น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและน้ำพระราชหฤทัยอันประเสริฐของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่มี ต่อประเทศชาติ และยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด ในโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 21 ตุลาคมนี้ สยามพารากอน จึงร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และบริษัทสยามพิวรรธน์ จำกัด จัดงาน "คิดถึง...สมเด็จย่า" ระหว่าง วันที่ 22 ต.ค.- 4 พ.ย. ณ ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าสยามพารากอน
สำหรับงาน "คิดถึง...สมเด็จย่า" ปีนี้ คุณหญิง พวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์ส่งเสริมอาชีพหัตถกรรมและอุตสาหกรรมโครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เผยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "เส้นทางแม่ ฟ้าหลวง" เพื่อสื่อให้เห็นถึงพระราชปณิธานของสมเด็จย่าในการสร้างชีวิตใหม่ให้ชาวเขา ทั้งโอกาสทางการศึกษาและฝึกอาชีพ โดยมีโครงการพัฒนาดอยตุง เป็นเส้นทางที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของ "คน" และให้โอกาสแก่ "คน" ทั้งนี้ สมเด็จย่า โปรดการปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ทรงเปรียบการปลูกต้นไม้ ดั่งการปลูก "คน" ที่ต้องเลี้ยงดู ให้การศึกษา ให้มีระเบียบวินัย เรียกว่าทรงมองทุกเรื่องย้อนกลับไปที่ "คน"
นิทรรศการครั้งนี้ยังบอกเล่าไปถึงการทรงงานของสมเด็จย่าก่อนจะมาเป็นมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงด้วยว่า ทรงช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นจากของที่ชาวบ้านมีอยู่ แล้วและทรงให้การศึกษาแก่เด็กชาวเขา โดยทรงเอาคนมาพัฒนาทักษะที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น และรับสั่งถึง สินค้าของโครงการดอยตุงเสมอว่า "อย่าให้คนซื้อของของเราด้วยความสงสาร" สินค้าของดอยตุงจึงมีคุณภาพและได้รับการพัฒนาจนติดตลาดและกำลังจะก้าวไปสู่ตลาด ระดับพรีเมียม ทั้งนี้ พระองค์ทรงพัฒนาให้คนยืนหยัดอยู่บนขาของตัวเองได้ โดยไม่ได้ทรงมุ่งหวังเพื่อสร้างกำไร จากที่ดอยตุงไม่มีอะไรเลย ตอนนี้กำลังจะมีโรงพยาบาลเล็กๆ เกิดขึ้นที่นั่น มีหมอเป็นเด็กชาวเขาที่ได้รับการส่งเสีย ให้ร่ำเรียนจนจบแพทย์ สมกับที่สมเด็จย่าทรงมีความเชื่อมั่น ใน "คน" ว่า คนทุกคนสามารถพัฒนาได้ สามารถยืนหยัดอยู่บนลำแข้งของตัวเองอย่างมีศักดิ์ศรี โดยมีพระองค์ท่านเป็นผู้ทำให้เกิด "โอกาส"
นอกจากนี้ ทาง อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ร่วมกับสำนักกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรุงเทพมหานครและกระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน "น้อมรำลึกถึงสมเด็จย่า ณ นิวาสสถานเดิม ครั้งที่ 11" ในวันที่ 21 ต.ค. เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เช่นกัน โดย ท่าน ผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการบริหารงานอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวว่า กิจกรรมในงานนี้เริ่มตั้งแต่เช้าด้วยพิธีถวายพระราชกุศล โดยการ ทำบุญเลี้ยงพระตักบาตรพระสงฆ์ 110 รูป จากนั้นจะมีการเปิดให้บริการด้านสาธารณสุขจากหน่วยแพทย์ทันตกรรม, การบริการตัดผมและนวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ จากชมรมอนุรักษ์การนวดแผนโบราณในมูลนิธิคอลฟิลด์ เพื่อคนตาบอด
ท่านผู้หญิงบุตรีกล่าวต่อว่า ภายในงานยังได้มีการจัดแสดงเรื่องราวความอุดมสมบูรณ์ของวิถีชีวิตไทย และความพอเพียงแบบเรียบง่ายตามรอยสมเด็จย่าและตื่นตากับการแสดงดนตรีจากกรมศิลปากร ตอน "ย้อน ตำนาน...เล่าขานย่านบ้านเดิม" การแสดงหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์และสนุกสนานกับดนตรีในอุทยานโดย BOS Light Orchestra พร้อมจับจ่ายสินค้าแหล่งใหญ่ที่สุดในย่านธนบุรีและพระนครสมัยรัชกาลที่ 5 โดยจะมีการ จำลองตลาดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถบตลาดสมเด็จมาไว้ ภายในงานด้วย ส่วนไฮไลต์ของงานจะปิดท้ายด้วยการจุด เทียนถวายพระพรและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในเวลา 19.09 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ