอกว่าไหว้เจ้าเป็นประจำ เจอกับควันธูปบ่อย ๆ เมื่อจบการติดตามในปี 2005 ผลปรากฏว่ามีคนเป็นมะเร็งในระบบทางเดินหายใจ 328 คน และอีก 821 คนที่เป็นมะเร็งปอด

 

    ทำให้มีข้อสรุปได้ว่า ยิ่งไหว้มากยิ่งเป็นมะเร็ง ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า หากสูบดมควันธูปอยู่เป็นประจำและเป็นระยะเวลายาวนาน จะยิ่งเพิ่มการเป็นมะเร็งปอด เป็นข้อเตือนภัยให้รับรู้ถึงพิษร้ายที่เข้ามาหาเราในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง     ในอดีตธูปไม่ได้ประกอบด้วยสารสังเคราะห์ที่แสนพิสดารแต่งกลิ่นกันหลากหลาย ยิ่งจุด ยิ่งหอม ยิ่งถูกมะเร็งถามหา  กลิ่นธูปหอมที่ถูกใจ นาน ๆเจอกันที ไม่สามารถทำอะไรเราได้มากนัก แต่ถ้าทุกวัน หรือประจำทุกอาทิตย์ แม้จะเป็นกิจกรรมที่สบายใจเป็นบุญแต่ต้องระมัดระวังการใช้ให้ดี

 


    เดี๋ยวจะมานั่งสงสัยว่าไหว้พระไหว้เจ้ามาตลอดชีวิต ทำไมเป็นมะเร็งได้ ส่วนคนอื่น
ที่ไม่เคยเข้าวัดเข้าวาเลย ไม่เห็นเป็นอะไร เพราะเราประมาทไป กับการสูดสารเคมีก่อมะเร็งทุกวัน ๆ แล้วหลงไปว่ากำลังดื่มด่ำสร้างบารมีกับบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์
ท่ามกลางควัน (พิษของ) ธูป

ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ

ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ


ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ

ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) โดย นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าไอซียู รพ.วิชัยยุทธ แถลงข่าวผลงานวิจัยเรื่อง “สารก่อมะเร็ง : ภัยเงียบที่มากับควันธูป” ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยร่วมกับ น.ส. พนิดา นวสัมฤทธิ์ นักวิจัยห้องปฏิบัติการพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ 

โดยทำการศึกษาถึงอันตรายของควันธูป ที่ประชาชนชาวพุทธนิยมใช้จุดเพื่อบูชาพระ ทั้งนี้ เนื่องจาก จากสถิติการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอดในเพศหญิงพบว่ากว่าร้อยละ 50 ไม่พบประวัติสูบบุหรี่ หรือใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ และยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็ง

แม้ว่าร้อยละ 80 - 90 ของผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาวิจัยในครั้ง ได้ผลสรุปที่น่าตกใจว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับปัจจัยที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง กลับมีสาเหตุมาจากภัยที่เพิ่งค้นพบคือ สารพิษก่อมะเร็งจากควันธูป ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

 
 นพ.มนูญ กล่าวต่อว่า จากการศึกษาควันธูปมีสารก่อมะเร็ง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน มีส่วนประกอบมาจากกาว ขี้เลื่อย น้ำมันหอม และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม เป็นต้น โดยสารก่อมะเร็งเกิดจากการเผาไหม้ของกาวและน้ำหอม เป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ในการศึกษาวิจัย ทีมวิจัยได้ออกทำการสำรวจหาสารก่อมะเร็งในบริเวณวัดชื่อดังในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ จำนวน 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งเป็นวัดที่มีคนเข้าไปบูชากราบไหว้พระกันมาก โดยเริ่มดำเนินการสำรวจพร้อมตรวจสุขภาพคนงานที่ปฏิบัติงานในวัดจำนวน 40 คน เปรียบเทียบกับคนงานในหน่วยงานที่ไม่มีการจุดธูปจำนวน 25 คน

โดยการตรวจเลือดและปัสสาวะ พบว่า คนงานที่ทำงานในวัดทั้งหมดมีสารก่อมะเร็งผสมอยู่ในเลือดและปัสสาวะสูงกว่าคน ที่ไม่ทำงานในวัดถึง 4 เท่า  โดยในวัดมีสารดังกล่าวสูงกว่าสถานที่ที่ไม่จุดธูปถึง 63 เท่า ที่สำคัญจากการตรวจร่างกายในคนงานในวัด 40 คนยังพบการแตกหักของรหัสพันธุกรรมสูงกว่าคนปกติถึง 2 เท่าอีกด้วย


 “นอกจากนี้สำหรับการจุดธูปในบ้านตามความเชื่อและ ประเพณีที่ทำกันมาของคนไทย ที่ต้องการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดควันธูปในบ้านมาก ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะ ธูป 3 ดอกสามารถปล่อยมลพิษและสารก่อมะเร็งได้เทียบเท่าสี่แยกไฟแดงที่มีการจราจร คับคั่ง” นพ.มนูญ กล่าว และว่า

ผลการวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Chemico –biological/ interactions ของประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือน ก.พ.2551 ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเป็นหนึ่งในทีมวิจัยด้วย
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของธูปที่ไร้ควัน หรือธูปอโรมา มีสารก่อมะเร็งหรือไม่ นพ.มนูญ กล่าวว่า ธูปทุกชนิดล้วนมีสารก่อมะเร็งทั้งสิ้น ธูปไร้ควันและธูปอโรมา เคยมีงานวิจัยออกมาพบว่า มีการปล่อยสารเบนซินมากกว่าธูปธรรมดาด้วยซ้ำไป

อย่างไรก็ตาม ภาครัฐควรมีการรณรงค์เรื่องนี้ให้ระมัดระวังกันถ้วนหน้า และต้องมีการรณรงค์ดับควันธูป โดยหลังจากจุดธูปแล้วควรมีการจุ่มธูปลงในน้ำหรือทรายก่อนปักลงในกระถางจะ ช่วยลดควันธูปได้ และในอนาคตภาคอุตสาหกรรมควรมีการผลิตธูปที่เมื่อจุดแล้วดับได้ทันทีภายในไม่ กี่วินาที

ที่มาจากหนังสือพิมพ์
รูปส่วนตัว aof1234

อ่านเรื่องอื่นๆหรือแวะทักทายที่

http://อาจารย์เข่.kroobannok.com

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3113 วันที่ 25 ต.ค. 2552

ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด ในราคา ฿368 - ฿999 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6


ตะลึง!ผลวิจัยชี้ ระวัง!!! ควันธูปมีสาร ก่อ มะเร็ง ...เพียบ.. ตะลึง!ผลวิจัยชี้ระวัง!!!ควันธูปมีสารก่อมะเร็ง...เพียบ..

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

นาฏศิลป์

นาฏศิลป์


เปิดอ่าน 7,411 ครั้ง
อัมพาต ....เพราะน้ำอัดลม

อัมพาต ....เพราะน้ำอัดลม


เปิดอ่าน 7,153 ครั้ง
เพลง...โลกนี้คือละคร

เพลง...โลกนี้คือละคร


เปิดอ่าน 7,181 ครั้ง
สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(9)

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(9)


เปิดอ่าน 7,182 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เคล็ดลับดูสุริยุปราคา

เคล็ดลับดูสุริยุปราคา

เปิดอ่าน 7,159 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ตำนานนางมารร้าย...เมดูซ่า..
ตำนานนางมารร้าย...เมดูซ่า..
เปิดอ่าน 7,182 ☕ คลิกอ่านเลย

ประหยัดชีวิต...พิชิตด้วยผักตามฤดูกาล
ประหยัดชีวิต...พิชิตด้วยผักตามฤดูกาล
เปิดอ่าน 7,179 ☕ คลิกอ่านเลย

รักอย่างไรให้โลกสวยงาม
รักอย่างไรให้โลกสวยงาม
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย

ดาวน์โหลดคลิปวีดีโอจาก Youtube
ดาวน์โหลดคลิปวีดีโอจาก Youtube
เปิดอ่าน 7,186 ☕ คลิกอ่านเลย

ธรรมะ...จากต้นไม้...โดย ท่านภิกขุ ปัญญาวัฒน์
ธรรมะ...จากต้นไม้...โดย ท่านภิกขุ ปัญญาวัฒน์
เปิดอ่าน 7,163 ☕ คลิกอ่านเลย

สื่อการเรียนรู้ BBL พัฒนาไอคิวเด็กไทย
สื่อการเรียนรู้ BBL พัฒนาไอคิวเด็กไทย
เปิดอ่าน 7,152 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ไขข้อข้องใจ กินเห็ดมีประโยชน์จริงหรือ?
ไขข้อข้องใจ กินเห็ดมีประโยชน์จริงหรือ?
เปิดอ่าน 24,834 ครั้ง

คำรำพึง ของคนที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ในการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
คำรำพึง ของคนที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ในการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 9,810 ครั้ง

เปิด4เมนูอาหารชุด นิยมใช้ตักบาตร ทำสงฆ์ป่วยสารพัดโรค
เปิด4เมนูอาหารชุด นิยมใช้ตักบาตร ทำสงฆ์ป่วยสารพัดโรค
เปิดอ่าน 13,353 ครั้ง

"สับปะรด" ลดริ้วรอยบนใบหน้า
"สับปะรด" ลดริ้วรอยบนใบหน้า
เปิดอ่าน 11,945 ครั้ง

ขนส่งฯ แจ้ง เปลี่ยนทะเบียนแตกลายงา ฟรี! วันนี้ - 30 ก.ย. 56
ขนส่งฯ แจ้ง เปลี่ยนทะเบียนแตกลายงา ฟรี! วันนี้ - 30 ก.ย. 56
เปิดอ่าน 15,389 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ